กลิ่นปากและลมหายใจเหม็น
มาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1.1.1 ไม่แปรงฟัน คือคนขี้เกียจ อย่างดีตื่นนอนเช้าก็เอาน้ำยาบ้วนปากกลั้วปาก แต่ว่ามันแทนการแปรงฟันไม่ได้ เพราะการแปรงฟันช่วยขจัดเอาเคลือบบักเตรีที่อยู่บนผิวฟัน (dental plaque) ออกไป แต่น้ำยาบ้วนปากขจัด dental plaque ไม่ได้
1.1.2 แปรงฟันไม่ถูกเวลา เวลาที่ควรแปรงฟันคือหลังตื่นนอน (เพื่อขจัด plaque ที่สะสมมาตลอดคืน) และเวลาหลังอาหารทุกมื้อ (เพื่อขจัดเศษอาหารที่เพิ่งทานเข้าไป)
1.1.3 แปรงฟันไม่ถูกวิธี คือแปรงแบบถูไปถูมา ถูมาถูไปจนเหงือกพัง การแปรงฟันที่ถูกวิธีต้องเอาขนแปรงแหย่เข้าไปในซอกฟันแล้วปัดขนแปรงออกเหมือนเราใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดขยะออกจากมุมสวน
1.1.4 ไม่ได้ใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) คือเศษอาหารที่หลบอยู่ในซอกหลืบบางจุดขนแปรงเข้าไปเขี่ยไม่ได้ ต้องใช้ไหมขัดฟันลากออกมา ทุกคนจึงต้องหัดใช้ไหมขัดฟันให้เป็นนิจสิน
1.1.5 ไม่ได้แปรงลิ้น เพราะลิ้นของเรานี้มีธรรมชาติเป็นตะปุ่มตะป่ำทำให้บักเตรีไปสร้างบ้านแปงเมืองอยู่ได้ง่ายจนมองเห็นเป็นฝ้าขาวไปหมด เวลาแปรงฟันต้องแปรงที่ลิ้นและโคนลิ้นให้เกลี้ยงด้วย
1.2 กลิ่นจากอาหารและเครื่องดื่ม เช่น บุหรี่ กาแฟ อาหารที่ปรุงด้วยกระเทียม ล้วนทำให้เกิดกลิ่น
1.3 ฟันผุ แล้วไม่ได้รับการรักษา ทำให้บักเตรีในหลุมผลิตกลิ่นออกมาได้
1.4 เหงือกอักเสบ
1.5 รากฟันเป็นฝี(root abscess)
2. สาเหตุในจมูกและโพรงไซนัส
2.1 โพรงไซนัสอักเสบเรื้อรัง (chronic sinusitis) ทำให้น้ำมูกขังอยู่ในโพรงไซนัส ถ้าขังไว้นานแล้วมีบักเตรีแบบไม่ใช้ออกซิเจนไปเติบโตขึ้นก็จะเน่าส่งกลิ่น ซึ่งบางครั้งก็มีกลิ่นแรง ขอโทษ..เหมือนใครเข้าไปสร้างส้วมไว้ตรงนั้น โรคโพรงไซนัสอักเสบเรื้อรังนี้บางครั้งๆเป็นๆหายๆ ช่วงไหนทำตัวดี หมายถึงได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอก็มีอาการดีขึ้น ช่วงไหนอดนอนหรือไม่ได้ออกกำลังกายจมูกก็เริ่มโชยกลิ่น นี่เป็นวงจรปกติของโรคนี้
2.2 เยื่อจมูกอักเสบแบบฝ่อ(atrophic rhinitis) คือเยื่อจมูกมีการเปลี่ยนแปลงจากแต่เดิมที่เป็นเยื่อบุทางเดินลมหายใจ (columnar epithelium) ซึ่งมีขน ไปเป็นแบบเยื่อบุผิวหนัง (squamous epithelium) ซึ่งไม่มีขนคอยปัดขี้มูกออกมา ทำให้ขี้มูกตกค้างอยู่ในจมูก จนแห้งเขรอะเกาะติดอยู่บนเยื่อบุจมูก เกิดกลิ่นเหม็นขจรขจายไปไกลได้ สาเหตุของโรคนี้จริงๆก็คือไม่ทราบ ได้แต่เดากันไปต่างๆนานๆ บ้างว่าเพราะฮอร์โมนเพราะมักเป็นในหญิงที่เริ่มเจริญพันธ์ บ้างว่าติดเชื้อเพราะมีเชื้อขึ้นจริงๆส่วนจะเป็นเหตุหรือเป็นผลจากโรคนั้นไม่ทราบ บ้างว่าเพราะขาดอาหาร เพราะมักเป็นกันมากในประเทศยากจนรวมทั้งประเทศไทย บ้างว่าเพราะกรรมพันธุ์เพราะพ่อแม่เป็นลูกก็มักจะเป็น บ้างว่าเกิดจากภูมิคุ้มกันตัวเองทำลายเยื่อจมูกของตัวเอง บ้างว่าเพราะมลภาวะ เพราะเมื่อทดลองเอาหนูไปอยู่ในสภาพอากาศแย่ๆก็เป็นเยื่อจมูกฝ่อได้ แต่ไม่ว่าของจริงจะเกิดจากอะไร การรักษาก็เหมือนกันหมดคือทำความสะอาดโพรงจมูกแล้วคอยหยอดน้ำเกลือเข้าไปในจมูกให้ขี้มูกมันอ่อนตัวแล้วออกมาได้ง่ายไม่เป็นคราบหมักหมมอยู่ในนั้น ร่วมกันการปรับโภชนาการเสียให้ดี
3. สาเหตุในปอดและหลอดลม
3.1 หลอดลมอักเสบเรื้อรัง มักเป็นในคนมีอายุ ประเภทไอสามเดือน มีเสมหะมาก เสมหะส่วนหนึ่งจะแห้งเป็นก้อนเล็กเหมือนก้อนนิ่วเรียกว่า broncholith ค้างอยู่ตามผนังหลอดลม บางครั้งเวลาไอหรือขากแรงๆออกมา ก้อน broncholith นี้จะมีกลิ่นเหม็นออกมาทางลมหายใจได้
3.2 หลอดลมส่วนล่างพอง (bronchiectasis) เป็นโรคซึ่งหลอดลมท่อนปลายติดเชื้อซ้ำซากเรื้อรังจนพองออกเป็นที่ขังเสมหะไว้จนเสมหะบางส่วนเน่าเหม็นอยู่ในนั้น ทำให้มีกลิ่นออกมาทางลมหายใจได้
3.3 ฝีในปอด(lung abscess) คือมีการติดเชื้อในปอดจะจากวัณโรคหรือบักเตรีอื่นๆก็แล้วแต่แล้วกลายเป็นฝีมีหนองขังอยู่ในปอดเวลาเอ็กซเรย์ดูจะเห็นเป็นเหมือนลูกปิงปองมีน้ำอยู่ข้างใน น้ำนั้นก็คือเสมหะซึ่งขังอยู่และเน่าเหม็นได้
3.4 มะเร็งของทางเดินลมหายใจ ซึ่งเกิดได้ทุกจุดนับตั้งแต่ในปาก ในจมูก เพดานจมูก (Ca nasopharynx) คอ กล่องเสียง ปอดและหลอดลม ขึ้นชื่อว่าเป็นมะเร็งก็ย่อมต้องมีเนื้องอกออกมาเร็ว โตเร็ว และเซลตายเร็ว เมื่อเซลตายก็จะเน่าเสียส่งกลิ่น
4. สาเหตุในทางเดินอาหาร
4.1 กรดไหลย้อน(GERD) คือหูรูดปิดที่ปลายล่างของหลอดอาหารปล่อยให้อาหารในกระเพาะอาหารขย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารได้เป็นครั้งคราว ทำให้มีกลิ่นได้
4.2 แผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบ เมื่อมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร เลือดนั้นเมื่อขังอยู่ในกระเพาะนานๆจะส่งกลิ่นออกมาทางปากได้
4.3 ถุงแก้มลิงที่หลอดอาหาร(Zenker’s diverticulitis) หมายถึงหลอดอาหารบางตอนพองออกเป็นถุงแล้วมีอาหารไปตกค้างเน่าเสียอยู่ตรงนั้น
4.4 มะเร็งของหลอดอาหารหรือมะเร็งกระเพาะอาหาร
5. สาเหตุจากโรคทั่วร่างกายที่เป็นมากถึงระดับมีกลิ่นออกมา เช่น
5.1 โรคตับระยะสุดท้ายถึงตับวาย (fetor hepaticus) แล้วมีกลิ่นสารต่างๆที่ตับทำลายไม่ได้ออกมาทางลมหายใจ
5.2 ไตวายเรื้อรังระยะที่มีกลิ่นสารที่ร่างกายขับไม่ได้เช่นยูเรียออกมาทางลมหายใจ
5.3 เบาหวานที่เป็นมากจนมีการคั่งของสารคีโตนในร่างกาย ทำให้มีกลิ่นคีโตนออกมาในลมหายใจ
5.4 กลุ่มอาการกลิ่นปลา (fish odor syndrome) คือคนที่มีพันธุกรรมผิดปกติของเอ็นไซม์ ทำให้ย่อยสารไตรเมทิลเอมีน (TMA) ในอาหารไม่ได้ ทำให้สารนี้คั่งในร่างกายและออกมาทางเหงื่อและลมหายใจ มีกลิ่นเหม็น ยิ่งถ้ากินอาหารพวกไข่ ถั่ว เนื้อ ปลา ยิ่งมีกลิ่นมาก
6. โรคจมูกหลอน หมายถึงคนที่ไม่ได้เป็นโรคอะไร ไม่มีกลิ่นปากจริงๆหรอก แต่ปักใจเชื่อว่าตัวเองมีกลิ่นปาก (halithophobia) หรือ delusional halithosis ย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องกลัวตัวเองมีกลิ่น หนักเข้าก็แยกตัว ไม่อยากเข้าใกล้หรือพูดกับคนอื่นเพราะกลัวเขาเหม็นตัวเอง อย่างไรก็ตามในการจำแนกโรคทางจิตเวชวงการแพทย์ไม่ได้จัดเรื่องจมูกหลอนให้เป็นโรค จึงยังไม่มีวิธีรักษาที่เป็นมาตรฐาน ใครที่ป่วยด้วยโรคนี้ก็ให้รักษาตัวเองไปก่อนก็แล้วกัน
ประเด็นที่ 2. ที่คุณบอกว่ามีเสมหะเหนียวๆขาวๆขุ่นๆติดคอ มันมาได้สองทาง คือลงมาจากข้างบนกรณีเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือขึ้นมาจากข้างล่างกรณีเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ต้องไปหาหมอให้หมอส่องและเอ็กซเรย์ดูจึงจะวินิจฉัยได้ว่ามันมาจากทางไหนแน่ครับ ส่วนที่ถามว่ามันหายได้ไหมนั้น ตอบว่าหายได้ครับ
ประเด็นที่ 3. ที่คุณบอกว่ามีกลิ่นออกมาทางลมหายใจ ส่องจมูกดูมีตุ่ม แคะออกมาดมดูมีกลิ่นเหม็นมาก เป็นอาการของโรคเยื่อจมูกอักเสบแบบฝ่อ (atrophic rhinitis) แนะนำให้ไปตรวจวินิจฉัยให้แน่กับหมอหูคอจมูก ถ้าเป็นจริงก็ต้องรักษาตามแนวที่ผมเล่าไปข้างต้น ถามว่าหายได้ไหม ตอบว่าอย่างน้อยก็บรรเทาความรุนแรงได้มากครับ ส่วนจะหายขาดหรือไม่นั้นย่อมแล้วแต่เหตุว่ามันเกิดจากอะไร ถ้าแก้เหตุได้ก็หายขาดได้ครับ ถ้าเหตุนั้นเป็นเหตุที่แก้ไม่ได้ (เช่นกรรมพันธ์) ก็ต้องอยู่กับมันไปโดยใช้มาตรการบรรเทา ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องไปแสวงหาความ 100% หรอกครับ เอาแค่ให้ชีวิตมันพอเดินหน้าไปได้ก็พอแล้ว
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Bunnag C, Jareoncharsri P, Tansuriyawong P, Bhothisuwan W, Chantarakul N. Characteristics of atrophic rhinitis in Thai patients at the Siriraj Hospital. Rhinology 1999; 37:125-30.