Latest

ควรฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กไหม

สวัสดีค่ะคุณหมอ

อยากรบกวนขอความคิดเห็นคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดในเด็ก อายุต่ำกว่า 18ปีค่ะ (ลูก2คนอยู่ในกลุ่ม12-17ปี ไม่มีโรคประจำตัว)
1. ควรฉีดวัคซีนหรือไม่คะ (เพราะจากที่ติดตามข่าว เด็กกลุ่ม 12-17ปี มีอัตราการเข้า รพ. น้อย และอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กไม่มีโรคประจำตัว
2. หากมีทางเลือก ควรเลือกประเภทไหนคะ ระหว่าง วัคซีนเชื้อตาย และ mrna

หวังว่าอาจารย์จะช่วยให้แนวทางผู้ปกครองเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ เพราะ หลายโรงเรียนเริ่มรวบรวมรายชื่อเด็กที่จะฉีดแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ

………………………………………………………….

ตอบครับ

1.. ถามว่าเด็กอายุ 12-17 ปีมีวัคซีนให้ฉีดไหม ตอบว่ามีครับ แต่อายุต่ำกว่า 12 ปียังไม่มีวัคซีนที่วิจัยมาสำหรับกลุ่มอายุนี้โดยเฉพาะ ต้องรองานวิจัยใหม่

2. ถามว่าในแง่ของประโยชน์ ควรฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กไหม ตอบว่าข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐแนะนำให้ฉีดวัคซีนให้เด็กโดยอ้างอัตราตายของเด็กจากโควิดว่ามากอย่างมีนัยสำคัญพอที่จะใช้วัคซีนหากเทียบกับโรคอื่นๆที่ใช้วัคซีนอยู่เช่นวัคซีนหัด แต่ว่าที่เขาไปนับนั้นเป็นการตายของเด็กที่ตรวจ RT-PCR ได้ผลบวกทั้งหมด คือตายจากอะไรไม่รู้นับหมด ผมจึงไม่เชื่อถือข้อมูลของ USA-CDC

ข้อมูลทางอังกฤษเชื่อถือได้มากกว่า คือทั้งเกาะอังกฤษซึ่งมีประชากรเด็กราว 12 ล้านคน ตายเพราะโควิดเสีย 25 คน อัตราตาย 2 คนต่อล้านคน (0.001%) ในจำนวน 25 คนที่ตายนี้ 15 คนเป็นโรคเรื้อรังทางระบบประสาทและระบบอื่น จะเห็นว่าอัตราตายต่ำมากจนไม่คุ้มค่าที่จะไปฉีดวัคซีนแม้ว่าวัคซีนนั้นจะไม่มีความเสี่ยงเลยก็ตาม รัฐบาลอังกฤษจึงไม่ยอมฉีดวัคซีนให้เด็กแม้กระทั่งเด็กที่เป็นโรคเรื้อรังก็ไม่ยอมฉีดให้ เพราะประโยชน์ที่ได้มันน้อยเกินไป

การจะฉีดวัคซีนเพื่อหวังประโยชน์ไม่ให้เด็กเอาโรคไปติดปู่ย่าตายายที่บ้านนั้นเป็นตรรกะที่ไร้สาระ เพราะปู่ย่าตายายถูกจับฉีดวัคซีนไปเกือบหมดแล้ว เช่นในกทม.ฉีดผู้สูงอายุไปแล้ว 95%

การจะฉีดวัคซีนเด็กเพื่อช่วยให้สังคมเกิด herd immunity โดยเร็วก็เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะด้วยอัตราการติดเชื้อหลังฉีดวัคซีน (breakthrough infection) ที่มากอย่างปัจจุบันนี้ herd immunity จากวัคซีนไม่มีวันเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่จะต้องได้เป็นโรคโควิดกันถ้วนทั่วไม่วันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า ไม่ว่าจะได้วัคซีนแล้วหรือไม่ได้ก็ตาม

3. ถามว่าในแง่ความเสี่ยงของการฉีดวัคซีนให้เด็กมีอะไรบ้าง ตอบว่ายังไม่รู้ เพราะงานวิจัยระยะที่สามของวัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นามีเด็กอายุ 12-17 ปีเป็นอาสาสมัครร่วมวิจัยน้อยมาก ถ้าผมจำไม่ผิดไฟเซอร์มีราวสามพันคน โมเดอร์นามีราวสองพันคน สมมุติว่าถ้ามีผลร้ายของวัคซีนต่อเด็กเกิดในอัตรา 1:5000 (ซึ่งถือว่าเป็นอัตราสูงมาก) แต่งานวิจัยทั้งสองอาจไม่พบผลร้ายนั้นเลยเพราะกลุ่มตัวอย่างน้อยเกินไป ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีนั้นยังไม่มีงานวิจัยเลย ต้องรองานวิจัยใหม่แน่นอน

4. ถามว่าถ้าพ่อแม่อยากจะฉีดวัคซีนให้เด็กควรเลือกฉีดวัคซีนตัวไหน ตอบว่าข้อมูลปัจจุบันนี้ยังมีไม่พอที่จะให้คำแนะนำนี้ได้ เพราะความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนในเด็กไม่มีข้อมูลเลย

แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำโดยถือเอาตามอคติส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับหลักฐานวิทยาศาสตร์ ผมแนะนำให้เลือกวัคซีนเชื้อตายเช่น sinovac เป็นอันดับแรก คือปลอดภัยสูงสุด รองลงมาผมแนะนำวัคซีน mRNA โดยผมไม่แนะนำวัคซีน virus vector (DNA vaccine) คำแนะนำของผมมีพื้นฐานอยู่บนความกลัวกลไกการทำงานของวัคซีนชนิดไวรัสเว็คเตอร์ซึ่งต้องอาศัยไวรัสเอาตัววัคซีนซึ่งเป็น DNA เข้าไปปล่อยในเซลของมนุษย์ ซึ่งมันจะเข้าไปในนิวเคลียสของเซล ไปแจมกับรหัสพันธุกรรม (DNA) ของคน เพื่อให้เกิดการก๊อปปี้เอาคำสั่งผลิต (mRNA) ออกมาเพื่อส่งคำสั่งนี้ไปให้ไรโบโซมซึ่งเป็นโรงงานผลิตของเซลทำการผลิตโปรตีนชื่อ spike protein ออกมาเป็นเป้าล่อให้ระบบภูมิคุ้มกันผลิตแอนตี้บอดี้ออกมาทำลายเป้านี้ ประเด็นสำคัญคือยังไม่มีใครรู้ว่า DNA vaccine เข้าไปแจมกับ DNA ของคนอีท่าไหน แจมแล้วจะทิ้งบางท่อนไว้กลายเป็นรหัสพันธ์ุกรรมถาวรหรือเปล่า พูดง่ายๆว่ายังไม่มีใครรู้ว่าวัคซีนชนิดนี้จะเกิดการเปลี่ยนยีนของมนุษย์หรือเปล่า กว่าจะรู้ก็ต้องรอให้เด็กที่ได้วัคซีนออกลูกมาแล้วโน่นแหละ

ส่วนกลไกการทำงานของวัคซีน mRNA ซึ่งเป็นของใหม่เหมือนกันนั้นไม่ฉวัดเฉวียนเท่า คือตัววัคซีนทำหน้าที่เป็นใบสั่งผลิตวิ่งตรงไปหาไรโบโซมเพื่อสั่งผลิต spike protein เลยโดยไม่เข้าไปในนิวเคลียส ไม่ไปยุ่งกับ DNA ของเซลมนุษย์

สำหรับวัคซีนเชื้อตายนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นวัคซีนที่เด็กๆได้กันมาตั้งแต่เล็กจนโต

พูดถึงวัคซีนที่เด็กๆได้สมัยนี้คุณเชื่อไหมเด็กคนหนึ่งกว่าจะโตมาได้ต้องได้วัคซีนกี่เข็ม ต้องได้ถึง 40 เข็มเชียวนะ เพราะยิ่งวิชาความรู้แพทย์เจริญ มีบริษัทผู้ผลิตมาก มีหมอมาก วัคซีนยิ่งออกมามาก ลูกค้าซึ่งก็คือเด็กก็ต้องเดือดร้อนและเจ็บตัวกันไปตามระเบียบ พูดก็พูดเถอะ ความเจริญของวัคซีนนี้ แม้แต่ไก่ก็ยังเดือดร้อนเลย วันก่อนผมมีความคิดจะหาซื้อไก่สาวไปให้สามีของเด็กแม่บ้านเลี้ยงเป็นการให้หัดผลิตอาหารกินเองแบบเศรษฐกิจพอเพียง จึงไปช็อปไก่ดู คนขายไก่คุยว่าไก่ของเขาสุขภาพดีและได้วัคซีนครบถ้วน ผมถามว่าแต่ละตัวได้วัคซีนไปทั้งหมดกี่เข็ม คนขายไก่ตอบว่าได้ตัวละ 18 เข็ม

“…ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น”

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์