Latest

คนหนุ่มกับโรคหัวใจ..จดใส่กระดาษแล้วต้มกิน

สวัสดีครับคุณหมอ
ผมอายุ30ปี สูง170หนัก100 สูบบุหรี่มา14 ปี ตอนนี้เลิกได้สองเดือน อยากถามคุณหมอครับ ผมมีอาการ แรกเริ่ม นอนแล้วตื่นมากลางดึก แล้วหาวครับ หาวแรงๆหัวใจสะดุด วูบในอก ตั้งแต่นั้นมามันจะสะดุด ตอนออกแรงครับ ก้มตัวก็สะดุด นอนราบแล้วหาวก็สะดุด บางทีเดินขึ้นบันได ก็สะดุด ไปตรวจ holter24hr หมอบอกว่าเป็นน้อยมีเต้นสะดุด10ครั้งต่อวันเอง ให้ทนเอา แต่ในใบบันทึก มีหัวใจเต้นช้า 38-54ครั้งตอนนอนหลับครับ จะเป็นอันตรายไหมครับ แล้วอาการตอนนี้มีก้อนจุกในคอครับ จะเป็นตอนนั่งครับ แล้วเวลาผมไป ออกกำลัง ผมเดินเร็วนะครับ รอบเช้า7กิโล เย็น7กิโล หัวใจเต้นประมาน135 ขนะเดิน แต่ทีนี้พอเดินเสร็จ ผมมานั่งพัก มีอาการเจ็บแขนซ้ายครับใต้ท้องแขน แล้วก็เสียดชายโครงซ้าย บางทีก็ปวดหลังบริเวน สบักครับ แล้วกุจุกในคอทันทีตอนนั่งเลย ผมเป็นหัวใจขาดเลือดไหมครับ คุณหมอ ผมกังวลมากๆมาเป็นอาทิตย์แล้วครับกลางคืนก็ตื่น หลายรอบตื่นมาก็จับชีพจรตัวเอง หัวใจก็เต้นแรงครับ ผมเคยไปตรวจ echo เดินสายพรานตอนเดือน เมษายนครับ ปกติหมด แต่ตอนนั้นผมเลิกบุหรี่ตอนปีใหม่ครับ หลังจากตรวจผมกลับมาสูบบุหรี่อีกตอนเดือน มิถุนา สูบจัดมากวันละ2ซอง แล้วมาเลิกตอนเดือนกันยา ก็มามีอาการอย่างที่กล่าวไปเนี่ยครับ ตอนนี้ผมก็จุกในคอ มีเสมหะทุกครั้งเวลากลืนน้ำลายเลยครับ ผมกังวลจะหัวใจวายมากครับคุณหมอ กรุณาตอบผมด้วยครับ ควรทำอย่างไรดี ไปหาหมอบ่อยมาก หมอก็บอกปกติ แต่ไปอ่านในพันทิป มีคนมีอาการจุกคอ แล้วหัวใจวายด้วยครับเครียดมากครับ

……………………………………………

ตอบครับ

     ช่วงนี้ตอบจดหมายของเด็กและคนอายุน้อยบ่อยมาก ไม่ใช่ว่าจะทิ้งสว.ซึ่งเป็นแฟนประจำนะ แต่จดหมายของคนอายุน้อยแบบนี้เข้ามากองอยู่มากเหลือเกินจนเพิกเฉยไม่ได้ จึงต้องให้เวลานอกแก่พวกเขาหน่อย แล้วก็จะกลับมาตอบแต่จดหมายสว.เช่นเดิม

     วิเคราะห์ตามหลักอาการวิทยา อาการที่เล่ามาทั้งหมดนั้นมองเผินๆมีโอกาสเป็นไปได้สองอย่างคือ

(1) เป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือ
(2) เป็นโรคกลัวเกินเหตุ (panic disorder)

     แต่ถ้ามองให้ดีๆ มองให้ละเอียดลึกซึ้ง คุณมีโอกาสป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าโรคกลัวเกินเหตุ เพราะอาการจุก แน่น ปวด ร้าว ทันทีที่เสร็จจากการออกกำลังกาย (exercise induced pain) เป็นอาการที่ไม่พบในโรคอื่นรวมทั้งโรคกลัวเกินเหตุด้วย

     เมื่อพิเคราะห์โครงสร้างปัจจัยเสี่ยงสุขภาพเฉพาะบุคคล คุณเป็นคนสูบบุหรี่จัด และเป็นโรคอ้วนด้วย (ดัชนีมวลกาย 34)  ซึ่งผมเดาว่าไขมันในเลือดของคุณจะต้องสูงด้วย ดังนั้นมองจากปัจจัยเสี่ยง คุณพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมอีกที่จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด

     เนื่องจากผลการตรวจสมรรถนะหัวใจด้วยการวิ่งสายพานพบว่าปกติ แสดงว่าโอกาสที่จะมีรอยตีบตรงตำแหน่งสำคัญ (LM) ที่จะทำให้คุณตายกะทันหันมีน้อย คนอย่างคุณนี้จะรักษาแบบรุกล้ำ (สวนหัวใจ ทำบอลลูน ผ่าตัด) หรือแบบไม่รุกล้ำ (กินยา) ก็ได้ผลในระยะยาวในแง่ของอัตราตายไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องดิ้นรนไปตรวจสวนหัวใจเพื่อวินิจฉัยโรคให้ได้แน่นอน ข้อมูลแค่นี้ก็วินิจฉัยโรคได้แล้ว สามารถเดินหน้าไปทำการรักษาตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องไปบ้าการวินิจฉัยแต่ละเลยการจัดการโรค จนตายคาการวินิจฉัยโดยยังไม่ได้ทันจัดการโรคเลย

     ที่คุณกลัวหัวใจวายตายนั้นก็มีเหตุผลอยู่ เพราะคุณมีโอกาสที่จะหัวใจวายตายได้จริงๆ ทำไมคนที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดตั้งแต่หนุ่มถึงหัวใจวายตายง่ายกว่าคนแก่ ตรงนี้เป็นปริศนาที่วงการแพทย์ยังไขไม่ออก ได้แต่ตั้งสมมุติฐานว่าตุ่มไขมันในคนหนุ่มเป็นตุ่มแตกง่าย (vulnerable plaque) แต่นั่นก็เป็นแค่สมมุติฐาน คุณอย่าไปสนใจเลย มาสนใจว่าคุณควรจะเดินหน้าต่อไปกับชีวิตของคุณดีกว่า

    วิธีการที่จะเดินหน้านั้นง่ายมากเลย สมาคมหัวใจอเมริกัน (AHA) ใช้สโลแกนว่า ง่ายๆเจ็ดอย่าง (Simple Seven) คือให้คุณดูแลตัวเองโดยใช้ตัวชี้วัดเจ็ดตัว คือ น้ำหนัก ความดัน ไขมัน น้ำตาล การกินพืชผักผลไม้ การออกกำลังกาย และการเลิกบุหรี่ คุณดูแลเจ็ดตัวนี้ให้ดี เดี๋ยวอย่างอื่นมันดีเอง เพราะสถิติบอกว่าการทำเจ็ดอย่างนี้ให้ดีจะลดอัตราตายก่อนเวลาอันควร (หมายถึงตายก่อนอายุ 70 ปี) ลงไปได้ถึง 91% ไม่มีียาหรือการรักษาด้วยวิธีอื่นใดจะลดอัตราตายของโรคนี้ได้มากเท่านี้แล้ว คุณเชื่อผมเหอะ

     ส่วนเรื่องหยูกยานั้นหากปัจจัยเสี่ยงทั้งเจ็ดตัวข้างต้นดีอยู่ ยาไม่จำเป็น แม้แต่ยาอมใต้ลิ้นก็ไม่จำเป็น คนทั่วไปหรือแม้กระทั่งแพทย์จำนวนหนึ่งมักเข้าใจผิดว่ายาอมใต้ลิ้น (nitrate) เป็นยาช่วยชีวิตคนเป็นโรคหัวใจขาดเลือดยามฉุกเฉิน ความจริงคือไม่ใช่เลย มันช่วยบรรเทาอาการได้บ้างเท่านั้น ยากลุ่มนี้ไม่ได้ลดอัตราตายของคนไข้หัวใจขาดเลือดลงแม้แต่น้อย ถ้าคุณเป็นโรคถึงขั้นที่จะตาย ยังไงคุณก็ตาย ดังนั้นคุณอมหัวแม่มือของคุณเอง (พูดเล่นนะ อย่าอมจริงๆ) หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนออกมาช้าๆ รีแลกซ์ตัวเองลง ก็มีผลพอๆกัน

     Simple Seven ลองทบทวนดูให้ขึ้นใจนะ น้ำหนัก ความดัน ไขมัน น้ำตาล การกินพืชผักผลไม้ การออกกำลังกาย และการเลิกบุหรี่ จำไว้ จดใส่กระดาษแล้วต้มกิน (พูดเล่นอีกหงะ อย่าเถรตรงไปต้มกินจริงๆเข้าหละ) หมายความว่าให้คุณใส่ใจปฏิบัติตาม ถ้าทำแล้วไม่ก้าวหน้า หรือทำแล้วมีปัญหา ให้หาเวลามาเข้าแค้มป์พลิกผันโรคด้วยตัวเอง (RDBY) หรืออย่างน้อยมาเข้าแค้มป์สุขภาพดีด้วยตัวเอง (GHBY) ก็ยังดี เพราะคุณยังออกกำลังกายได้ดี มาเข้าแค้มป์ร่วมกับคนที่เขายังดีๆอยู่ก็ได้

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์