Latest

น้ำคาวปลาปกติกี่วันถึงจะหมด

อยากสอบถามปัญหา เพิ่งคลอดลูกโดยวิธีผ่าคลอดทางหน้าท้องตั้งแต่วันที่ 5 สิงหา พอกลับมาบ้านน้ำคาวปลาก็เริ่มจางแต่ก็ยังมีกระปริบประปรอย แต่ทางบ้านให้ทานยาจีนขับเลือดเสีย พอทานยาจีนเข้าไปปรากฏว่า น้ำคาวปลาที่ออกมากลายเป็นสีแดงสดและมีจำนวนออกมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ บางทีก็เปรอะกางเกงที่นุ่งข้างนอก ไปหาหมอมาวันที่ 7 กันยา หมอนัดตรวจหลังคลอด 1 เดือน หมอสันนิฐานว่าจะอักเสบเลยให้ยาแก้อักเสบมากิน และหมอกลัวจะตกเลือด อยากทราบว่าน้ำคาวปลาจะหมดเมื่อไหร่ มีมา 1 เดือนก้อไม่มีแววว่าจะหมดและจะมีโอกาสตกเลือดได้ไหม ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนเลยตั้งแต่คลอดลูก รบกวนขอคำตอบด้วยนะค่ะ กังวลมากเลยค่ะ

เจี๊ยบ

ตอบครับ

1. น้ำคาวปลา หมายถึงของเหลวที่ออกมาทางช่องคลอดหลังคลอด ปกติจะแบ่งออกเป็นสามระยะ คือ
1.1 น้ำคาวปลาแดง (lochia rubra) ออกมาตั้งแต่วันแรกหลังคลอดแล้วออกอยู่นาน 3-5 วัน มีสีแดงช้ำๆคล้ำๆเพราะประกอบด้วยเลือด เมือก และเศษรก
1.2 น้ำคาวปลาเหลืองใส (lochia serosa) ออกต่อจากน้ำคาวปลาแดงไปจนถึงประมาณวันที่ 10 หลังคลอด โดยจะจางลงและสีจะเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำตาลหรือชมพูแล้วก็ค่อยๆกลายเป็นเหลืองใส ในน้ำช่วงนี้จะประกอบด้วยน้ำเหลือง เยื่อเมือก เม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาว
1.3 น้ำคาวปลาขาว (lochia alba) มีสีเหลืองขุ่นจนออกไปทางขาว ออกต่อจากน้ำคาวปลาเหลืองใสไปอีกจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด ในน้ำจะมีเม็ดเลือดแดงน้อยลง แต่มีเม็ดเลือดขาว ไขมัน เมือก และเซลบุผนังช่องคลอดมากขึ้น ปริมาณน้ำคาวปลาจะค่อยๆลดลงจนแห้งสนิท
น้ำคาวปลาจะมีกลิ่นเหมือนประจำเดือนในยามปกติ หากมีกลิ่นเหม็นก็หมายความว่ามีการติดเชื้อขึ้น

2. ในกรณีของคุณ ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วน้ำคาวปลายังเป็นสีแดงสดและมีปริมาณมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ถือว่าเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติหลังคลอด ซึ่งอาจมีสาเหตุเป็นไปได้ตามลำดับมากไปหาน้อย ดังนี้
2.1 เป็นเพราะยาจีนขับเลือด เนื่องจากยาสมุนไพรในกลุ่มยาสตรีและยาขับเลือดล้วนประกอบด้วยพืชที่ให้สาร phytoestrogen ซึ่งมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งเมื่อระดับฮอร์โมนสูงจะมีผลให้มีการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกแบบเตรียมตั้งครรภ์ พอระดับฮอร์โมนต่ำลง ก็จะมีผลให้เยื่อบุนั้นหลุดลอกออกมาเป็นเลือด ทีนี้ระดับฮอร์โมนในสมุนไพรเหล่านี้ไม่สม่ำเสมอ ระดับฮอร์โมนจึงสูงๆต่ำๆ เป็นสาเหตุให้เกิดเลือดออกผิดปกติได้
2.2 เป็นเพราะมีชิ้นส่วนรกค้างอยู่ข้างใน (retained conceptual product) ซึ่งถ้าเป็นเพราะเหตุนี้ต้องไปขูดมดลูก
2.3 เป็นเพราะการติดเชื้อในเยื่อบุโพรงมดลูก (endometritis)
2.4 เป็นเพราะมดลูกเข้าอู่ไม่สนิท (subinvolution) ซึ่งรักษาได้ด้วยการใช้ยาช่วยการหดตัวของมดลูก
2.5 เป็นเพราะมีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด (coagulopathy)

ผมแนะนำว่าให้คุณหยุดยาจีนทันที แล้วรอดูเชิงไปอีกเจ็ดวัน ในระหว่างนี้ให้อมปรอทดูว่ามีไข้หรือเปล่าทุกวัน ให้ทำใจไว้เลยว่าในเจ็ดวันแรกหลังหยุดยาจีน จะมีเลือดออกมามาก และหลังจากนั้นแล้วเลือดควรจะแห้ง ถ้ายังมีเลือดออกอีก ก็ต้องกลับไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุจริงจังแล้วละ หรือถ้ามีไข้ขึ้น ก็แสดงว่ามีการติดเชื้อลุกลามจนที่ยาปฏิชีวนะที่คุณหมอให้มาเอาไม่อยู่ ก็ต้องกลับไปหาหมอเช่นกัน

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม
1. Sherman D, Lurie S, Frenkel E, Kurzweil Y, Bukovsky I, Arieli S. “Characteristics of normal lochia”. Am J Perinatol 1999; 16 (8): 399–402