เรียนคุณหมอที่เคารพ ดิฉันอายุ 69 ปี 9 มีอาการทุกครั้งที่ไปนอนสระผมหรือหาหมอฟัน ตอนลุกจากเก้าอี้นอน จะหน้ามืด โครงเครง ต้องนั่งอยู่สักพัก จึงจะลุกเดินได้ตามปกติ แต่เมื่อวันที่ 17 กันยายน 58 ไปหาหมอฟัน เวลาลุกขึ้นต้องนั่งนานกว่าปกติ เวลาเดินเหมือนตัวลอยๆ เท้าไม่ติดพื้น
อ่านต่อคือผมเป็นคนลาวครับคือผมเป็นลมชักหมอให้ยาทานปวดไม่ใช่ปวดแต่มันตึงที่หน้าผากแล้วเหมือนระบายความร้อนออกที่หัวครับเกิดจากยาหรือไม่ครับคือผมทานอยู่ dexamethasone, phenytoin ,albendazole, diazepam, amoxicilinอันตลายใหมครับ ……………………………………………. ฮู้ว.. วันนี้รับแขกต่างชาติเชียวนะเนี่ย พูดถึงผู้อ่านบล็อกหมอสันต์นี้ คนต่างชาติก็พอมีอยู่นะ ผมไม่ได้หมายถึงคนไทยที่ตาม ผ. ไปอยู่เมืองนอกนะ แบบนั้นนะมีเพียบ แต่ผมหมายถึงคนต่างชาติจริงๆชนิดที่ว่าอ่านภาษาไทยไม่ออกเลย
อ่านต่อ(จดหมายฉบับนี้่ต่อเนื่องมาจากจดหมายฉบับก่อนเรื่อง “ลูกสาวอายุสิบห้าจะต้องไปกรุงเทบ..บ ให้ได้” ท่านที่ไม่เคยอ่านมาก่อนอาจเปิดอ่านได้จากตรงนี้http://visitdrsant.blogspot.com/2015/10/blog-post_11.html ) อาจารย์หมอที่เคารพ ดิฉันได้คุยกับลูก บอกถึงเหตุผลต่างๆ ตามที่คุณหมอแนะนำ แต่เค้าก็ยังยืนกราน จะไปๆ ตอนนี้ ลูกพูดบอกว่าไม่อยากอยู่แล้ว! คิดอีกแง่มุมนึง มันอาจจะเป็นสัญญาณเตือน ว่าลูกอาจจะหนีออกจากบ้าน ไม่อยากให้ลูกคิดแบบนี้เลย เหมือนที่อาจารย์ยกตัวอย่าง
อ่านต่อกราบเรียนอาจารย์ที่เคารพ หนูมีอาชีพเป็นทันตแพทย์ค่ะ หนูจบทันตแพทย์มาเจ็ดปีแล้วค่ะ เรียนต่อเฉพาะทางแล้ว ตอนเรียนผลการเรียนอยู่ในระดับเกียรตินิยม ตอนทำงานหนูคิดว่าทำได้ค่อนข้างดี เนื่องจากนอกจากปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยแล้วยังเป็นที่ไว้วางใจให้รับหน้าที่สำคัญต่างๆของโรงพยาบาลอยู่เสมอ หนูรักอาชีพนี้มากนะคะอาจารย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ที่มักรบกวนจิตใจคือ
อ่านต่อสวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ ลูกสาวของดิฉัน กำลังเรียนอยู่ชั้นมอ4 ที่ต่างจังหวัด เค้าคิดว่าเค้า อยากเป็นพยาบาลหรือหมอ เค้าก็เลยเลือกเรียนสายวิทย์ ผลการสอบของแต่ละวิชาออกไม่พร้อมกัน ทราบมาบ้างจากลูก ศิลปะและชีวะ เค้าได้เกรด 4 อังกฤษ รองลงมา และวิชาที่ทำแทบไม่ได้เลยคือ คณิต วิทย์ และเคมี
อ่านต่อคอนเซ็พท์ของโปรแกรม RD Camp เพื่อเปิดทางเลือกให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไขมัน อ้วน อัมพาต) สามารถเปลี่ยนแนวทางการรักษาโรคจากแนวเดิมที่ต้องพึ่งการทำผ่าตัด บอลลูน หรือใช้ยา มาใช้แนวทางดูแลตนเองในเรื่องการปรับอาหาร การเริ่มต้นออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการมีกลุ่มเพื่อนหัวอกเดียวกันเกื้อกูลกันและกัน จนสามารถมีชีวิตปกติอยู่ได้โดยไม่ต้องบอลลูนหรือผ่าตัด และสามารถเลิกหรือลดยาลงจนเหลือน้อยที่สุด โดยใน
อ่านต่อเรียนคุณหมอสันต์ที่นับถือผมอายุ 64 ปี เป็นเบาหวาน และเป็นโรคหัวใจล้มเหลวซ้ำซาก ผมไม่เคยเจ็บหน้าอก มันเริ่มต้นเมื่อสองปีก่อนด้วยการที่ผมนอนหลับฝันเห็นญาติที่ไม่ถูกกันซึ่งเขาตายไปแล้ว แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาหอบกลางดึก นอนต่อไม่ได้ ต้องนั่งหายใจทั้งคืน ไปหาคุณหมอ … ที่โรงพยาบาล …. ท่านบอกว่าผมเป็นหัวใจล้มเหลว และให้ผมสวนหัวใจแล้วใส่ stent ไป 2 เส้น
อ่านต่อ