Latest

การพลิกผันโรคไตเรื้อรังด้วยตนเอง เรียนรู้จากคนจริงๆตัวเป็นๆ

สมาชิกที่มาเข้าแค้มป์ RDBY ท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์การเจ็บป่วยของตัวเองให้เพื่อนร่วมแค้มป์ฟัง ผมเห็นว่าเป็นเรื่องราวที่มีประโยชน์ จึงขอเอามาเล่าต่อให้แฟนบล็อก

“..ผมอายุ 65 ปี เรื่องมันเริ่มจากการที่ผมเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาไขมันในเลือดสูงและมีป้ญหาอ้วน (นน. 81 กก.) แล้วถูกส่งต่อไปพบหมอโรคไตเพราะผลตรวจเลือดพบว่าเป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3 คือตรวจได้ eGFR 43 หมอโรคไตถามว่าไม่ทราบหรือว่าเป็นโรคไตเรื้อรังมาสามปีแล้ว เพราะผลตรวจเลือดเมื่อสามปีที่แล้วการทำงานของไตก็แย่ประมาณนี้แล้ว ผมตอบว่าไม่ทราบเลยเพราะทางคุณหมอไม่เคยบอก

ผมกับภรรยาถามว่าแล้วจะมีวิธีไหนที่จะทำให้โรคไตเรื้อรังที่เกิดขึ้นแล้วมันกลับมาดีดังเดิมบ้าง

หมอโบกมือตอบว่าไม่มีทาง โรคไตเรื้อรังไตนั้น ไตเมื่อเสื่อมแล้วก็เสื่อมเลย ไม่มีวันที่จะกลับมาดีได้

เราสองคนพากันใจเสียและวิตกกังวลมาก เพราะตัวผมเองไม่อยากต้องมาล้างไตเข้าๆออกๆโรงพยาบาลในวัยเกษียณ และไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกชายคนเดียว ซึ่งเขาทำงานอยู่ในต่างประเทศ จึงเอาเรื่องนี้ปรับทุกข์กับลูก

ลูกซึ่งเป็นวิศวกรถามผมว่าหมออายุมากหรือยัง ผมตอบว่าก็ประมาณวัยกลางๆคน ลูกบอกว่าอย่าไปเชื่อหมอเพราะหมอยังอายุน้อย ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ จึงรู้ไม่หมด ลูกชายให้ศึกษาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ทรวมทั้งข้อมูลจากบล็อกหมอสันต์ด้วย และสั่งให้พ่อแม่ทำตามเป็นข้อๆ โดยกำชับว่าพ่อกับแม่ต้องดูแลตัวเองอย่าให้ต้องเป็นภาระแก่เขาในอนาคต และกำชับให้ปฏิบัติตัวตามที่บล็อกหมอสันต์อธิบายไว้ คือเปลี่ยนอาหารมาทานอาหารพืชเป็นหลักในรูปแบบไม่สกัดไม่ขัดสีและมีไขมันต่ำ ให้ออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนั้นลูกยังสั่งให้ชั่งน้ำหนักวัดความดันและเจาะเลือดดูค่าต่างๆเช่นน้ำตาล ไขมัน ค่าตับ ค่าไต แล้วส่งผลการตรวจให้เขาดูทุกเดือน

เราซึ่งเป็นพ่อแม่ก็ทำตามที่ลูกสั่งแต่โดยดี โดยเปลี่ยนอาหารที่เคยทานไปเสียอย่างสิ้นเชิง ภรรยาซึ่งไม่อยากเห็นผมต้องมาล้างไตตอนแก่ก็ต้องลงมือทำอาหารเอง อาหารเนื้อสัตว์เลิกไม่ทานเลย นม ไข่ ไก่ ปลา ไม่เอาหมด ไปออกกำลังกายด้วยกันทุกวัน งดอาหารเย็นแบบ IF (intermittent fasting) ด้วย จนสามเดือนผ่านไปน้ำหนักผมลดลงไป 15 กก. จากเดิม 81 เหลือ 66 กก. ดัชนีมวลกายเหลือ 20 ภรรยาผมก็พลอยหุ่นดีขึ้นด้วย น้ำหนักลดลงไป 6 กก. ผลการตรวจเลือดที่ต้องเจาะส่งให้ลูกชายดูทุกเดือนๆก็ดีขึ้นเป็นลำดับ จนครั้งสุดท้ายตัวชี้วัดไต GFR เพิ่มจากเริ่มต้น 43 ขึ้นมาเป็น 73 ซึ่งถือว่าเป็นปกติแล้ว โดยที่ตัวอื่นเช่นน้ำตาล ความดัน ไขมันก็อยู่ในเกณฑ์ปกติหมด โดยทั้งหมดนี้ผมไม่ต้องทานยาอะไรเลย

ลูกบอกว่าให้ไปบอกคุณหมอคนเดิมด้วยว่าที่คุณหมอบอกว่าโรคไตเรื้อรังไตเสื่อมแล้วเสื่อมเลยไม่มีทางกลับดีขึ้นได้นั้นไม่จริงเพื่อเป็นข้อมูลให้คุณหมอได้ทราบไว้ ซึ่งเราสองคนก็กลับไปบอกคุณหมอตามนั้น คุณหมอเห็นผลเลือดที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงจนกลับมาเป็นปกติก็เอ่ยปากขอโทษเรา..”

วันนี้เนื้อหาของเรื่องเล่าของแฟนบล็อกท่านนี้มีความสมบูรณ์ในตัวดีแล้ว ผมไม่มีอะไรต้องเขียนเพิ่มเติมครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์