Latest

ไตรกลีเซอไรด์สูง ทั้งที่ยังหนุ่มๆ

เพื่อนชายอายุ 26 ปี ไม่มีประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว น้ำหนักและเส้นรอบพุงปกติ ตรวจสุขภาพประจำปี พบ Chol 206 HDL 40.1 TG 446 ควรให้คำแนะนำหรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไรคะ และขอถามเพิ่มเติม เรื่อง การตรวจไขมัน ควรเริ่มตรวจกันที่อายุเท่าไร จึงจะเหมาะสมคะ

น้ำใส

ตอบครับ

1. เพื่อนผู้ชายของคุณเป็นโรคไขมันผิดปกติชนิดไตรกลีเซอไรด์สูง (hypertriglyceridemia) คำแนะนำคือ

1. ลดอาการพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลลงอย่างเข้มงวด เพราะอาหารพวกนี้เมื่อเหลือใช้แล้วร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์
2. ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ ต้องเลิก เพราะคนเป็นโรคนี้ตับก็แย่อยู่แล้ว ยังจะต้องอุทิศพื้นที่และเวลามาสลายพิษของแอลกอฮอล์อีก ตับจะสู้ไม่ไหว นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรทส่วนเกินอีกด้วย
3. ออกกำลังกายให้ได้ระดับมาตรฐานสากล หมายความว่าออกกำลังกายต่อเนื่องให้ถึงขั้นเหนื่อยพอควร (เหนื่อยจนร้องเพลงไม่ได้) ติดต่อกันไปครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 ครั้ง บวกการเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทำอย่างนี้ได้จึงจะถือว่าได้ออกกำลังกายถึงระดับมาตรฐานสำหรับคนทั่วไป การออกกำลังกายเป็นวิธีลดไขมันได้แน่นอนที่สุด
4. เปลี่ยนธัญพืชที่กินอยู่ให้เป็นธัญพืชไม่ขัดสี เช่นเปลี่ยนข้าวขาวเป็นข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้อง ขนมปังขาวเป็นขนมปังโฮลวีท เป็นต้น เพราะธัญพืชไม่ขัดสีมีกากชนิดละลายได้ช่วยดูดซับไขมันไม่ให้เข้าสู่ร่างกายมาก
5. กินนำมันปลาเสริม ใช่แล้ว น้ำมันปลาหรือโอเมก้า 3 ที่เขาทำเป็นเม็ดขายนั่นแหละ ปกติหนึ่งเม็ดคือหนึ่งกรัม ให้กินวันละ 2-4 กรัม น้ำมันปลาลดไตรกลีเซอไรด์ได้แน่นอน แถมยังเป็นอาหารเสริมชนิดเดียวที่ FDA ยอมให้เขียนข้างขวดว่า “ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้”
6. ทำทั้งหมดนี้ให้ได้ต่อเนื่องไปสัก 6 เดือนแล้วไปเจาะเลือดใหม่ รับประกันว่าไตรกลีเซอไรด์จะลงมาเป็นปกติ คือต่ำกว่า 150 แต่ถ้าทำแล้วเจาะเลือดแล้วไตรกลีเซอไรด์ยังสูงเกิน 200 (ซึ่งโอกาสเป็นเช่นนั้นน้อยมาก) แนะนำว่าให้ไปหาหมอหัวใจเพื่อของยาลดไตรกลีเซอไรด์มากิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูงส่งผลเสียระยะยาว คือทำให้เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดง่ายขึ้น

2. การตรวจไขมันในเลือดควรเริ่มเมื่อใด ตอบว่าในวัยรุ่น ควรเจาะระดับไขมันในเลือดดูสักหนึ่งครั้งเอาไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานของเรา หลังจากนั้น ถ้าผลครั้งแรกปกติดี จะดูถี่แค่ไหน ดูทุกปีดีหรือเปล่า หรือสักห้าปีทีหนึ่งพอใหม่ คำตอบก็คือไม่มีหลักฐานการแพทย์ระบุชัดว่าวัยรุ่นควรเจาะเลือดดูไขมันบ่อยแค่ไหน เอาเป็นว่าชอบแบบไหนทำแบบนั้นละกัน คำแนะนำส่วนตัวของผมก็คือ ให้ไปสนใจที่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (หมายถึงอาหารการกินและการออกกำลังกาย) ของตัวเองเป็นสำคัญ อย่าเอาแต่เจาะเลือดแล้วไม่ปรับเปลี่ยนอะไรตัวเองเลย ไม่มีประโยชน์ครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์