Latest

วัคซีนเข็มสาม เถียงกันในครอบครัวเกือบทุกวันว่าจะฉีด หรือไม่ฉีด

เรื่อง ณ วันนี้ วัคซีนเข็มสามก็ยังคงไม่น่าไปฉีดใช่ไม๊คะ
สวัสดีค่ะ คุณหมอสันต์
จากที่คุณหมอเคยตอบเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามนั้น ตอนนี้ได้รับแรงกดดันจากคนรอบข้างหลายๆคนให้ไปฉีดเข็มสาม ฟังข่าวจากหลายแหล่ง หลายหมอก็แนะนำให้ฉีด เราก็เถียงด้วยข้อมูลที่คุณหมอสันต์เคยแนะนำ แต่มาถึงวันนี้ คนรอบๆตัวเราก็บอกว่าข้อมูลเราเก่าเกินไปแล้ว เลยอยากขอเรียนถามคุณหมอว่า ณ วันนี้ถ้าถามคุณหมอว่าเราควรฉีดกระตุ้นเข็มสามหรือไม่ คุณหมอยังคงแนะนำเช่นเดิมรึเปล่าคะ หรือมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการตัดสินใจว่าวัคซีนกระตุ้นเข็มสามจำเป็นรึเปล่าคะ รบกวนคุณหมอช่วยชี้แนะด้วยนะคะ เพราะเถียงกันในครอบครัวเกือบทุกวันว่าจะฉีด หรือไม่ฉีด เป็นห่วงคุณแม่ซึ่งอายุ 82 ด้วยค่ะ ตัดสินใจยังไงดีคะ
ขอบพระคุณคุณหมอสันต์ค่ะ

……………………………………………………………

ตอบครับ

1.. ถามว่าแผนวัคซีนโควิดโดยทั่วไป อย่างไรถึงจะเรียกว่าวัคซีนไม่พอหรือไม่ update ตอบว่า ณ ขณะนี้หากถือตามศูนย์ควบคุมโรคอเมริกา หากหลังวัคซีนเข็มสองแล้วภายใน 5 เดือนยังไม่ได้วัคซีนเข็มสาม ถือว่าวัคซีนไม่พอ หรือไม่ update ครับ

2.. ถามว่าเขามีหลักฐานอะไรที่เชียร์ให้ฉีดเข็มสาม ตอบว่าเขาใช้วิธีตรวจวัดปริมาณภูมิคุ้มกันต่อโควิดในเลือด (immunoglobulin) ครับ ไม่ได้ใช้อัตราการติดเชื้อจริงเพราะข้อมูลอัตราการติดเชื้อเปรียบเทียบคนฉีดเข็มสามกับไม่ฉีดยังไม่มีครับ

3.. ถามว่าเมื่อยังไม่มีข้อมูลว่าวัคซีนเข็มสามจะลดการติดเชื้อจริงหรือไม่ มีแต่ว่าเพิ่มจำนวนโมเลกุลภูมิคุ้มกันได้ แล้วการฉีดวัคซีนเข็มสามจะคุ้มความเสี่ยงไหม ตอบว่าก็ในเมื่อไม่มีข้อมูลการติดเชื้อจริงมาเปรียบเทียบในรูปของการวิจัย RCT ก็จึงยังไม่มีใครจะตอบข้อนี้ได้สิครับ ดังนั้น ผู้รับวัคซีนต้องตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับเอาจากดุลพินิจของตัวเองครับ

4.. ถามว่าการฉีดเข็มสามจะนำไปสู่เข็มสี่ ห้า หก หรือไม่ ตอบว่ามันนำไปสู่เข็มสี่ ห้า หก แน่นอนครับด้วยคอนเซ็พท์ของการต้องคอย update วัคซีนให้ภูมิคุ้มกันคงอยู่ในระดับสูงตามที่ผมนิยามไว้ในข้อ 1. เพราะแผนวัคซีนของโควิดมีแนวโน้มจะทำแบบแผนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ อย่างสมัยนี้ไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดกันปีละครั้งทุกปีทุกคนที่อายุเกินหกเดือน ผมเดาเอาว่าวัคซีนโควิดจะออกมาอีหรอบเดียวกัน เพราะทุกฝ่าย (ผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้สั่งจ่าย ผู้ใช้) ต่างเฮโลกันไปทางนั้น ผมเดาเอาว่ามันจะเป็นเช่นนี้ไป จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อมีหลักฐานที่หนักแน่นโผล่ออกมาว่ามันไม่คุ้มเพราะผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งจะมีวันนั้นหรือไม่ ยังไม่มีใครทราบครับ

5. ถามว่าหมอสันต์มีจุดยืนอย่างไรในการฉีดวัคซีนโควิด ตอบว่า

(1) เรื่องวัคซีนเข็ม 3, 4, 5, 6 ในผู้ใหญ่ ข้อมูลยังไม่พอที่จะแนะนำอะไร ดังนั้นตัวใครตัวมันครับ เอาแบบที่ท่านชอบ

(2) เรื่องวัคซีนโควิดในเด็ก แม้ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐจะแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิดในเด็กโดยอ้างว่าความเสี่ยงของการไม่ฉีดเท่าหรือมากกว่าโรคหัดซึ่งเป็นโรคที่เราจับเด็กฉีดวัคซีนหมด แต่ผมเองมีคำแนะนำที่ไม่เหมือน CDC คือผมแนะนำว่าเด็กไม่ควรฉีดวัคซีนโควิดในพ.ศ.นี้ เพราะความเสี่ยงที่เด็กจะเป็นอะไรไปเพราะโรคโควิดนั้นมีน้อยมาก (นี่ผมยังไม่เกี่ยงว่าวิธีประเมินอัตราตายของเด็กจากโควิดของทางอเมริกานั้นใช้วิธีแบบเหมาโหลซึ่งต่างจากวิธีของอังกฤษซึ่งใช้วิธีวิเคราะห์เหตุเป็นรายคนนะ) ขณะที่ความเสี่ยงของวัคซีนโควิดต่อเด็กในระยะยาวยังไม่มีใครทราบเลย คือวิธีการผลิตวัคซีนทั้ง DNA และ RNA เนี่ยมันพิศดารมากนะครับ อ่านกระบวนการผลิตแล้วมันอะเมซซิ่งยิ่งกว่าอ่านนิยายวิทยาศาสตร์เสียอีก หากไม่มีโควิดมา ผมว่าต้องรออีกไม่รู้กี่สิบปีกว่าวัคซีน DNA และ RNA จะได้ออกมาใช้ แต่เพราะโควิดเราจึงเอามันออกมาใช้แบบพรวดพราด ดังนั้นมันต่างจากวัคซีนหัดซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าความเสี่ยงของวัคซีนหัดต่ำมาก แต่วัคซีนโควิดนี่ต้องรออีก 20 ปีจึงจะทราบ ชั่งน้ำหนักแล้ว ประโยชน์มีน้อยแน่นอน ผลเสียอาจมากหรือน้อยยังไม่รู้ ส่วนประเด็นที่ว่าฉีดเด็กเพื่อป้องกันผู้ใหญ่นั้น หิ หิ นับถึงวันนี้ยังไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียวนะครับที่จะยืนยันว่าการฉีดวัคซีนให้เด็กจะป้องกันผู้ใหญ่ที่บ้านไม่ให้ป่วยได้ ดังนั้นกล่าวโดยสรุป ผมจึงแนะนำว่าเด็กยังไม่ควรฉีดวัคซีนโควิดครับ นี่เป็นคำแนะนำส่วนตัวนะครับ ซึ่งอาจไม่เหมือนกับแผนวัคซีนของชาติ หรือแผนวัคซีนของ CDC สหรัฐ แต่ผมยอมพูดแม้จะแตกต่างจากแผนวัคซีนของชาติเพราะในฐานะแพทย์ผมมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลและแนะนำอะไรบนข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่นับถึงวันนี้ที่ตัวผมเองชั่งตวงวัดได้ หากท่านผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลมากกว่าที่ผมมีแล้วช่วยบอกผมมาเอาบุญ หากผมประเมินแล้วว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อได้จริงในเชิงวิทยาศาสตร์ ผมก็เปลี่ยนคำแนะนำของผมตามข้อมูลใหม่ได้ครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์