Latest

ถ้าความตายจะมาถึง มันจะมาถึงที่ปลายสุดของลมหายใจนี้ด้วยตัวของมันเอง

(ภาพวันนี้ / Morning walk วันฟ้าครื้ม)

เรียนคุณหมอ

เพิ่งได้รับทราบการวินิจฉัยโรคที่แท้จริงของตัวเองที่เป็นสาเหตุให้กลืนอะไรไม่ได้จากการที่คุณหมออธิบายผล CT ให้ฟังวันนี้เอง ว่ามะเร็งเต้านมเดิมที่ผ่าตัดฉายแสงเคมีบำบัดครบแล้วนั้นกลับมาอีกโดยแพร่ไปที่ปอด ต่อมน้ำเหลืองในทรวงอก ซึ่งขยายโตถึง 7 ซม.จนเบียดหลอดอาหารให้กลืนไม่ได้ มะเร็งส่วนหนึ่งได้แพร่ไปที่ตับด้วย ดิฉันได้คุยกับลูกๆถึงเรื่องจะให้อาหารเพื่อบรรเทาอาการโดยการใส่สายยางให้อาหารทางจมูกหรือทางหน้าท้องแล้ว ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำ แต่จากนี้ไปควรทำตัวอย่างไร ขอคำแนะนำด้วย

………………………………………………..

ตอบครับ

คำตอบวันนี้ใช้สำหรับการดูแลตัวเองที่บ้านสำหรับผู้ป่วยทุกคนที่เป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายที่จบการรักษาผ่าตัดเคมีบำบัดฉายแสงแล้ว และตัดสินใจไม่ให้การรักษาแบบประคับประคองใดๆเช่นการให้อาหารทางสายยาง เป็นต้น โดยเน้นกรณีกลืนอาหารไม่ได้

1.. ในเรื่องอาหาร เน้นอาหารที่เหลวระดับใกล้เคียงกับน้ำ เช่นน้ำผลไม้ น้ำหวาน น้ำผักปั่นหรือน้ำถั่วปั่นเจือน้ำมากๆ เป็นต้น อยากกินอะไรที่รสชาติถูกปาก เช่นก๋วยเตี๋ยว ก็ซื้อมาปรุงให้เต็มยศแล้วเอาเอาใส่โถปั่นความเร็วสูงปั่นให้ละเอียดแล้วเจือน้ำจนหายข้นหนืดแล้วจิบทีละนิดๆทั้งวัน ไม่กินทีละมากๆแบบกินอาหารเป็นมื้อ

ถ้าใจไม่อยากกิน ก็ไม่ต้องกิน การกินอาหารไม่ได้ หรือภาวะอดอาหาร มันก็มีข้อดีของมัน คือมันทำให้ร่างกายเกิดสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้จิตใจสงบ ทำให้คุณภาพชีวิตในระยะนี้ดี

2.. ชีวิตมีอยู่สองส่วนคือ (1) สถานการณ์ในชีวิต (life situation) คือเรื่องราวต่างๆที่เราเล่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต มีอดีต มีอนาคต กับ (2) การใช้ชีวิต (living) คือการที่เรายังรู้ตัวอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ ยังหายใจได้อยู่เมื่อเดี๋ยวนี้

ให้คุณโฟกัสที่การใช้ชีวิต อย่าไปยุ่งกับสถานะการณ์ในชีวิต การใช้ชีวิตเขาใช้กันทีละลมหายใจ มันจึงเป็นเรื่องง่าย มีประเด็นเดียว คือเราจะใช้ชีวิตในลมหายใจนี้อย่างไรให้ชีวิตมันสงบเย็นและสร้างสรรค์ ทีละลมหายใจ ทีละลมหายใจ

ความสงบเย็นเกิดจากการที่ใจเรายอมรับ ยอมรับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในแต่ละขณะ ยอมรับความหิว ยอมรับความปวด ไม่เกร็งกล้ามเนื้อร่างกายต่อต้าน ในทางตรงกันข้ามให้ผ่อนคลายร่างกาย โอนอ่อนผ่อนตามทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความปวด ความหิว ยิ้มรับมัน มองให้เห็นทุกอย่างเป็นความผ่อนคลาย หรือแม้กระทั่งเป็นความขบขัน

ในการยอมรับ ให้คิดถึงคำพูดสี่คำ ขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัย เมตตา

ให้อยู่กับเดี๋ยวนี้โดยไม่ไปจมอยู่ในความคิด กรณีมีความคิดผุดขึ้นมาในใจมาก ให้ใช้สิ่งที่ตัวเองถนัด เช่น เสียงดนตรี หรือเสียงเพลง หรือการร้องเพลงในใจ ช่วยป้องกันไม่ให้ใจของเราไปจมอยู่ในความคิด อีกวิธีหนึ่งคือให้ลองทำสมาธิแบบต่างๆ เช่นการตามดูลมหายใจ การผ่อนคลายร่างกาย เป็นต้น นอกจากนั้นการได้อยู่กับธรรมชาติ ต้นไม้ สีเขียว ฟังเสียงนกเสียงไก่ ก็ช่วยให้อยู่กับปัจจุบันขณะได้ดีขึ้น

3,, กรณีเกิดความปวดขึ้นก็ใช้วิธียอมรับเช่นกัน หากทนไม่ไหว ก็ให้ไปขอหมออนามัยมาช่วยให้ยาแก้ปวดนานๆครั้ง หมออนามัย ผมหมายถึงพนักงาน รพ.สต. ซึ่งมีโลกทัศน์ในการทำงานแตกต่างจากแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไป หมายความว่าพนักงานรพ.สต.จะเข้าใจเรื่องการดูแลแบบองค์รวมสำหรับผู้ป่วยที่จบการรักษาในโรงพยาบาลแล้วได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการมาเยี่ยมเยือนพูดคุยในฐานะเพื่อน การบรรเทาความทรมาน การดูแลตัดแต่งแผลกดทับ เขาทำได้หมด และพวกเขามักมากันเป็นทีม หมุนเวียนไปตามบ้านต่างๆที่มีผู้ป่วยที่ต้องการการประคับประคอง

ชีวิตจริงคือการมีชีวิตอยู่คู่กันไปกับความปวดบ้าง ความหิวบ้าง สลับกันไป เป็นไปไม่ได้ที่เราจะฉีดยาแก้ปวดจนไม่เหลืออาการปวดเลยตลอดเวลา แต่เป็นไปได้ที่เราจะยอมรับที่จะอยู่กับความปวดไปโดยไม่คิดต่อต้านขัดขืนอะไรโดยไม่มีความทรมาน เพราะ “ความทรมาน” เป็นแค่ความคิด หากเรายอมรับความปวดและวางความคิดต่อยอดลงได้ ความทรมานก็ไม่มี

4.. ให้โฟกัสอยู่ที่การใช้ชีวิตในลมหายใจนี้อย่างสงบเย็น หมายความรวมถึงการไม่คิดถึงอนาคต การไม่คิดถึงความตาย โปรดสังเกตให้ดีนี่ผมพูดไม่เหมือนคนอื่นหรือไม่เหมือนที่พระสงฆ์องค์เจ้าเขาเทศน์กันนะ คือผมพูดว่าในการใช้ชีวิตอย่าไปยุ่งกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่าไปกังวลถึงความตาย รู้แล้ว..ว ว่าคนเราทุกคนก็ต้องตายทุกคน แต่ในการใช้ชีวิตปกติไม่เห็นจะต้องมานั่งคิดกังวลถึงความตายเลย ถ้าความตายจะมาถึง มันจะมาถึงที่ปลายสุดของลมหายใจนี้ด้วยตัวของมันเอง คือมันจะรอจนจบปลายสุดของลมหายใจออก แล้วไม่มีลมหายใจเข้าใหม่เข้า คือมันจะเป็นการมาที่สงบ อย่าไปตีความคำว่า “มรณานุสติ” ผิด มรณานุสติหมายความว่าให้ใช้ชีวิตในลมหายใจนี้เสมือนว่าลมหายใจนี้จะเป็นลมหายใจสุดท้ายแล้วจะได้ไม่ต้องกังวลถึงลมหายใจหน้า ไม่ได้หมายความว่าให้คิดกังวลตลอดเวลาว่าความตายจะมาถึงแล้วจะทำยังไงกันดีละ ดังนั้นในเรื่องความตายนี้อย่าปล่อยให้ความคิดหลอกคุณโดยพยายามทำจอมปลวกให้เป็นภูเขา อย่าปล่อยให้มันกระต๊าก..ก ตื่นตูมเสียจนใจเราไม่สงบ ผมรับประกันได้ว่าคุณจะได้หายใจครบเข้าและออกทุกลมแน่นอน แค่ใช้ชีวิตไปทีละลมหายใจ มีกิจอะไรที่ตรงหน้าที่ควรทำก็ทำไป มีอะไรผ่านเข้ามาก็ยอมรับ ยิ้มให้กับทุกคนที่ผ่านเข้ามาช่วยดูแลเรา ถ้าไม่มีใครมาดูแลเราก็ยิ้มให้กับท้องฟ้า อากาศ และธรรมชาติรอบตัว ได้วันใหม่ตื่นขึ้นมาอีกหนึ่งวันก็อยู่ใช้ชีวิตไปอีกหนึ่งวัน หากไม่ตื่นก็คือไม่ตื่น

ไม่ต้องไปคิดกังวลล่วงหน้ากับอะไรทั้งสิ้น แล้วทุกอย่างมันจะลงตัวของมันเอง หากยังไงก็อดคิดกังวลถึงความตายไม่ได้ พยายามวางความคิดก็ไม่สำเร็จ ก็ให้ใช้วิธีคิดบวกไล่คิดลบ คือคิดเสียว่าความตายก็คือการหลับจากความตื่นขณะนี้ซึ่งเป็นฝันเรื่องยาวเรื่องหนึ่ง แล้วไปตื่นในอีกความฝันหนึ่ง แค่นั้นเอง แต่ถ้าฝึกเรื่องการวางความคิดมาแล้วและสามารถวางความคิดลงได้ ชีวิตในฉากนี้จะยิ่งง่าย คือก็แค่อยู่กับความรู้ตัวไปทีละขณะ รอรับชมรับฟังความตื่นเด้นมหัศจรรย์ฉากใหม่ของชีวิตที่จะเข้ามาในแต่ละลมหายใจ ด้วยใจที่ผ่อนคลายยอมรับและอยากรู้อยากเห็น

มีอะไรที่คิดว่าผมจะช่วยได้ ให้เขียนมาหาอีกได้

สันต์