Latest

จะเต็มร้อยกับชีวิต ก็กลัวเปลืองตัว

     ก่อนตอบคำถามวันนี้ หมอสันต์ขอภูมิใจนำเสนอโปรเจ็คใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จไปหมาดๆ ชื่อ “โปรเจ็คแมวดิ้น” เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้ผมกับหมอสมวงศ์มีดำริว่าบ้านที่อยู่ทุกวันนี้มันใหญ่เกินไป ถ้าสองตายายแก่ได้ที่แล้วลูกชายโทนคงไม่มีปัญญาดูแลบ้าน จึงคิดกันว่าจะไปหาซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าให้เขาสักห้อง เผื่อว่าวันข้างหน้าดูแลบ้านใหญ่ไม่ไหวสองตายายจะได้ย้ายไปอยู่มวกเหล็กอย่างสบายใจ ตระเวณดูคอนโดไปที่สองที่แล้วก็ทำใจไม่ได้ เพราะชีวิตบนคอนโดมันเป็นชีวิตที่ไม่ติดดิน ไม่มีต้นไม้ ไม่ถูกสะเป๊คคนแก่ที่มีกำพืดมาจากบ้านนอกอย่างผม จึงเปลี่ยนใจพักไว้ก่อน อยู่มาวันหนึ่งเห็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ใกล้ที่เขาจะทำสถานีรถไฟฟ้าเมืองทองธานีจึงแวะไปดู ก็พบว่าทาวน์เฮ้าส์สมัยนี้แม้จะสร้างดีขึ้นราคาแพงขึ้นแต่ก็มีเอกลักษณ์ว่าอยู่ติดดินแต่ก็ไม่มีดินให้เหยียบ ดูไปดูมาเผอิญมีอยู่หลังหนึ่งอยู่ชายขอบหมู่บ้านมีที่ดินชายธงติดอยู่หลังบ้านประมาณเท่าแมวดิ้น คือ 15 ตรว.และไกลถนนหน่อยทำให้เงียบดี ผมจึงบอกหมอสมวงศ์ว่าหลังนี้โอเค.พอมีที่สีเขียวให้ปลูกหญ้า เอาเลยนะ หมอสมวงศ์ท้วงว่าลูกเขาไม่มีเวลามาตัดหญ้าหรอก ผมบอกว่าก็หญ้าพลาสติกไง และรับปากเป็นมั่นเหมาะว่าผมจะจัดการเรื่องทำสวนหลังบ้านให้โดยจะเป็นสวนแบบ low maintenance คือสวนหมอสันต์รุ่นนี้รับประกันว่าไม่ต้องตัดหญ้ารดน้ำพรวนดินใดๆทั้งสิ้น

     ซื้อบ้านใหม่แล้วขณะที่ลูกชายยุ่งอยู่กับเรื่องภายในบ้าน ผมรับจ๊อบภายนอกคือทำสวนหลังบ้านให้ โปรเจ็คแมวดิ้นจึงเกิดขึ้น หญ้ามาเลเซียที่โครงการบ้านจัดสรรปูให้แต่แรกเริ่มเดิมทีซึ่งบัดนี้หลังจากผ่านแล้งจนแห้งกรอบแล้วผ่านฝนจนเปื่อยได้กลายเป็นหญ้าหมักไปแล้วเรียบร้อย ต้องเอาจอบควักออกด้วยความยากลำบาก แล้วไปจ้างคนขายต้นไม้เอาต้นไม้สกุลปาลม์มาลง เพราะต้นปาลม์ใบมันหล่นในบ้านเราจะได้ไม่ทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ค่าต้นไม้เจ็ดต้นหมดไปสี่พันกว่า แล้วเอาหินเกล็ดมาลงทับหน้าพื้นทราย ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะซื้อเครื่องตบดิน เล็งไว้ที่ลาซาดาเครื่องละหมื่นกว่าบาท แต่ก็คิดไปไม่ตลอดเพราะจบโครงการแมวดิ้นแล้วไม่รู้จะเอาเครื่องตบดินไปเก็บไว้ที่ไหน ในที่สุด..เอาจอบตบเอาก็แล้วกัน

สวนรุ่นนี้ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องพรวนดิน ไม่ต้องตัดหญ้า

     ลงต้นไม้แล้วผมก็ขับไปตลาดจตุจักรเพื่อซื้อระบบน้ำหยดมาติดตั้ง ซื้อเครื่องตั้งเวลาอัตโนมัติมาด้วยแต่ตั้งเครื่องไม่สำเร็จเพราะเป็นเครื่องรุ่นใหม่ต้องตั้งผ่านบลูทูธของมือถือผมยังทำไม่เป็น เหอะ..หยดแบบ “แมนน่วม” ตามวิธีของนายดำน้ำหยดก็แล้วกัน ฝังท่อน้ำหยดลงใต้พื้นดินเรียบร้อย จะทดสอบน้ำ ลองเปิดวาลว์ดู เอ๊ะทำไมเครื่องสูบน้ำจึงตีตลอดเวลาพิกล พิเคราะห์เอาจากลูกศรสลักนูนต่ำที่ข้างๆวาวล์น้ำจึงเห็นว่าช่างก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรได้ต่อลิ้นบังคับน้ำทางเดียว (check valve) ไว้แบบกลับหลังหันเสียแล้ว พอเปิดวาลว์ปุ๊บเครื่องจึงปั๊มน้ำจากถังเก็บของบ้านไปบริจาคให้การประปานครหลวงเสียฉิบ อามิตตาภะ..พุทธะ ต้องเสียเวลาแก้ไขกลับทิศให้เช็ควาลว์โดยต้องทำในพื้นที่แคบๆอยู่เป็นชั่วโมง ชีวิตถึงเดินหน้าต่อไปได้

     โอเค. น้ำหยดได้ผลดีแล้ว พร้อมที่จะปูหญ้าเทียมแล้ว ฤกษ์ดีวันพฤหัสเพราะเพิ่งเสร็จจากแค้มป์ RDBY เดี๋ยวนี้แก่ตัวแล้วไม่เคยว่างเสาร์อาทิตย์เพราะมีแค้มป์ตลอด แต่ลูกชายบอกว่าพฤหัสมาช่วยได้แค่ช่วงเช้าเพราะเขาต้องทำงาน เออน่า ทำครึ่งวันคงเสร็จ ตื่นเช้าผมรีบไปขนหินเกล็ดและซื้อหญ้าเทียมยกม้วนมาจากโฮมโปร ม้วนครึ่ง ปูกันสองคนเหงื่อตกกีบยังได้ไม่ถึงครึ่งสนาม ลูกชายก็ต้องรีบไปทำงานเสียแล้ว ทิ้งให้ตาแก่ปูต่อคนเดียว ไหล่ข้างหนึ่งก็ยังไม่หายติด แถมมืออีกข้างหนึ่งดันเผลอไปเกี่ยวปลายแหลมของเหล็กแมกซ์ที่เขายิงยึดหญ้าเทียมกับแกนสำหรับม้วนหญ้า ได้เลือดอีก สรุปว่าพิการทั้งซ้ายและขวา แต่ก็ลุยจนเสร็จก่อนมืด เหนื่อย..จนแทบขาดใจ แต่พอเห็นสนามก็หายเหนื่อย

199 พร้อมกลไกยึดและปรับมุม

     แหม บรรยากาศดีๆเขียวๆอย่างนี้น่าจะมีร่มสีแดงส้มแบบร้านปิซซ่าแถวอิตาลี่สักคันนะ คิดได้ดังนั้นจึงขับไปซื้อร่มที่ร้านอิเกีย เขาโฆษณาว่าขายถูกอันละ 399 บาท แต่พอไปถึงร้านปรากฎว่าเขาลดราคาในเทศกาลอะไรไม่รู้ เหลือ 199 บาท ราคานี้รวมทั้งกลไกหมุนยึดและปรับองศาแกนร่มด้วย ด้วยความตกใจผมจึงซื้อมาสองอันเลย อีกอย่างเป็นเพราะติดนิสัยเคยรับราชการ งบประมาณตั้งไว้แล้วเท่าไหร่ก็ต้องพยายามใช้ให้หมด มันคุ้มค่าจริงๆนะครับ ไม่เชื่อท่านดูรูปสิ หิ หิ ..จ๊าบมั้ย?

     โอเค.คุยไร้สาระจนพอใจแล้ว มาตอบคำถามวันนี้ดีกว่า เอาเรื่องง่ายๆสั้นละกัน

………………………………………….

คุณหมอสันต์คะ
อายุ 61 ปี เกษียณ โสด แต่ก็วุ่นวายจนกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ไม่อยากไปเปลืองตัวกับอะไร แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตยังเหลืออีกมาก เพราะเผอิญเป็นคนสุขภาพดี จะใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครไม่ทำอะไรเลยจริงๆก็ทำได้เพราะเคยทำมาบ้างแล้วแม้ว่าจะยังไม่พบคำตอบอะไรชัดเจน ที่ยังลังเลที่จะทำแบบนั้นต่อเพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นวิธีใช้ชีวิตที่ถูกต้องหรือเปล่า คือมีความรู้สึกว่าชีวิตเกิดมาแล้วมันควรจะเต็มร้อย ไม่ใช่กั๊กๆอย่างนี้

………………………………………

ตอบครับ 

     คำว่า “เปลืองตัว” ผมขออนุญาตแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า entanglement คือเข้าไปพัวพันแล้วยุ่งขิงเป็นทุกข์ ผมเห็นด้วยว่าไม่ใช่วิธีใช้ชีวิตที่ดี และนี่เป็นที่มาของการที่คนจำนวนหนึ่งหนีการใช้ชีวิต ปลีกตัวออกไปจากสังคมแบบว่าไม่เอาอะไรไม่ทำอะไรอีกแล้ว แต่ว่าคนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตนะ การใช้ชีวิตมันก็คือการที่เราควรจะยุ่งเกี่ยวอย่างเต็มร้อยหรือมี involvement กับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เอ้อ..อ แล้วจะทำอย่างไรดีละ เข้าไปพัวพันก็เปลืองตัว จะปลีกวิเวกไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยก็ว่าไม่เต็มร้อยกับชีวิตแล้วจะเกิดมาให้เสียชาติเกิดทำไม สรุปว่าจะให้เอาไงกันดีคะหลวงพี่ หุ..หุ

     ประเด็นคือชีวิตเต็มร้อยหรือมี involvement กับทุกอย่างในชีวิต แต่ไม่ต้องยุ่งขิงเป็นทุกข์แบบ entanglement นี้จะทำได้ไหม ตอบว่าทำได้ ถ้าคุณไม่ไปสำคัญมั่นหมาย (identify) เอาสิ่งที่ไม่ใช่คุณ (คือร่างกายนี้และความคิดนี้) ว่าเป็นคุณ (ซึ่งคือความรู้ตัว)

     คุณในฐานะที่เป็นความรู้ตัวซึ่งเป็นแค่ธาตุรู้หรือความสามารถรับรู้โดยไม่มีได้หรือมีเสียอะไรด้วยกับใครทั้งสิ้นจะเข้าไปเต็มร้อยกับใครหรือกับอะไรก็ได้ทั้งนั้นโดยที่จะไม่ยุ่งขิงเปลืองตัว เพราะไม่มี “ตัว” ให้เปลือง และนี่เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่เสียชาติเกิดและที่คุณจะได้ใช้ศักยภาพของการเกิดมาเป็นคนเต็มศักยภาพ ไม่ต้องปลีกหนีหรือหลีกลี้ไปไหน

     ดังนั้นหัวใจมันจึงอยู่ที่ทำอย่างไรคุณจึงจะข้ามพ้นกับดักของสำนึกว่าเป็นบุคคลไปสู่การเป็นธาตุรู้อันไม่มีขอบเขตได้ หัวใจมันอยู่ตรงนี้ และมันก็มีวิธีทำด้วยนะ ไม่ใช่ไม่มี วิธีทำก็คือคุณต้องฝึกวางความคิดของคุณลงไปให้หมดก่อน ด้วยการถอยความสนใจออกมาจากความคิด เพราะความคิดทั้งหลายสืบกำพืดไปเถอะ ล้วนแต่ชงขึ้นมาโดยสำนึกว่าเป็นบุคคลของคุณทั้งสิ้น ในการจะวางความคิดนี้ ใหม่ๆก็เอาความสนใจมาอยู่กับร่างกายก่อน ขั้นต่อไปก็ถอยจากร่างกายมาอยู่กับความรู้ตัว ซึ่งเป็นที่ที่คุณตื่นและสามารถรับรู้โดยที่ไม่มีความคิด ที่ตรงนั้นแหละคุณจะสงบเย็นและจะเห็นเองว่าศักยภาพของการเกิดมาเป็นคนนี้หากไม่ไปติดกับดักของการหลงสำนึกว่าเป็นบุคคลแล้ว ชีวิตมันมีศักยภาพที่จะรู้เห็นและทำอะไรได้อีกมากมายแบบอะเมซซิ่ง เปรียบเหมือนลมที่อยู่ในฟองสบู่ที่ล่องลอยไปในอากาศ ตอนแรกมันก็คิดว่าโลกของมันก็มีอยู่แต่ในขอบเขตของฟองสบู่นี้เท่านั้น และคิดว่าฟองสบู่นี้คือบ้านของมัน มันก็จึงกลัวฟองสบู่จะแตก แต่ครั้นพอฟองสบู่แตกออกจริงๆ มันกลับพบว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของอากาศอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วก็พูดกับตัวเองว่า โธ่..หลงโง่เสียตั้งนานว่าชีวิตนี้มีอยู่แต่ที่อยู่ในฟองสบู่เท่านั้น

     ผมเชียร์ให้คุณเต็มร้อยกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่ต้องเลิกสำคัญผิดว่าสิ่งที่ไม่ใช่คุณเป็นคุณให้ได้เสียก่อน คราวนี้คุณเต็มร้อยกับทุกอย่างได้โดยจะคุณไม่เสียชาติเกิดแน่นอนและจะไม่ทุกข์ด้วย ผมรับประกัน ย้ำว่าเชียร์ให้คุณเต็มร้อยนะ ไม่ได้เชียร์ให้คุณเป็นคนดี เพราะถ้าคุณยังติดกับดักชั่วดีถี่ห่างคุณก็ยังเต็มร้อยกับชีวิตไม่ได้ เพราะความดีโผล่ขึ้นมาเมื่อคุณเริ่มเรียกของอีกอย่างว่าความชั่ว นั่นหมายความว่าคุณยังคิดว่าความคิดหรือคอนเซ็พท์ต่างๆนั้นเป็นของจริงหรือเป็นคุณอยู่ คือคุณยังติดในความหลอน ตราบใดที่ยังติดอยู่กับความหลอน ตราบนั้นคุณก็จะยังมี “ตัว” ให้เปลือง

 นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์