ผมเป็นมะเร็งปอดระยะที่สี่อายุ 51 ปี ผ่าตัดไปแล้ว ให้เคมีบำบัดอยู่ หมอเคมีบำบัดให้ความหวังมาก ผมเป็นคนสมัยใหม่ ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ผีสางนางไม้ ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า ยิ่งพระสงฆ์ตามวัดยิ่งอย่าให้ผมพูดเลย ผมเชื่อมั่นในเรื่องการแพทย์และเทคโนโลยี หมอผ่าตัดบอกแค่ว่าตัดออกได้ไม่หมด แต่หมออายุรกรรมที่ดูแลผมอยู่ด้วยบอกว่าผมจะอยู่ได้อย่างมากไม่เกิน 9 เดือน ทั้งสามคนนี้ ผมเชื่อคนสุดท้าย ปัญหาของผมก็คือนับจากวันเริ่มพบว่าตัวเองเป็นมาถึงวันนี้มันเพิ่งสองเดือนเท่านั้นเอง มันยาวนานและทรมานเหลือเกิน ผมยังไม่อยากตาย
อ่านต่อถึงคุณหมอครับ ได้อ่านบทความและดู YouTube ของคุณหมออยู่ เลยได้ทราบว่าคุณหมอทำสวนปลูกผัก แต่ขาดทุน ผมเองตั่งใจว่าจะทำเหมือนกัน เลยอยากทราบว่า ขาดทุนเพราะอะไรครับ และมีคำเสนอแนะอย่างไรบ้างครับ ……………………………………. ตอบครับ ขาดทุุนเพราะ 1. ต้นทุนสูง โดยเฉพาะต้นทุนแรงงาน 2. หุ้นส่วน (เทวดา)
อ่านต่อเรียนคุณหมอสันต์ที่นับถือ คุณพ่ออายุ 81 ปี ยังแข็งแรงเดินไปมาได้ แต่ว่าท่านเป็นโรคไตเรื้อรัง ค่าไต GFR 13 หมอไตแนะนำให้ล้างไตนานแล้วแต่ท่านไม่ยอม หมอไตบอกพวกเราลูกๆว่าการไม่ล้างไตจะทำให้ชีวิตของพ่อสั้นลง พวกเราก็อยากให้ท่านล้างไต นอกจากนี้หมออายุรกรรมที่ดูแลอยู่ที่รพ…. ห้ามไม่ให้พ่อกินถั่ว แต่ว่าพ่อชอบกินถั่วมาก หมออธิบายว่าโปรตีนจากพืชเป็นโปรตีนคุณภาพต่ำ แนะนำให้กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพสูงแทน ผมชอบอ่านบล็อกหมอสันต์ให้พ่อฟังซึ่งพ่อชอบมาก อยากถามคุณหมอสันต์ว่าควรจะพูดอย่างไรให้พ่อยอมล้างไต และกรณีที่พ่อรบจะกินถั่ว
อ่านต่อผมอยู่ที่บ้านมวกเหล็ก ปกติจะไม่ตอบจดหมายจากบ้านมวกเหล็ก แต่วันนี้มันร้อนออกไปทำอะไรไม่ได้จึงมีเวลาเขียนบล็อก ความจริงจะว่าไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ใช่เสียทีเดียว วันนี้ผมทำไร่สตรอว์เบอรี่ สตรอว์เบรี่ของผมงามดีโดยที่ผมไม่เหนื่อยมาก เพราะมันมีอยู่ต้นเดียว ปลูกไว้แทรกระหว่างตะไคร้กับพริก บนสวนลอยบาบิโลนแบบที่ผมเคยเล่าให้ฟังนานมาแล้ว วันนี้นอกจากจะดูแลเก็บหอยที่คอยมาจ้องกินสตรอว์เบอรี่แล้ว ผมยังทำการบรรจุแต่งตั้งพนักงานใหม่ คือหม้อและแจกันที่ปลดเกษียณมาจากบ้านกรุงเทพ มารับตำแหน่งใหม่เป็นกระถางพืชผักสวนครัวบนสวนลอยนี้ ผมใส่ดินไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ปลูกอะไร ถ่ายรูปมาให้ดูด้วย ความจริงควรจะต้องมีกะทะเทฟล่อนเก่าอีกสองใบ แต่ถูกคนสวนแฮ็บไปเสียก่อนเพราะเขาบอกว่ามันยังดีอยู่เขาจะเอาไปใช้
อ่านต่อเรียนคุณหมอสันต์ฉันเพิ่งเกษียณเมื่อเดือน ตค.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีความพร้อมทางการเงินเลย สามีก็ป่วยเป็นอัมพาต มีเงินบำเหน็จอยู่แค่ล้านสอง ลูกชายก็รบแต่จะขอยืมเงินแม่ไปเซ้งห้องแถวลงทุนทำการค้า ลูกสาวก็จ้อง ฉันก็อยากจะให้ๆไปให้หมดๆเสีย แต่อีกใจก็กลัวตัวเองแก่แล้วจะไม่มีอะไรกิน บางวันลุกจากเตียงไม่ขึ้นเพราะใจมันห่อเหี่ยวคิดแต่เรื่องเงินจะไม่พอใช้ เกษียณแล้วเงินเดือนก็ไม่มี เคยคิดอยากตายเสียให้พ้นๆไปแต่ก็รู้ว่าไม่ใช่วิธีที่ดี เรื่องจะให้ไปหาความสุขหางานอดิเรกนั้นฉันไม่เคยฝัน เพราะเงินทุกบาทฉันต้องเก็บไว้ใช้ วันๆไม่อยากไปไหน อยู่บ้านลูกหลานก็ขวางตา ออกไปงานก็ได้ยินแต่คนพูดผิดหู วันหนึ่งเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันเขาส่งบทความของคุณหมอมาให้ ฉันเลยได้อ่านบทอื่นๆไปด้วย แล้วเกิดความคิดว่าเขียนมาหาคุณหมอให้ช่วยชี้ทางสว่างให้คงดี
อ่านต่อที่คนเขาพูดกันว่าผู้ชายซื้อของเมื่อจำเป็นต้องใช้แม้จะแพงจะถูกก็ไม่สนต่างจากผู้หญิงที่ซื้อของเมื่อราคาถูกทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะซื้อเอามาทำอะไรนั้นคงจะไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนผมไปส่งภรรยาซื้อผักหญ้าที่ตลาดนัดวันเสาร์ริมหอนาฬิกามวกเหล็ก ขณะรอผมถือโอกาสเดินสำรวจตลาดนัดของเก่าที่คนละแวกเมืองใกล้เคียงต่างขับรถเอามาขายกันที่นี่ทุกเช้าวันเสาร์ ไปเตะตากับป้ายร้านอาหารเป็นไม้เก่าที่คงจะหล่นจมขี้โคลนอยู่นานแล้ว สนนราคา 200 บาท ผมเคาะๆขูดๆดูเห็นว่าแม้จะผุไปบ้างแล้วแต่ก็เป็นป้ายไม้สัก จึงซื้อมาทั้งๆที่ไม่มีแผนว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไร วันสุดสัปดาห์นี้ผมเอาป้ายผุอันนั้นออกมาล้างน้ำขัดขี้โคลน แล้วตากแดด แล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมาว่าน่าจะทำเป็นป้ายหน้าบ้านบนเขาเพื่อบอกชื่อบ้านและเลขที่บ้านแบบที่บ้านของผู้เจริญแล้วทั้งหลายเขามีกัน คิดได้ดังนั้นแล้วจึงไปสำรวจในเล้าไก่เก็บของว่ามีสีอะไรเหลือพอที่ทำสีรองพื้นป้ายได้บ้าง ก็พบว่ามีสีน้ำมันสีขาวเหลืออยู่ค่อนกระป๋อง จึงตกลงทำป้ายพื้นขาว แต่คนระดับหกสิบกว่าทำป้ายมันก็ควรจะเป็นป้ายที่สะท้อนถึงรสนิยมและประสบการณ์ชีวิตสักหน่อย กรรมวิธีทำสีรองพื้นจึงต้องมีลูกเล่นบ้าง ผมเอาเทียนไขมาถูๆไปบนตัวไม้ที่เป็นพื้นป้ายตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย
อ่านต่อกลับมาเมืองไทยแล้วครับ ขอเริ่มด้วยการตอบจดหมายฉบับเบาๆก่อนนะ เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ ขอรายงานว่านับตั้งแต่คุณพ่อกลับมาจากพบคุณหมอท่านสบายดี แต่มีปัญหาว่าท่านต้องคว้ากุญแจขับรถออกจากบ้านทุกวัน ทั้งๆที่ท่านเลิกขับไปนานแล้วเพราะตาไม่ดีและสมองช้า พวกลูกห้ามไม่ให้ขับก็ไม่ฟัง อ้างว่าหมอสันต์บอกให้ขับรถ คุณหมอคะ คุณพ่อ 68 แล้วนะ ความจำของท่านก็มาๆขาดๆ ดุลพินิจและการตัดสินใจของท่านก็ไม่ค่อยดี ลูกๆอยากให้ท่านเลิกขับรถ คุณหมอช่วยพูดกับท่านได้ไหมคะ กราบขอบพระคุณ ………………………………………………… ตอบครับ เป็นความจริงที่ว่าหมอสันต์เชียร์ให้ผู้สูงอายุทุกคนที่เคยขับรถ
อ่านต่อ