Latest

ถามเรื่องสุขอนามัยของส้วมในรถบ้าน (RV)

(ภาพวันนี้ : ผลมะตูมบนต้น)

เรียนคุณหมอสันต์คะ

ได้อ่านเรื่องของคุณหมอเกี่ยวกับการปลูกป่ามิยาวากิที่เขาใหญ่ (เรื่องไร้สาระ 27) แล้วชอบมาก จึงตกลงกับสามีว่าจะซื้อรถบ้านสักคันที่ราคาไม่แพงเพื่อจะได้พาลูกไปนอนค้างคืนที่สวนป่ามิยาวากิเขาใหญ่ของคุณหมอหน้าหนาวแต่สามีท้วงติงเรื่องระบบสุขาว่าเพื่อนของเขาซื้อรถ RV ราคาหลายล้านจากเมืองนอกมาแล้วมีปัญหากลิ่นเวลาทิ้งของเสีย อีกทั้งในเมืองไทยยังไม่มีระบบรองรับการทิ้งของเสีย ซื้อรถมาแล้วกลัวจะมีปัญหา หนูอยากจะถามหมอสันต์ว่าถ้าหนูจะซื้อรถบ้านในเมืองไทย ควรจะมีข้อพิจารณาในเรื่องสุขาอย่างไรบ้างคะจึงจะไม่ถูกเขาต้ม และถ้าเป็นหมอสันต์จะซื้อ จะซื้อรถอะไรดี

…………………………………………………………….

ตอบครับ

อ้าว เดี๋ยวนี้หมอสันต์กลายเป็นยี่ปั๊วขายรถไปเสียแล้วหรือนี่ ฮี่ ฮี่ ผมจะไปรู้ได้อย่างไรรถใครยี่ห้อไหนดีอย่างไร ผมตอบคุณไม่ได้ดอก ผมจะตอบคุณเฉพาะเรื่องที่ผมรู้นะ ก็คือเรื่องส้วม เพราะไม่รู้ชาติที่แล้วผมไปทำอะไรมา ชาตินี้จึงต้องมาแก้ปัญหาเรื่องส้วมตลอดชีวิต จนมีใครคนหนึ่งจำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร ขนานนามผมว่า “นายสันต์ คอห่าน”

รถบ้าน หรือ recreation vehicle (RV) ถ้าจะให้ผมแปลก็คือรถที่มีส้วมอยู่ในตัว ผู้โดยสารทำกิจในรถได้เลยไม่ต้องลงมาทำกิจข้างล่าง แต่ว่าแท้จริงแล้วก็ยังต้องมีสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งคนทำหน้าที่เป็นผู้เสียสละลงมาทำกิจปลดของเสียให้รถ ถ้าเป็นการขับรถเที่ยวเมืองนอกก็ต้องปลดทุกวัน ซึ่งหน้าที่นี่ก็ไม่พ้นต้องเป็นของคุณ ซ้า..า มี ตามระเบียบ ดังนั้นที่สามีของคุณเขาทักท้วงนั้นก็ถือเป็นการปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของเขา

ที่เรียกชื่อเหมาเข่งว่ารถบ้านนั้น แท้จริงแล้วมีการออกแบบที่แตกต่างหลากหลาย ถ้าเป็นรถขนาดเล็กราคาไม่แพงวิธีปลดของเสียต้อง “อุ้ม” สุขาเคลื่อนที่ (cassette tank) โทงๆเพื่อเอาไปทิ้งในที่ที่ทิ้งได้ ถ้าเป็นรถใหญ่ราคาแพงก็แค่จอดเทียบจุดทิ้งที่เรียกว่า dump station แล้วลากลำไส้ใหญ่ออกมาจากใต้ท้องรถหรือสีข้างรถเอาปลายท่อไปปล่อยลงรูที่จุดทิ้งแล้วเปิดก๊อกให้ของเสียไหลลงไปเอง แล้วเก็บไส้ ถอดถุงมือ ล้างมือ เป็นอันเสร็จพิธี

เมืองนอกมีกฎหมายควบคุมการทิ้งของเสียจากรถบ้านอย่างละเอียด น้ำจากการอาบน้ำล้างจาน (gray water) ต้องทิ้งรูนี้ ของเสียที่ออกมาทางโถสุขภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นฉี่หรืออึหรือน้ำราด (black water) ต้องทิ้งรูนี้ บรรดารูที่ว่านี้จะถูกเยี่ยมสำรวจคุณภาพโดยเทศบาลเป็นระยะ จึงสะอาดเอี่ยมอ่องไม่ส่งกลิ่น แต่ถึงจะอำนวยความสะดวกสบายกันถึงเพียงนี้คนไทยที่ไปขับรถบ้านเที่ยวเมืองนอกส่วนหนึ่งก็ยังนิยมหลีกเลี่ยงไม่เข้าห้องสุขาในรถตัวเอง เพราะขี้เกียจ “อุ้ม” อึไปทิ้งนี่เอง ใช้วิธีอาศัยไปเข้าห้องสุขาสาธารณะของเมืองที่ขับผ่านไปแทน

เมืองไทยไม่มีกฎหมายควบคุมการทิ้งของเสียจากรถบ้าน ใครใคร่ทิ้งอะไร ทิ้งที่ไหน ทิ้งอย่างไร ก็ทิ้งกันไปเพราะที่นี่ประเทศไทย อย่าว่าแต่ของเสียจิ๊บๆจากรถบ้านเลย ส้วมที่ดูดมาเป็นตันๆยังปล่อยทิ้งข้างถนนกันเฉยเลย ด้วยเหตุนี้เมืองไทยจึงไม่มีใครทำ dump station เพราะกฎหมายไม่บังคับให้ทำนั่นเรื่องหนึ่ง หรือที่อาจสำคัญกว่านั้นคือกล้วทำไปแล้วผู้ใช้จะทิ้งของลงรูผิดๆถูกๆ หรือลงตรงรูบ้าง ไม่ตรงรูบ้าง แล้วจะกลายเป็นส้วมหลุมกลางทุ่งไปเสียฉิบ..นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เจ้าของรถ RV ในเมืองไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นรถเล็กก็จึงต้องใช้วิธีอุ้มเอาของเสียไปทิ้งตามห้องสุขาของปั๊มน้ำมันแทน

ส่วนสาเหตุที่ผมทำ dump station ไว้ในสวนป่ามิยาวากิเขาใหญ่นั้นมันไม่เกี่ยวกับใครจะซื้อจะขายรถบ้าน ผมทำเผื่อเอาไว้สอนเด็กให้เข้าใจวงจรของคาร์บอน (carbon cycle) เพราะของเสียจากรถบ้านที่พ่อแม่เด็กปล่อยลงบ่อบำบัดของสวนป่ามิยาวากิเขาใหญ่นั้น เมื่อบำบัดแล้วมันจะส่งน้ำใสที่ได้จากการบำบัดผ่านท่อที่ฝังใต้ดินไปเข้า “ท่อพรุน” ที่หุ้มด้วยแผ่นกันดิน(geotextile)เพื่อกระจายน้ำปุ๋ยออกไปหล่อเลี้ยงรากของเหล่าไม้ป่าเพื่อให้ต้นไม้ใช้เป็นอาหาร จนเติบโตผลิตอาหารให้มนุษย์กินอีกแล้วอึให้มันอีกเป็นวงจรไม่รู้จบ ความรู้อย่างนี้จะทำให้เด็กรักต้นไม้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ผมทำสวนป่ามิยาวากิเขาใหญ่ขึ้นมา ดังนั้นการที่บรรดาผู้มีรถบ้านจะพากันขนเอาอึมาปล่อยให้นั้นผมไม่มีปัญหาอะไร เพราะผมมีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรจะเสีย หมายความว่าเมื่อพวกต้นไม้ในป่าเขาเติบโต ผมก็มีความสุข

ถามว่าหากคิดจะซื้อรถบ้านจะต้องดูเรื่องส้วมอย่างไร ตอบว่าประเด็นสำคัญของเรื่องส้วมในเมืองไทยก็คือ

(1) เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ปฏิกริยาการย่อยสลายในถังสุขภัณฑ์เกิดขึ้นในปริมาณมากและเร็ว บวกกับชนิดของอาหารที่กินทำให้เกิดแก้สแบบพิศดารมากกว่า และมีแนวโน้มจะ “หึ่ง” มากกว่าที่เมืองนอก

(2) คนไทยตัวเล็กก็จริง แต่ขับถ่ายเป็นปริมาณมาก สมัยราวห้าสิบปีก่อนผมเรียนเกษตรแม่โจ้ครูสอนวิชาประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อของสัตว์ได้เปรียบเทียบคนไทยกับฝรั่งว่า

“คนไทยตัวเล็กขี้ก้อนใหญ่ ฝรั่งตัวใหญ่ขี้ก้อนเล็ก”

หิ หิ เท็จจริงแค่ไหนไม่มีงานวิจัยรองรับ แต่เป็นความจริงที่ว่าคนไทยกินอาหารมีกากมากกว่าฝรั่ง ขึ้นชื่อว่ากากก็ย่อมเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ขึ้นในลำไส้กลายเป็นของเสียที่จะเหลือปล่อยออกมามากกว่าอาหารที่ไม่ใช่กาก

(3) เมืองไทยไม่มี dump station ที่จะเทียบรถเข้าไปปลดของเสียได้ง่ายๆ ต้องอุ้มสุขาเคลื่อนที่โทงๆไปตามห้องสุขาของปั๊มน้ำมัน ซึ่งมันไม่เท่สำหรับคนแต่งตัวหล่อๆสวยๆเตรียมไปถ่ายรูปตามโลเกชั่นต่างๆ แม้ว่าเขาจะมีด้ามชักออกมาแล้วลากเป็นล้อไปได้เหมือนลากกระเป๋าขึ้นเครื่องบินซึ่งช่วยทำให้ดูเท่ขึ้น แต่ความเท่นี้จะคงอยู่แค่ตราบเท่าที่ยังไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่คุณลากไปนั้นคืออะไรเท่านั้นนะ

(4) ห้องสุขาบนรถของฝรั่งที่ผมเคยใช้ไม่มีสายชำระ ฝรั่งเขาไม่ใช้กันเพราะมัน “เย็นวาร” ฮิ ฮิ แต่คนไทยต้องมีสายชำระ ขาดไม่ได้เพราะมันเป็นวัฒนธรรมสุขาไทยไปแล้ว

เมื่อมองทั้งสี่ประเด็น หากคุณคิดจะซื้อส้วมไว้ในรถบ้านก็คงต้องเลือกที่

(1) มีถังเกรอะที่ทำหน้าที่เป็นถังบำบัดไปด้วยในตัวเลยเพื่อให้เกิดการบำบัดขณะที่รถวิ่งไป พูดง่ายๆว่าต้องออกแบบติดตั้งถังส้วมในรถให้คล้ายถังส้วมในบ้านทั้งในแง่ขนาดและการทำงาน เมื่อต้องเอาไปปลดทิ้งมันจะได้เป็นของเสียที่ได้รับการบำบัดระดับหนึ่งแล้วไม่ส่งกลิ่นคละคลุ้ง

(2) ถังบำบัดของคนไทยต้องมีขนาดใหญ่ ไม่ใช่จุแค่ 6 ลิตรให้พออุ้มได้ตามแบบรถของฝรั่ง เดี๋ยวเต็ม เดี๋ยวเต็ม ผมว่าอย่างน้อยถังเกรอะของครอบครัวคนตัวเล็กแต่อึก้อนใหญ่อย่างคนไทยนี้ต้องจุราว 100 ลิตรโน่นเชียว ให้มันมีรอบการบำบัดนานเป็นสัปดาห์จนแทบจะกลายเป็นน้ำใสก่อนปล่อยทิ้งจะได้ไม่ส่งกลิ่นโฉ่เวลาปล่อย

(3) ต้องมีสายชำระในรถ

(4) ระบบอุ้มสุขาเคลื่อนที่ไปทิ้งผมชัวร์ป๊าดว่าไม่เวอร์คกับคนไทย ควรจะมีรูเชื่อมท่อน้ำดำ (black water) ท่อน้ำเทา (gray water) ไว้ที่สีข้างหรือใต้ท้องรถ มีสายเชื่อมเพื่อเอาอีกปลายหนึ่งไปปล่อยลงจุดรับที่ dump station ที่เอารถเข้าไปเทียบได้เลยโดยไม่ต้องอุ้มสุขาไปไหน ระยะแรกๆนี้ dump station ในเมืองไทยยังไม่มี หรือถ้ามีก็หายากมาก ก็เอากลับมาปล่อยลงถังแซทที่บ้านตัวเองนั่นแหละ เมื่อหมอสันต์เปิดสวนป่ามิยาวากิแล้วหากคุณเดินทางผ่านไปทางเขาใหญ่ก็แวะปล่อยที่ dump station ของสวนป่ามิยาวากิก็ได้ หมอสันต์ให้ปล่อยฟรี หิ หิ

ที่ผมตอบคุณทั้งหมดนี้ผมตอบแต่ประเด็น “ส้วม” อย่างเดียวนะ ไม่ได้แปลว่าผมสนับสนุนให้คุณซื้อรถบ้าน เพราะผมเห็นว่ามันเป็นของเล่นของเศรษฐีเนื่องจากราคามันไม่ใช่ถูกๆ ตัวหมอสันต์นั้นไม่ซื้อของแบบนี้แน่นอน ไม่..แม้แต่จะคิด ผมรู้ว่าของเล่นแพงๆอย่างนี้ ม. ไม่อนุมัติเด็ดขาด กรณีของคุณหากคุณซื้อไปแล้วเกิดทะเลาะเกี่ยงกันเรื่องอุ้มอึไปทิ้ง หรือทะเลาะกันเพราะความจนเข้ามาทางประตูเพราะเอาเงินไปซื้อรถติดส้วมหมดเสียหมด นั่นเป็นเรื่องของคุณนะ คุณจะมาโทษหมอสันต์ไม่ได้

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์