หลายวันมาแล้ว มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งมาหาด้วยเรื่องอื่น ผมนั่งคุยกับเธอยี่สิบนาที เธอเป็น serious lady ผมขอตั้งนิคเนมให้เธอว่าคุณหญิงจริงจังก็แล้วกันนะ ผมขอเล่าถึงตอนหนึ่งของการสนทนา คุณหญิงจริงจัง “คุณหมอคิดว่าอนาคตของมนุษย์ จะเป็นอย่างไร” หมอสันต์
อ่านต่อหมอสมวงศ์เป็นเจ้ากี้เจ้าการวางแผนให้ผมหยุดงานสี่วันเพื่อไปดูดอกหงอนนาคที่ภูสอยดาว โปรดสังเกตมีด 63 บาท เธอระดมสมัครพรรคพวกเหล่าผู้สูงวัยที่เป็นคนกันเองทั้งนั้นได้ 2 รถตู้ 17 คน แล้วจ้างทัวร์ให้จัดการทุกอย่างให้ ทั้งเอารถมารับ จัดหาลูกหาบ เตรียมวัตถุดิบอาหาร เตรียมเต้นท์ สนนราคาหัวละ 4,000 บาท สี่วันสามคืน ที่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าชาวบ้านก็เพราะนี่เป็นชราทัวร์ ต้องเจียมบอดี้
อ่านต่อบนคือฟัก ล่างคือพริก ที่เป็นโรคหงิก วันนี้หมดแรงจากการทำงานเตรียมการสอนทางเว็บบินาร์กับหมออเมริกัน ขอไม่ตอบคำถามหนึ่งวัน คุยเรื่องไร้สาระแทนดีกว่า เพราะตอนนี้ผมกำลังเริ่มโปรเจ็คใหม่อีกแล้ว แถ่น แทน แท้น.. โปรเจ็คสวนดอกไม้หน้ากระท่อม แต่ก่อนจะเริ่มเรื่องโปรเจ็คใหม่
อ่านต่อหลายวันก่อนผมเดินในช็อปปิ้งมอลล์ในกรุงเทพ มีหญิงชราท่านหนึ่งเข้ามาหามาทักว่า “นี่คือคุณหมอสันต์ใช่ไหม” เมื่อผมพยักหน้าเธอก็แนะนำตัวเธอว่าเป็นใครทำให้ผมถึงบางอ้อทันที เธอเป็นเจ้าของคลินิกที่เมืองสระบุรีซึ่งในอดีตผมเคยไปเป็นลูกจ้างของเธออยู่พักหนึ่ง เธอพร่ำถึงอดีตแล้วพูดว่าเธอจำได้แม่นที่ผมเอาเครื่องมือช่างไม้มาตัดแหวนให้คนไข้กลางดึก วันนี้ผมจะขอเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เรื่องมีอยู่ว่าย้อนหลังไปประมาณพ.ศ. 2528 ผมไปเป็นหมอผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลสระบุรี เพิ่งจบบอร์ดเฉพาะทางมาใหม่ๆ
อ่านต่อหลุมอาหาร 50 ตรม.มีต้นมะรุมโตเด่นแต่ยังกินใบมันไม่เป็น ท่านผู้อ่านคงจำได้ว่าผมได้เริ่มทำโครงการป่าอาหาร หรือ Food Forest เมื่อปลายเดือนมีค.ที่ผ่านมา วันนี้พอมีเวลาผมจะพาท่านชมว่าเดือนครึ่งที่ผ่านมาหลุมป่าอาหารขนาด 50 ตรม.ของผมเริ่มผลิตอาหารอะไรได้แล้วบ้าง ที่ได้กินแล้วแน่ๆก็คือผักสวนครัวต่างๆเช่นสะหระแหน่ แมงลัก โหระพา กระเพรา ยี่หร่า ผักแพว ผักเหล่านี้อย่าไปคิดว่ามันใช้ได้เฉพาะเวลาทำต้มทำแกงอาหารไทยเท่านั้นนะครับ ผมลองเอาใส่ปนในผักสลัดกินสดๆแบบอาหารฝรั่งแล้วพบว่ามันทำให้รสชาติของสลัดโดดเด่นมีสไตล์ขึ้นมาทันทีอย่างเหลือเชื่อ
อ่านต่อเช้าวันนี้..ขอบคุณโควิด19 ที่ทำให้ผมมีเวลานั่งละเลียดกับอาหารเช้าที่ระเบียงบ้านบนเขาโดยไม่ต้องรีบร้อนลกๆไปทำนั่นทำนี่เหมือนสมัยที่ต้องเปิดแค้มป์สอนทุกสัปดาห์ แต่ละเลียดอยู่ได้ไม่นานบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเครียดไปทันทีเมื่อคนสวนขึ้นมารายงานเหตุการณ์พิเศษ “น้ำใต้ดินคงจะหมดเสียแล้วครับ บางครั้งสูบออกมามีลมมากกว่าน้ำ และขุ่นด้วย” โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย ถ้าโลกนี้ดำเนินมาถึงขั้นน้ำใต้ดินแห้งขอด ชีวิตที่เหลือต่อไปจะเป็นฉันใด นี่หมายความว่าอารยธรรมหุบเขามวกเหล็กวาลเลย์จะถึงกาลล่มสลายเพราะขาดน้ำเสียแล้วหรืออย่างไร ยังไม่ทันจะคิดอ่านอะไรต่อก็มีโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านเข้ามา
อ่านต่อผมเป็นคนชอบกินมะพร้าวอ่อน เพราะตอนเด็กแม่ตั้งร้านข้างถนนขายมะพร้าวอ่อน ผมจึงมีทักษะในการปอกมะพร้าวอ่อนให้ลูกค้า และเมื่อลูกค้าไม่มีก็ปอกกินเสียเอง ที่มวกเหล็กไม่เหมือนที่พะเยา เพราะที่มวกเหล็กเป็นเมืองภูเขาหินเขาดินลูกรัง มะพร้าวไม่ชอบขึ้น สมัยก่อนจึงไม่มีมะพร้าวอ่อนขาย ต่อมาเมืองมวกเหล็กโตขึ้นเพราะมีคนเข้ามาทำงานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่บ้าง โรงเรียนนายทหารอากาศบ้าง จึงมีการจัดตลาดนัดบ่อยๆ ลุงดอนคนเฝ้าบ้านของผมบอกว่าสัปดาห์หนึ่งมีเจ็ดวันแต่มวกเหล็กมีตลาดนัดแปดครั้ง มีนัก “เปิดท้ายขายของ” จากต่างเมืองแวะเข้ามาขายของมากมาย เพื่อนซึ่งเป็นวิศวกรคนหนึ่งชอบไปเดินดูของที่เขาวางขายที่ตลาดนัดมวกเหล็ก เขาพูดชักชวนให้ผมไปดูว่า
อ่านต่อ