Latest

ถ้ามันเป็นมากถึงขั้นจะทำให้ตาย ก็ยอมตาย

เรียนคุณหมอสันต์
ผมอายุ 73 ปี เมื่อสามสิบปีก่อนเคยทำบอลลูนขยายลิ้นหัวใจตีบที่ … เมื่อ มค 2559 มีอาการเจ็บแน่นน่าอกเมือย้ายของในบ้าน ไปตรวจรพ. … ทำecho, xray กินยา ต่อมาตอนตี 1-2 หายใจไม่ออกเป็นอยู่ 3-4 ครั้งต้องนอนรพฉีด MO และฉีดยาที่พุง ทำEST, ECHO, ตรวจสวนหัวใจ CAG มีเส้นเลือดตีบ2เส้นแต่ทำ ballon ไป 1 เส้น ที่ … แล้วค่อยทำใหม่อีก1เส้น หลังทำนอนที่บ้านไม่มีกิจกรรมใดๆๆ นอนหลับไม่สนิทต้องกินยา xanax (เคยกินมา10ปีไม่กินนอนไม่หลับ)
ครั้งที่2 กพ.แพทย์นัดได้สวนหัวใจทำballonครั้งที่2 ทำแล้วมีอาการเจ็บแน่นน่าอกแปลบๆ ขณะนั่งทานข้าวกับภรรยา ล้มหมดสติที่รพ.นั่นเองจนหัวแตก
ครั้งที่3 พค.เจ็บแน่นน่าอกขณะทำงานอยู่บ้านไปรพ. … สวนหัวใจซ้ำอีกไม่พบเส้นเลือดตีบแต่พบเส้นเลือดอยู่ใต้หัวใจ(myocardial briding)
ครั้งที่4 2560 มีอาการเจ็บน่าอกอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม รพ. สวนหัวใจอีก
14พย2560 เวลา21นเจ็บน่าอกไปหาหมอฉีดMo
และมีครั้งหนึ่งเคยเวียนหัวเป็นลมถ่ายออกมามีสีดำ
ผมออกกำลังกายบ้าง ปั่นจักรยาน 8กก ระหว่างทำสบายดี พอนั่งดูทีวีรู้สึกแน่น อมยาใต้ลิ้นทุกครั้งจะดี มีลมเรอกินยาหอมด้วย กินCQ10
สรุป ทำ ballon 2 เส้นฉีดสี4ครั้ง
ตค2560 กินยาลดความดัน เวียนหัว calcium ตํ่าต้องฉีดcalcium(1000)ทานแล้วปวดหลังมากลดยาลงเป็น300ยังปวดจึงหยุดยา
ผมได้ส่งผลตรวจทั้งหมดมาพร้อมนี้
 กิน Plavix, Concor, Pariet, Dysflatyl, Zocor, Merislon. isotrate(10)1, isordril sub, Dysflatyl, Xanax,

ผมขอปรึกษาปัญหาของผมสามอย่างตอนนี้คือ หิวบ่อย เจ็บแน่นหน้าอกบ่อย และตื่นมาหอบตอนกลางคืน

……………………………………………………………

ตอบครับ

     แม่เฮย สวนหัวใจไปแล้วสี่รอบ บอลลูนไปแล้วสองรอบ ประสบการณ์แยะไม่เบานะเนี่ย หิ หิ หมอสันต์ตอนนี้จะเปลี่ยนนิสัยเลิกพล่ามเพื่อประหยัดเวลาในชีวิต มาตอบคำถามของคุณดีกว่า ก่อนที่จะตอบคำถามของคุณ ผมดูผลตรวจต่างๆแล้วขอเรียงลำดับปัญหาก่อนนะ เดี๋ยวผมเองก็จะลืมว่าคุณเป็นโรคอะไรบ้าง

1. โรคหัวใจขาดเลือด (IHD) สวนหัวใจสี่หน ทำบอลลูนแล้วไปแล้วสองหน
2. โรคหลอดเลือดมุดกล้ามเนื้อ (bridging) ที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกบ่อยๆและรุนแรง
3. เคยเลือดออกในทางเดินอาหาร (จากยาต้านเกล็ดเลือด)
4. อาการหิวบ่อยและกินมาก จากยาแก้แพ้ (Merislon) และยาลดการหลั่งกรด (Pariat)
5. โรคกรดไหลย้อน
6. โรคไตเรื้อรัง (ถ้าไม่จากสวนหัวใจบ่อยก็จากยาต้านการหลั่งกรดละมัง)
7. หมดสติกะทันหัน (syncope) จากอะไรไม่รู้ เดาเอาว่าเกิดจากหลอดเลือดมุดกล้ามเนื้อถูกหนีบอยู่นาน
8. ตื่นมานั่งหอบกลางดึก จากอะไรไม่รู้ เดาเอาว่าถ้าไม่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายมากจนหัวใจล้มเหลวก็คงเกิดจากหลอดเลือดมุดกล้ามเนื้อถูกหนีบไว้นาน

     เบ็ดเสร็จโหลงโจ้งแปดโรค ในจำนวนนี้อย่างน้อยสองสามโรค (เลือดออกในท้อง หิวบ่อย บวกลบโรคไตเรื้อรัง) เกิดจากยารักษาโรคเก่าทำให้เกิดโรคใหม่ หิ หิ ชีวิตมันก็เป็นงี้แหละครับ

เอาละคราวนี้มาตอบคำถาม

     1. ถามว่าหิวบ่อยมากไม่ได้กินก็จะตายเอา กินก็อ้วนเอาๆจะทำไงดี ตอบว่าให้เลิกยาที่ทำให้หิวเสีย ซึ่งมีอยู่สองตัวคือ

     2.1 ยา Merislon ซึ่งเข้าใจว่าหมอให้มาแก้เวียนหัวนั้นเลิกได้ทันที

     2.2 ส่วนยา Pariat ซึ่งหมอให้มาป้องกันไม่ให้ Plavix ทำให้เลือดออกในกระเพาะนั้น ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ถ้าไม่เลิกก็จะต้องหิวอยู่อย่างนี้บวกเรื่องที่แย่กว่าคือยานี้จะทำให้โรคไตเรื้อรังของคุณทรุดลงไนอีกต่างหาก แต่ถ้าจะเลิกยานี้ก็ต้องเลิกยา Plavix ไปด้วยไม่งั้นเลือดจะมีโอกาสออกในกระเพาะมากขึ้นเพราะเลือดมันเคยออกครั้งใหญ่มาครั้งหนึ่งแล้ว โอ้โฮ เรื่องเลิกยาต้านเกล็ดเลือดนี่อย่าเปรยให้หมอที่ทำบอลลูนให้คุณได้ยินเชียวนะ เขานอกจากจะไม่ฟังแล้วยังจะเอาน้ำล้างหูอีกต่างหากเพราะมันเป็นข้อเสนอที่เสนียดมากสำหรับเขา เอาเป็นว่าจะเลิกดีไม่เลิกดี เลือกข้างไหนก็มีแต่เรื่องร้ายๆไม่แพ้กันทั้งนั้น ตัวใครตัวมันเหอะนะ คุณตัดสินใจเอาเอง

     2. ถามว่าอาการเจ็บแน่นหน้าอกบ่อยจะทำไงดี ตอบว่าผมพิเคราะห์จากมุมมองของอาการวิทยาแล้ว อาการที่คุณเล่ามันไม่ใช่อาการของโรคหัวใจขาดเลือด (IHD) ธรรมดาๆที่เจ็บหน้าอกเวลาออกแรง และไม่ใช่อาการของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเพราะมันไม่ได้คงอยู่นาน อีกทั้งเมื่อดูภาพผลการตรวจสวนหัวใจของคุณทั้งสามครั้งหลังที่ส่งมาแล้ว หลอดเลือดของคุณดีแทบจะปกติ ที่ตีบนิดๆหน่อยๆหมอเขาก็ทำบอลลูนใส่ขดลวดไปหมดแล้ว ดังนั้นผมวินิจฉัยทางอากาศว่าอาการเจ็บหน้าอกของคุณเกิดจากการที่หลอดเลือดซึ่งมุดใต้กล้ามเนื้อ (myocardial bridging) ถูกกล้ามเนื้อบีบ โดยที่เกิดอาการบ่อย เกิดแต่ละครั้งรุนแรง ผมเดาเอาว่าที่หมดสติหัวทิ่มครั้งนั้นก็น่าจะเกิดจากเรื่องนี้ด้วย การรักษาเรื่องนี้คุณมีทางเลือกสองทาง คือ

      ทางเลือกที่ 1. อยู่กับมันไป ยอมรับมัน ถ้ามันจะเป็นมากถึงขั้นทำให้ตาย ก็ยอมตาย ตายได้จริงๆนะคุณ เพราะมีรายงานผู้ป่วยโรคนี้เสียชีวิตกะทันหันให้เห็นบ้างพอควร รวมทั้งแฟนบล็อกนี้รายหนึ่งด้วยซึ่งแฟนของเขาเขียนมาถาม ผมยังไม่ทันได้ตอบ วันรุ่งขึ้นเธอก็เขียนมาบอกว่าเขาไปเสียแล้ว

     ทางเลือกที่ 2. ทำผ่าตัดหัวใจ (myotomy หรือบายพาส CABG ไปเลย) มันเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงที่ไตของคุณซึ่งแย่อยู่แล้วจะเจ๊ง คือมีโอกาสราว 2.5% ยังไม่นับความเสี่ยงตายรวมเมื่อคนมีอายุขนาดคุณเป็นโรคมากขนาดคุณมาผ่าตัดหัวใจ ซึ่งมีความเสี่ยงอยู่ราว 5-10% แต่แม้ว่าจะมีความเสี่ยงมาก ถ้าผมเป็นคนไข้ผมจะเลือกวิธีผ่าตัดนะ เพราะการผ่าตัดจะแก้ไขอาการของ myocardial bridging ได้เด็ดขาด คุณภาพชีวิตของคุณจะดีขึ้นทันที ในแง่ความยืนยาวของชีวิต แม้สถิติข้อมูลของวงการแพทย์ไม่มีเพราะโรคนี้มีคนเป็นน้อย แต่คนที่ยมพบาลบ้องหูไปทีหนึ่งแล้วอย่างคุณนี้ หมายถึงว่าคุณหมดสติกะทันหันไปหนหนึ่งแล้ว การผ่าตัดน่าจะมีผลต่อความยืนยาวของชีวิตมากพอควร

     อ้อ เพิ่งนึกได้ ยาในกลุ่มไนเตรท (Isotrate และยาอมใต้ลิ้น Isosorbide ด้วย) ซึ่งเป็นยาขยายหลอดเลือดนั้น มันแสลงสำหรับคนเป็นโรคหลอดเลือดมุดใต้กล้ามเนื้อ เพราะมันทำให้หลอดเลือดคลายตัวแล้วถูกกล้ามเนื้อบีบอัดง่ายขึ้น ควรจะเลิกกินเสีย

     3. ถามว่าอาการตื่นมานั่งหอบกลางดึกต้องทำอย่างไร ตอบว่าผมยังวินิจฉัยไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไร มันเป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือเกิดจากหลอดเลือดถูกหนีบนั่นแหละ หรือสองคือเกิดจากหัวใจล้มเหลวเพราะกล้ามเนื้อหัวใจอาจจะตายก่อนหน้านี้นานแล้ว ที่ผมวินิจฉัยไม่ได้เพราะผมไม่มีหลักฐานอะไรเลย ดูยาที่หมอของคุณให้มาครั้งหลังสุดก็ไม่เห็นมียารักษาหัวใจล้มเหลว ผลตรวจคลื่นเสียงหัวใจ Echo ที่คุณทำเมื่อ 2560 นั้นผมยังไม่เห็นผลตรวจ ถ้ามีคุณส่งมาหน่อย และคุณเข้ารพ.ครั้งสุดท้ายหมอเขาทำ Echo หรือเปล่า ถ้าเขาทำคุณส่งผลมาให้ผมดูหน่อย ต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อนว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลวอยู่หรือไม่ จึงจะวางแผนการรักษาได้ ในขณะที่ยังวินิจฉัยไม่ได้นี้ ให้อยู่เฉยๆดูเชิงไปก่อน ยังไม่ต้องทำอะไรในเรื่องนี้

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

1. Morales AR, Romanelli R, Boucek RJ. The mural left anterior descending coronary artery, strenuous exercise and sudden death. Circulation 1980; 62:230.
2. Ishikawa Y, Akasaka Y, Suzuki K, et al. Anatomic properties of myocardial bridge predisposing to myocardial infarction. Circulation 2009; 120:376.