Latest

เจ็บหน้าอกแบบคุณนี้แหละ เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแน่นอน

คุณหมอครับ
ผมอายุ 30 ปี น้ำหนัก 74 กก. สูง 170 กก. มีอาการแน่นหน้าอก ตรงกลางหน้าอกพอดี 
เหมือนมีใครเอาอะไรมารัด เป็นอยู่พักเดียวแล้วก็หายไป เวลาผมทำอะไรมากๆเช่น
ขึ้นบันไดสองชั้นก็จะเป็น พอพักสักครู่ก็หาย ไปหมอที่คลินิก หมอบอกว่าอายุแค่นี้
ไม่เป็นโรคหัวใจหรอก ไปหาหมอที่รพ. หมอตรวจคลื่นหัวใจ เจาะเลือด นอนรพ.หนึ่งคืน 
แล้วบอกว่าผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ให้กลับบ้านได้ ขอให้คุณหมอช่วยอธิบายให้ผมสบายใจ
หน่อยว่าอย่างนี้ไม่ใช่โรคหัวใจใช่ไหม และเจ็บหน้าออกอย่างไรจึงจะเป็นโรคหัวใจครับ

……………………………………………………

ตอบครับ

เจ็บหน้าอกแบบคุณนี้แหละ เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแน่นอน สมัยนี้อายุไม่ใช่ประเด็น

คือการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดที่ทางหมอเรียกว่า angina นี้มีสองแบบคือแบบไม่ด่วนกับแบบด่วน 
การเจ็บแบบไม่ด่วน (stable angina) มีลักษณะสามอย่างคือ 

1. เจ็บตื้อๆหรือแน่นๆกลางหน้าอกหรือลิ้นปี่ อาจมีร้าวไปที่คอหรือแขนหรือไม่มีก็ได้ 
2. เจ็บเวลาออกแรงหรือโมโห ยิ่งออกแรงหรือโมโหมากยิ่งเจ็บ 
3. ดีขึ้นถ้าลดการออกแรงลงหรือพัก 

ซึ่งของคุณตรงสะเป๊กทุกประการ เพราะฉะนั้นเจ็บหน้าอกแบบคุณนี้เป็นโรคหัวใจขาดเลือดแน่นอน
ไม่มีข้อสงสัยเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำโน่นทำนี่ 
เพราะกลไกการเกิดมันแค่หลอดเลือดตีบแต่เลือดยังวิ่งไปเลี้ยงหัวใจได้ 
แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้ชีวิต เปลี่ยนอาหารมากินพืชเป็นหลักแบบไขมันต่ำ 
ออกกำลังกายต่อไปในระดับที่เกือบๆจะเจ็บหน้าอก แต่ถ้าเจ็บก็ไม่เป็นไร แค่เพลาลง 
และจัดการความเครียดเสียด้วย อย่าเป็นคนเคร่งเครียดขี้โมโห 
ไม่จำเป็นต้องกินยาหรือวิ่งโร่ไปสวนหัวใจทำบอลลูน เพราะยาก็ดี บอลลูนก็ดี ไม่ได้ทำให้คุณหายจากโรคนี้ 
งานวิจัยเปรียบเทียบผู้ป่วยประเภทนี้พบว่าทำบอลลูนบายพาสกับไม่ทำโอกาสที่จะตายก็ไม่ต่างกัน

ส่วนการเจ็บหน้าอกแบบด่วน (acute MI) นั้นก็คือคนที่เจ็บหน้าอกเหมือนกับแบบไม่ด่วนนั่นแหละ 
แต่พักนานเกิน 20 นาทีแล้วก็ยังไม่หาย แบบนี้แหละที่เรียกกันว่าหัวใจวาย มีกลไกการเกิดที่แตกต่างกัน 
คือมีลิ่มเลือดไปอุดบนรอยตีบที่หลอดเลือดปึ๊ด..ด จนเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้เลย แบบนี้ต้องรีบไป
โรงพยาบาลทันที เมื่อตรวจคลื่นหัวใจจะเห็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และเจาะเลือดจะพบมีเอ็นไซม์หัวใจ
ออกมาเพราะกล้ามเนื้อหัวใจเริ่มตายลง พวกนี้ฉุกเฉินสุดๆ ต้องรีบรักษาโดยเปิดหลอดเลือด
ด้วยวิธีฉีดยาละลายลิ่มเลือดหรือสวนหัวใจใช้บอลลูนขยายทันที ถ้าไปรพ.ช้าก็มีหวัง..ซี้หม่งเซ็ก

หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตเสียใหม่เช่นกัน 
ไม่ใช่ว่าทำบอลลูนวางขดลวดหรือผ่าตัดบายพาสแล้วโรคจะหายแล้วก็เปล่าเลย 
การทำบอลลูนหรือบายพาสเป็นเพียงซื้อเวลาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาลิ่มเลือดที่อุดออก
และถ่างรูตีบให้มันโล่งขึ้นชั่วคราวเท่านั้น แต่โรคยังเดินหน้าต่อไปสู่การเกิดเรื่องแบบเดิมเป็นครั้งที่ 2..3…4 
ตราบใดที่สไตล์การใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นอาหารไขมันสูง การไม่ออกกำลังกาย การมีความเครียดเรื้อรัง 
การมีความดันเลือดสูง การสูบบุหรี่ อันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แท้จริงของโรคยังไม่เปลี่ยน 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์