Latest

ฟ้าทะลายโจร

เรียน อาจารย์นพ.สันต์

ทำไมอาจารย์ไม่พูดถึงฟ้าทะลายโจรเลย มีอะไรปิดกั้นไม่ให้พูดหรือเปล่าคะ อย่างน้อยก็ควรจะพูดให้เป็นที่รู้กันว่าดีหรือไม่ดีจริงไม่ใช่หรือคะ พูดในฐานะแพทย์แผนไทยไม่ได้ก็พูดในฐานะแพทย์แผนปัจจุบันก็ได้นี่คะ

………………………………………………….

ตอบครับ

โห.. แฟนหมอสันต์เดี๋ยวนี้ดุแฮะ หิ หิ เปล่าว่าอะไรนะ พูดเล่น

ก่อนอื่นผมไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันประเภทที่ต่อต้านสมุนไพร อาหารเสริม หรือวิตามินนะครับ ไม่เลย อย่าเข้าใจผมผิด เพื่อนซี้ของผมก็ทำสมุนไพรอาหารเสริมและวิตามินขาย ผมจะไปต่อต้านเขาทำไม และเพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ต่อต้าน โอเค.วันนี้ผมจะพูดถึงฟ้าทะลายโจร

ความจริงไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจเรื่องการใช้พืชสมุนไพรในการรักษาโรคนะครับ ผมสนใจมาก มันเป็นความ “ทึ่ง” ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยผมเป็นนักเรียนเตรียมแพทย์ คือปิดเทอมแล้วผมรับจ๊อบพาโปรเฟสเซอร์ชาวเยอรมันคนหนึ่งเข้าไปเดินป่าที่เขาคอหงส์ หลังมหาวิทยาลัย (สงขลานครินทร์ หาดใหญ่)เพื่อสำรวจเก็บตัวอย่างพืชไปทำยาที่เยอรมัน การเดินป่าครั้งนั้นเปิดโลกทัศน์เรื่องพืชสมุนไพรให้ผมอย่างมาก และโปรเฟสเซอร์ก็เปิดโลกทัศน์ให้ผมรู้จักว่าการเป็น “มืออาชีพ” นั้นเขาเป็นการอย่างไร เพราะท่านมีความรอบรู้ มีความอึด และมีอุปกรณ์พร้อมจริงๆ แบบว่าล้วงกระเป๋ากางเกงซ้ายได้แว่นขยายออกมาส่องดู ล้วงกระเป๋ากางเกงขวา ได้เทสท์ทูปออกมาเก็บตัวอย่าง ล้วงกระเป๋าเสื้อ ได้มีดเล็กๆออกมาผ่า อย่างนี้เป็นต้น กล่าวโดยสรุป ผมชอบเรื่องพืชสมุนไพรมาก แต่ชีวิตไม่มีโอกาสได้ไปยุ่งกับมันเลยเพราะมามีอาชีพเป็นหมอผ่าตัดหัวใจ มันคนละทางเลย กลับมาเรื่องที่จะคุยกันวันนี้ดีกว่า

ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall. ex Nees) เป็นยาพื้นบ้านในแถบจีน อินเดีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มานาน ใช้กันตั้งแต่รักษาไข้หวัดใหญ่ เจ็บคอ แผลในปากหรือบนลิ้น อาการไอเฉียบพลันหรือเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ โรคบิด ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และอาการปวดเวลาปัสสาวะ สารออกฤทธิ์ในพืชชนิดนี้ที่วงการแพทย์รู้จักดีแล้วคือแอนโดรกราฟโฟไลด์(andrographolide) และงานวิจัยก็ทำวิจัยบนสารตัวนี้เป็นหลัก ดังนั้นบางครั้งในบทความนี้ผมจะใช้สารตัวนี้แทนตัวฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจรต้านการอักเสบในห้องทดลองและในสัตว์ทดลองได้

งานวิจัยในห้องทดลองพบว่าแอนโดรกราฟโฟไลด์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยออกฤทธิ์ลด TNF-a [1] การออกฤทธิ์ต้านการอักเสบนี้ทำผ่านกลไกป้องกันการผลิตอนุมูลอิสระโดยเม็ดเลือดขาวนิวโตรฟิลด์ในบริเวณที่อักเสบ [2] กลไกลดการผลิตไนตริกออกไซด์ (NO)โดยเซลมาโครฟาจในบริเวณที่อักเสบ [3] และลดการปล่อยสารก่อการอักเสบผ่านกลไกการลด p38 MAPKs signaling pathways [4]

งานผลต่อการบรรเทาอาการป่วยในสัตว์พบว่าแอนโดรกราฟโฟไลด์ลดปวดและลดบวมในสัตว์ทดลองได้ [5] งานวิจัยที่อินเดียพบว่าแอนโดรกราฟโฟไลด์ลดไข้และลดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากแอสไพรินในหนูทดลองได้ [6] งานวิจัยในหนูกินิพิกที่ถูกกระตุ้นให้ไอโดยกรดซิตริกพบว่าแอนโดรกราฟโฟไลด์ลดเสมหะและลดอาการไอได้ [7]

งานวิจัยที่จีนทดลองให้หนูติดไข้หวัดใหญ่ H5N1, H1N1, H9N2 แล้วใช้สารปลายทางของแอนโดรกราฟโฟไลด์ชื่อ14-alpha-lipoyl andrographolide (AL-1) กรอกเข้าไปในกระเพาะหนู พบว่ากลุ่มหนูที่ได้รับสาร AL-1 มีอัตรารอดชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับสารนี้[9]

งานวิจัยผลต่อเซลมะเร็งในห้องทดลอง

งานวิจัยในห้องทดลองพบว่าแอนโดรกราฟโฟไลด์ต้านเซลมะเร็งหลายชนิดในห้องทดลองได้โดยผ่านกลไกผลิตสารยับยังการทำงานของเซล เพิ่มการแบ่งตัวของเม็ดเลือดขาวและเพิ่มการผลิตสารช่วยการทำงานเม็ดเลือดขาวชนิด interleukin-2 [8]

งานวิจัยพบว่าฟ้าทะลายโจรป้องกันหวัดและรักษาติดเชื้อทางเดินหายใจในคนได้

งานวิจัยในคนแบบสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบที่สวีเดนให้คนหนุ่มสาว 54 คนแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแห้งชื่อการค้า Kan Jang วันละ 11.2 mg กินสัปดาห์ละ 5 วัน ต่อสัปดาห์) นาน 3 เดือน พบว่ากลุ่มกินฟ้าทะลายโจรป่วยเป็นหวัด 30% ขณะที่กลุ่มที่กินยาหลอกป่วยเป็นหวัด 62% จึงสรุปว่าฟ้าทะลายโจรลด (ป้องกัน) การเป็นหวัดลงได้ [10]

งานวิจัยระดับสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบอีกงานหนึ่งทำให้คนไข้ติดเชื้อทางเดินลมหายใจส่วนบนจำนวน 223 คนแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนี่งกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจรชื่อ KalmCold 200 มก.ต่อวัน (มีแอนโดรกราฟโฟไลด์ 33%) อีกกลุ่มกินยาหลอก ติดตามดู 5 วันพบว่ากลุ่มกินฟ้าทะลายโจรมีอาการลดลงมากกว่ากลุ่มกินยาหลอก จึงสรุปว่าฟ้าทะลายโจรใช้บรรเทาอาการติดเชื้อทางเดินลมหายใจส่วนบนได้ ทั้งสองกลุ่มไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่มีนัยสำคัญ [11]

งานวิจัยพบว่าฟ้าทะลายโจรยับยั้งเชื้อโควิด19 ในห้องทดลองได้

เมื่อมีโรคโควิด19 ระบาดขึ้นมา ที่ไต้หวันได้มีการวิจัยเอาแอนโดรกราฟโฟไลด์มาทำลายเชื้อซาร์สโควี2 ซึ่งเป็นต้นเหตุของโควิด พบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรนี้สามารถยับยังเชื้อซาร์สโควี2 ได้ ผ่านกลไกยับยังเอ็นไซม์โปรตีเอสของตัวไวรัส [12]

ในเมืองไทยนี้ผมทราบว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์(หรือกรมแพทย์แผนไทยผมไม่แน่ใจ)ได้เคยทำวิจัยในห้องทดลองเอาฟ้าทะลายโจรมายับยั้งไวรัสซาร์โควี2 เช่นกันแต่ผมไม่เคยเห็นว่าได้ตีพิมพ์ผลวิจัยนี้ไว้ที่ไหน

ต่อมาในเมืองไทยนี้ได้มีคณะผู้ทำวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรยับยังไวรัสซาร์สโควี2ในเซลที่ปล่อยให้ติดเชื้อแล้ว พิสูจน์ได้ด้วยการนับตัวไวรัสว่าฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งไวรัสนี้ได้ในระดับที่ชัดเจนพอที่จะนำไปสู่การผลิตเป็นยาต้านไวรัสซาร์สโควี2 แบบยาเดี่ยวได้ [14]

งานวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด19 ในคน

นับถึง ณ วันนี้ยังไม่เคยมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยระดับสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบดูการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด19 ในคนเลยแม้แต่งานเดียว แต่ผมทราบจากการสอบถามว่าได้เคยมีการวิจัยเล็กๆกับอาสาสมัครวัยหนุ่มสาวที่ติดเชื้อโควิดระดับเบาจำนวน 6 คนที่รพ.สมุทรปราการโดยให้กินสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีแอนโดรกราฟโฟไลด์ 20 มก.ต่อแคปซูล กินครั้งละ 3 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง นาน 5 วัน ควบคู่ไปกับการรักษาโควิดตามปกติ พบว่าอาการไอ เจ็บคอ เสมหะมาก ปวดหัวลดลงหลังวันที่สามของการกินยาโดยไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ยกเว้นผู้ป่วยหนึ่งคนที่ตรวจพบว่าเกิดตับอักเสบขึ้น (ALT สูง 1.7 เท่า) โดยที่ค่ากลับมาเป็นปกติเมื่อหยุดการรักษา น่าเสียดายที่งานวิจัยคนไข้ไทย 6 รายนี้ไม่ได้ตีพิมพ์ผลไว้ที่ไหนเลย เป็นแค่เรื่องเล่า ผมจึงหารายละเอียดเพิ่มเติมไม่ได้ แต่ก็ทำให้ได้ทราบสองอย่างคือ (1) ขนาด 180 มก.ของแอนโดรกราฟโฟไลด์ต่อวันเป็นขนาดที่ไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงและได้ผลในการบรรเทาอาการของโรคโควิด19ระดับเบา และ (2) ในขนาดนี้ผู้ป่วยโควิดหนึ่งในหกหรือ 16% อาจจะเกิดตับอักเสบระดับไม่มีอาการขึ้น แต่ว่ากลับเป็นปกติได้หลังจบการรักษา

ต่อมาผมได้อ่านบทความในลักษณะเรื่องเล่าเช่นกัน โดยเล่าไว้ในวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเมื่อต้นปีนี้เอง[13] ว่าขณะนี้กำลังมีการวิจัยในคนไทยโดยทำโดยกรมแพทย์แผนไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัช ร่วมกับอีก 9 โรงพยาบาล ผมเข้าใจเอาเองว่าเป็นการวิจัยในรูปแบบของการย้อนหลังดูกลุ่มคน (retrospective cohort study) โดยย้อนไปดูผู้ป่วยโรคโควิด19 ระดับอาการเบาจำนวน 309 คนกินฟ้าทะลายโจรขนาด 180 มก.ของแอนโดรกราฟโฟไลด์ต่อวัน เทียบกับผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้กินฟ้าทะลายโจร 526 คน พบว่ากลุ่มกินฟ้าทะลายโจรมีอาการดีขึ้นเร็วกว่าตั้งแต่วันที่ 1-5 โดยที่เกิดปอดอักเสบต้องใส่ท่อหายใจเพียง 3 ราย (0.97%) ขณะที่กลุ่มไม่ได้กินฟ้าทะลายโจรมีอาการรุนแรงกว่า กล่าวคือมีภาวะปอดอักเสบหรือใส่ท่อช่วยหายใจ 77 ราย (14.64%) ซึ่งแปลว่าให้ผลลดการใส่ท่อได้ดีมาก แต่ในบทความที่เขียนแบบเรื่องเล่านี้ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดว่ามีตับอักเสบเกิดขึ้นหรือไม่เลย (น่าเสียดายมาก) เล่าแต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าในการรักษาพบว่าค่ารักษาด้วยฟ้าทะลายโจรอยู่ที่ประมาณ 180 บาทต่อคน ส่วนค่ารักษาด้วยยา Favipiravir อยู่ที่ประมาณ 4,800 บาทต่อคน ผลวิจัยอย่างเป็นทางการยังไม่ได้ตีพิมพ์ แต่ข้อมูลแค่นี้ก็เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากโขอยู่ ผมจึงตั้งตารอดูผลวิจัยจริงที่จะตีพิมพ์ด้วยใจจดจ่อ

ข้อมูลทั้งหมดมีแค่นี้..แล้วไงต่อ

บนข้อมูลที่มีอยู่แค่นี้ และข้อมูลสำคัญเป็นข้อมูลระดับไม่เป็นทางการซะด้วย จึงไม่แปลกว่าทำไมวงการแพทย์ยังไม่ยอมขยับเอาฟ้าทะลายโจรมาเป็นยามาตรฐานในการรักษาคนไข้โควิด19เสียที ก็เพราะว่าหลักฐานมันยังไม่พอ อย่างน้อยก็ควรรอผลวิจัยในคนไทย 309 คนใน 9 โรงพยาบาลที่เพิ่งทำจบให้สรุปตีพิมพ์ได้เป็นเรื่องเป็นราวก่อน ซึ่งอีกไม่นานก็น่าจะสรุปได้แล้วแหละ ใจเย็นๆนะคะคุณพี่

คำแนะนำของหมอสันต์สำหรับผู้อยากใช้ฟ้าทะลายโจร

  1. คำแนะนำนี้ผมขอพูดถึงขนาดยาโดยใช้แอนโดรกราฟโฟไลด์เป็นหลัก ตรงนี้ผมอธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะ คือยาฟ้าทะลายโจรแคปซูลมันมีสองรูป คือแบบผงพืชสมุนไพรทั้งกระบิแบบชาวบ้านเขาทำกันซึ่งจะมีแอนโดรกราฟโฟไลด์ 1-5%ของน้ำหนักแห้ง ขึ้นกับคุณภาพของผง กับอีกรูปแบบหนึ่งเป็นสารสกัดซึ่งบางครั้งก็ทำให้แห้งเป็นผงเหมือนกันแต่มีความเข้มข้นของแอนโดรกราฟโฟไลด์สูงกว่าแล้วแต่จะสกัดแบบไหน ดังนั้นท่านจะกินกี่แคปซูลต้องดูว่าฟ้าทะลายโจรของท่านในหนึ่งแคปซูลมีแอนโดรกราฟโฟไลด์กี่มก.เอาเอง
  2. การกินฟ้าทะลายโจรป้องกันโรคหวัด ให้กินให้ได้แอนโดรกราฟโฟไลด์ 11.2 มก.ต่อวัน (ประมาณ 2-3 แคปซูลผงต่อวัน) สัปดาห์ละ 5 วัน (พักตับเสียสองวัน) กินตลอดช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นหวัด แต่ช่วงละไม่ควรเกิน 3 เดือน ไม่ควรกินตลอดไป เพราะยังไม่มีผลวิจัยว่าตับจะเป็นอย่างไรถ้ากินตลอดไป
  3. ท่านที่อยากกินฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด19ซึ่งเป็นไวรัสทางเดินลมหายใจเหมือนกันกับหวัด จะลองเอาสูตรในข้อ 2 นี้ไปใช้เลยก็ได้ เป็นการทดลองส่วนตัวที่มีความปลอดภัย แต่จะได้ผลในการป้องกันโควิด19จริงหรือเปล่ายังไม่รู้นะ เพราะไม่เคยมีงานวิจัยการกินฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด19
  4. คนที่อยากกินฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาโรคติดเชื้อทางเดินลมหายใจส่วนบนทั่วไป หมายความว่าป่วยเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว ให้กินให้ได้ตัวยาแอนโดรกราฟโฟไลด์วันละ 60 มก. (เทียบประมาณสมุนไพรผงทั่วไป 16 แคปซูลต่อวัน) นาน 5 วัน ถือว่าเป็นวิธีรักษาที่ปลอดภัยและได้ผล
  5. คนที่ป่วยเป็นโควิด19ไปเรียบร้อยแล้วหรือมีอาการที่เดาเอาว่าน่าจะเป็นโควิด19 หากอยากรักษาด้วยฟ้าทะลายโจร มีสองวิธี คือ (วิธีที่ 1) กินแบบการรักษาไข้หวัดใหญ่ในข้อ 4 ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันอยู่ทั่วไป และเป็นวิธีที่หมอสันต์แนะนำ หรือ (วิธีที่ 2) กินขนาดสูงมากตามการวิจัยที่กำลังทำอยู่ซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ ให้ได้ตัวยาแอนโดรกราฟโฟไลด์วันละ 180 มก. นาน 5 วัน (วิธีนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกินในแบบแคปซูลผงบดเพราะต้องกินกันถึงวันละ 40-50 แคปซูลทีเดียว ต้องไปกินในรูปแบบสารสกัดเท่านั้น)
  6. การกินฟ้าทะลายโจรสามารถกินควบคู่ไปกับการรักษาปกติของแพทย์แผนปัจจุบันได้หากผู้ป่วยมีการทำงานของตับและไตปกติ
  7. ในการใช้สมุนไพรทุกชนิด หมอสันต์แนะนำให้ใช้ในรูปของผงบดแห้งดีกว่าในรูปสารที่สกัดออกมาเป็นโมเลกุลเดี่ยว เพราะโมเลกุลที่ออกฤทธิ์ในสมุนไพรมีมากมายหลายชนิดซึ่งความรู้วิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง การสกัดเอาสารเพียงบางตัวออกมาใช้ไม่สามารถออกฤทธิ์แทนสารออกฤทธิ์อื่นๆที่มีอยู่ในสมุนไพรนั้นทั้งหมดได้ การกินแบบทั้งหมด (ผงป่น) จึงดีกว่าการกินสารสกัด

ปล. ผมเพิ่งได้รับข้อมูลจากแพทย์ท่านหนึ่งว่าได้ทำงานวิจัยอีกงานหนึ่ง เป็นการวิจัยระดับสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ขณะนี้ทำเสร็จแล้วกำลังรอตีพิมพ์ ในงานวิจัยนี้ใช้ผู้ป่วย 57 คน สุ่มแบ่งเป็นสองกลุ่มให้กินฟ้าทะลายโจรขนาด 180 มก.ต่อวันนาน 5 วันของแอนโดรกราฟโฟไลด์กับอีกกลุ่มหนึ่งกินยาหลอกโดยเอาการเกิดปอดบวมเป็นตัวชี้วัด ได้ผลว่ากลุ่มกินฟ้าทะลายโจรไม่เป็นปอดบวมเลย กลุ่มกินยาหลอกเป็นปอดบวม 3 คนซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จึงสรุปผลวิจัยว่าฟ้าทะลายโจรลดการเกิดปอดบวมในคนไข้โควิดได้ งานวิจัยนี้เมื่อได้ตีพิมพ์แล้วก็จะถือว่าเป็นงานวิจัยระดับสูงสุดที่ได้ทำกันมา

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

  1. Qin LH, Kong L, Shi GJ, Wang ZT, Ge BX. Andrographolide inhibits the production of TNF-alpha and interleukin-12 in lipopolysaccharide-stimulated macrophages: role of mitogen-activated protein kinases. Biol Pharm Bull. 2006.29(2):220-4.
  2. Shen YC, Chen CF, Chiou WF. Andrographolide prevents oxygen radical production by human neutrophils: possible mechanism(s) involved in its anti-inflammatory effect. Br J Pharmacol. 2002;135(2):399-406.
  3. Batkhuu J, Hattori K, Takano F, Fushiya S, Oshiman K, Fujimiya Y. Suppression of NO production in activated macrophages in vitro and ex vivo by neoandrographolide isolated from Andrographis paniculata. Biol Pharm Bull. 2002;25(9):1169-74
  4. Liu J, Wang ZT, Ge BX. Andrograpanin, isolated from Andrographis paniculata, exhibits anti-inflammatory property in lipopolysaccharide-induced macrophage cells through down-regulating the p38 MAPKs signaling pathways. Int Immunopharmacol. 2008;8:951-8.
  5. Sulaiman MR, Zakaria ZA, Abdul Rahman A, Mohamad AS, Desa MN, Stanslas J, Moin S, Israf DA. Antinociceptive and antiedematogenic activities of andrographolide isolated from Andrographis paniculata in animal models. Biol Res Nurs. 2010;11(3):293-301.
  6. Madav S, Tripathi HC, Tandan MSK. Analgesic, antipyretic and antiulcerogenic effects of andrographolide. Indian J Pharm Sci. 1995;57(3):121-5.
  7. Nosálová G, Majee SK, Ghosh K, Raja W, Chatterjee UR, Jureček L, Ray B. Antitussive arabinogalactan of Andrographis paniculata demonstrates synergistic effect with andrographolide. Int J Biol Macromol. 2014;69:151-7.
  8. Rajagopal S, Ajaya Kumar R, Deevi DS, Satyanarayana C, Rajagopalan R. Andrographolide, a potential cancer therapeutic agent isolated from Andrographis paniculata. J Exp Ther Oncol. 2003;3:147-58
  9. Chen JX, Xue HJ, Ye WC, Fang BH, Liu YH, Yuan SH, Yu P, Wang YQ. Activity of andrographolide and its derivatives against influenza virus in vivo and in vitro. Biol Pharm Bull. 2009;32(8):1385-91.
  10. Caceres DD, Hancke JL, Burgos RA, Wikman GK. Prevention of common colds with Andrographis paniculata dried extract. A pilot double blind trial. Phytomedicine. 1997;4(2):101-4.
  11. Saxena RC, Singh R, Kumar P, Yadav SC, Negi MPS, Saxena VS, Amit A. A randomized double blind placebo controlled clinical evaluation of extract of Andrographis paniculata (KalmCold™) in patients with uncomplicated upper respiratory tract infection. Phytomedicine. 2010;17(3-4):178-85
  12. Shi TZ, Huang YL, Chen CC, Pi WC, Hsu YL, Lo LC, Chen WY, Fu SL, Lin CH. Andrographolide and its fluorescent derivative inhibit the main proteases of 2019-nCoV and SARS-CoV through covalent linkage. Biochem Biophys Res Commun. 2020;533(3):67–473.
  13. อัมพร เบญจพลพิทักษ์, ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ธิติ แสวงธรรม, เทวัญ ธานีรัตน์, กุลธนิต วนรัตน์. รายงานสังเขปผลการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วย COVID-19. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2564 หน้า 231-232.
  14. Khanit Sa-ngiamsuntorn, Ampa Suksatu et al. Anti-SARS-CoV-2 Activity of Andrographis paniculata Extract and Its Major Component Andrographolide in Human Lung Epithelial Cells and Cytotoxicity Evaluation in Major Organ Cell Representatives. Nat. Prod. 2021, 84, 4, 1261–1270. https://doi.org/10.1021/acs.jnatprod.0c01324