(ภาพวันนี้: ดอกเสลาที่ไร่นางฟ้า)

ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนถามคุณหมอสักหน่อยครับ ผมอายุ55ปี สูง 168 ซม. หนัก 65 กก. ไม่เป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดอยู่ประมาณ 210 น้ำตาลอยู่ประมาณ100เป็นคนที่ออกกำลังกายวิ่งอยู่เป็นประจำ วิ่งมาได้ประมาณ4-5ปีแล้วครับ อาทิตย์ละ4-5วันเดือนละประมาณ 200-300กิโลเมตร เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วผมวิ่งไปได้ประมาณ 2-3 กิโลแรก ผมรู้สึกปวดกลางหน้าอก ผมก็ยังวิ่งต่อจนจบ7กิโลเมตรผมคิดว่าผมอาจจะเป็นกรดไหลย้อน ผมทำแบบเดิมประมาณ2สัปดาห์โดยทานยารักษาอาการกรดไหลย้อน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ยังคงเหมือนเดิม ผมเลยตัดสินใจไปพบแพทย์โรคหัวใจ หลังจากทำการตรวจวินิจฉัย พบว่า หลอดเลือดกล้ามเนื้อหัวใจด้านขวาผมตีบ99%ส่วนอีกสองเส้นยังโอเคดีอยู่ เส้นที่ตีบต้องรีบทำการสวนหัวใจทำบอลลูน เพิ่งจะทำไปเมื่อคืนวาน หลังจากออกจาก รพ.ผมได้รับการบอกกล่าวจากคุณหมอที่ทำการรักษาว่า ผมจะต้องทานยา Ticagrelor, Xarator,Aspirin ไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะทำ ผมอยากรบกวนขอคำแนะนำจากคุณหมอสักหน่อยครับ ว่าถ้าผมไม่ทานยาเหล่านั้น แล้วหันมาดูแลเรื่องอาหารและการออกกำลังกายแทนจะได้มั๊ยครับ ถ้าไม่ทานยามันจะทำให้ตรงส่วนที่ผมทำบอลลูนมันกลับมาตีบอีกรึป่าว ที่ผมไม่อยากทานยาไปตลอดชีวิตเพราะผมคิดว่าจะเกษียณตัวเองปีหน้าหลังจากลูกๆผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมอยากใช้ชีวิตแบบคุณหมอครับ ผมชอบการออกกำลังกาย ออกเรือไปตกปลา แต่ผมคิดว่าการกินยาพวกนั้นมันอาจเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของผม ผมไม่รู้จะถามใคร ผมถามแพทย์ที่รักษาผมก็มีคำตอบเดียวคือต้องกิน ผมเองติดตามดูคลิปวีดีโอของคุณหมอมาหลายปีแล้วก็พยายามทำตามแต่ลำบากเรื่องอาหารครับเพราะเวลาทำงานมันเลือกอาหารลำบาก แต่หลังจากนี้ถ้าสิ่งที่ผมถามไป ถ้าทำไป ผมจะเลือกคุมอาหารที่กินมากกว่าการที่ต้องกินยาพวกนั้นครับ ขอรบกวนเวลาคุณหมอสั้นๆเพียงแค่นี้ครับ

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

ตอบครับ

1.. ถามว่ากำลังวิ่งออกกำลังกายแล้วเจ็บแน่นหน้าอกหยุดพักแล้วหาย เป็นโรคหัวใจหรือเป็นกรดไหลย้อน ตอบว่าเป็นโรคหัวใจแหงแซะ ภาษาหมอเรียกว่าอาการเจ็บหน้าอกขณะออกแรง ซึ่งเป็นอาการหลักของโรคหัวใจขาดเลือดชนิดไม่ด่วน (stable angina)

2.. ถามว่าเจ็บหน้าอกเวลาออกแรงพักแล้วหาย สวนหัวใจแล้วหลอดเลือดหัวใจด้านขวา (RCA) ตีบ99%ส่วนอีกสองเส้นยังโอเคดีอยู่ ต้องรีบทำบอลลูนไหม ตอบว่าไม่ต้องรีบทำหรอกครับ เพราะงานวิจัยคนไข้กลุ่มนี้พบว่าทำบอลลูนกับไม่ทำบอลลูนในระยะยาวก็ตายเท่ากัน การทำบอลลูนจึงสงวนไว้ทำเฉพาะกรณีที่อาการมากจนรบกวนคุณภาพชีวิตและการบำบัดด้วยการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตเต็มที่แล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่านั้น

3.. หลังทำบอลลูนแล้วหมอบอกว่าต้องกินยา Ticagrelor, Xarator, Aspirin ไปตลอดชีวิต จะไม่กินได้ไหม ตอบว่ามาถามอะไรตอนป่านฉะนี้ละครับ คำถามนี้คุณต้องถามก่อนการทำบอลลูน หมายถึงว่าคุณต้องมองข้ามช็อตก่อนตัดสินใจทำบอลลูน ว่าประโยชน์และความเสี่ยงของการทำบอลลูนกับไม่ทำชั่งน้ำหนักแล้วข้างไหนดีเสียมากกว่ากัน

ตรงนี้ผมขอถือโอกาสประกาศให้แฟนบล็อกทุกท่านทราบเสียเลย ว่าการต้องกินยาต้านเกล็ดเลือด (Ticagrelor + Aspirin) เป็นมาตรฐานที่มาพร้อมกับการทำบอลลูนขยายหลอดเลือด เหมือนซื้อเหล้าบังคับแถมเบียร์ คุณจะไม่เอาไม่ได้ ถ้าจะไม่เอาก็อย่าซื้อเหล้า ส่วนยา Xarator นั้นเป็นยาลดไขมัน หากคุณสามารถปรับอาหารจนไขมันเลว (LDL) ลดลงต่ำกว่า 70 มก./ดล. ได้ คุณไม่ต้องกินก็ได้

4้.. ถามว่าถ้าดื้อแพ่งไม่ยอมกินยาต้านเกล็ดเลือดตามที่หมอบอกจะมีอะไรไหม ตอบว่าก็ไม่มีอะไร อย่างน้อยตำรวจก็ไม่จับคุณ แต่หมออาจจะไล่คุณออกจากคลินิกไม่ยอมรักษาคุณต่อ เพราะเขากลัวว่าเมื่อคุณเป็นอะไรไปแล้วลูกคุณไปฟ้องศาลเวลาขึ้นศาลแล้วหมอเขาจะโดนข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างเลินเล่อ หมายความว่าทำผิดหลักวิชา เพราะหลักวิชาปัจจุบันนี้ทำบอลลูนแล้วต้องตามด้วยยาต้านเกล็ดเลือดสองอย่างควบ ถึงคุณไม่อยากกินหมอเขาก็ไม่ยอมตามใจคุณเพราะมันขัดหลักวิชา

ขอผมเล่านอกเรื่องหน่อยนะนานยี่สิบปีมาแล้ว หมอสูติท่านหนึ่งผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้องเพื่อเอาฤกษ์ตามใจแม่ แต่โชคไม่ดีเด็กออกมาตัวเล็กเกินไปแล้วตาย ญาติไปฟ้องศาล หมอให้การว่าทำเพราะแม่เด็กร้องขอจะเอาฤกษ์ คุณคิดว่าศาลจะเห็นดีเห็นงามกับหมอไหม หิ หิ เคสนั้นหมอถูกตัดสินให้จ่ายอ่วมแถมลงโทษจำคุกด้วยนะคุณ เพราะเรียนมาถึงเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญแล้วยังดันไปเออออกับคนไข้เรื่องฤกษ์ผานาที

กรณีของคุณนี้ผมช่วยคุณได้แต่ให้ข้อมูลทางการแพทย์ว่าหลังทำบอลลูนแล้ว หากคุณกินยาตามหมอบอก มันมีโอกาส 50%ใน 5 ปี ที่คุณจะต้องกลับมาทำบอลลูนซ้ำเพราะมันตีบในรูของขดลวด (in stent stenosis) บ้าง มันตีบที่ใหม่บ้าง นี่เป็นอัตราการตีบซ้ำที่วงการแพทย์ยอมรับได้ นี่พูดถึงกรณีคุณกินยานะ กรณีที่คุณไม่กินยาต้านเกล็ดเลือด อัตราการอุดตันในขดลวดจะสูงจนวงการแพทย์ยอมรับไม่ได้ พูดง่ายๆว่าถ้าอัตราการอุดตันสูงขนาดนั้นอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรดีกว่า

5.. ถามว่าไม่กินยาแล้วแต่จะใช้ชีวิตแบบหมอสันต์แทนจะได้ไหม ตอบว่า..อ้าว ก็คุณเองเพิ่งให้การไปแหม็บๆว่าติดตามดูคลิปวีดีโอของหมอสันต์มาหลายปีแล้วแต่ทำตามไม่ได้เพราะโน่นนี่นั่น แล้วคุณจะเอาน้ำยาอะไรมาพูดให้ศาลเชื่อละครับว่าต่อแต่นี้ไปคุณจะทำอย่างนั้นได้จริง (หิ หิ ขอโทษ พูดเล่น)

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์