Latest

ประเทศชาติของเราต้องการอะไร

อาจารย์นพ.สันต์ที่เคารพ
ได้อ่านบทความของอาจารย์ที่เพื่อนแชร์มาให้เรื่องที่คุณหมออยากถือโอกาสนี้พูดกับคนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมสงสัยว่าทำไมคุณหมอไม่ทำงานการเมืองครับ เพราะคุณหมอมีศักยภาพที่จะทำอะไรได้เยอะ หรือว่าคุณหมอเห็นว่าจริงๆแล้วประเทศชาติต้องการอะไร แล้วขอแอบถามนอกรอบหน่อยว่าคุณหมอจะเลือกพรรคไหนครับ

ตอบครับ

     ช่วงนี้มีจดหมายมโนสาเร่เกี่ยวกับการเมืองมาถึงผมถี่มากแต่ผมไม่เคยตอบเลย วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศ ขอตอบฉบับนี้ฉบับเดียวแล้วให้ถือว่าตอบหมดนะ

     1. ถามว่าประเทศชาติของเราต้องการอะไร โธ่ถังคำถามนี้ใครๆก็ตอบได้นะ หมอสันต์ก็ตอบได้แบบแทบไม่ต้องคิดเลย ว่าประเทศชาติของเราต้องการคนที่ไม่โลภ (sufficient) ไม่คดโกง (corruption free) โปร่งใส (clear)  ตั้งใจจดจ่อ (focus) ที่จะอุทิศชีวิตสร้างสรรค์สังคม (dedicate) มีความซื่อสัตย์และมีสำนึกผิดชอบชั่วดีที่หนักแน่นมั่นคง (integrity) ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่เราขาด โดยเฉพาะประการสุดท้ายซึ่งผมขอเรียกตามภาษาฝรั่งว่า integrity นี้ คนที่มี integrity เป็นสิ่งที่ประเทศชาติของเราขาดแคลน คนที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนที่มี integrity ควรจะเข้ามาทำงานการเมือง นั่นเป็นหลักการทั่วไปของการสร้างสรรค์สังคมไม่ว่าสังคมไหนก็ตามในโลกนี้ ซึ่งผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์

     2. ถามว่าทำไมหมอสันต์ไม่สนใจทำงานการเมือง หิ หิ ตอบว่าผมเคยทำงานการเมืองมาแล้วนะ ทำอยู่หลายปี สมัยนั้นเป็นยุค 14 ตค. 2516 – 6 ตค. 2519 การเมืองสมัยนั้นเล่นกันถึงตาย การจะผลัดเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองแต่ละทีต้องฆ่ากันตายเป็นเบือจึงจะผลัดอำนาจกันได้ แล้วอย่าว่ายังโง้นยังงี้เลย สีเขียวนี่แหละ ผมหมายถึงสีเขียวสมัยโน้นนะ เล่นแรงมาก เพื่อนของผมตายไปหลายคนรวมทั้งที่เป็นเพื่อนสนิทกันที่สุดก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมไปคนหนึ่ง ตัวผมไม่ได้มีความแค้นฝังหุ่นอะไรกับใครหรอกนะเพราะผมเป็นคนไม่ขี้แค้น และเป็นคนกลัวตาย อย่างน้อยก็ในตอนนั้น ก็เลยสาบานกับตัวเองว่าขอเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตั้งแต่นั้นมา เมื่อสาบานกับตัวเองแล้วก็ต้องรักษาคำพูดถูกแมะ ถ้าไม่รักษาคำพูดที่พูดกับตัวเองแล้วจะหาความนับถือตัวเองได้จากไหนละ

     สมัยนี้การเมืองของเราพัฒนาดีขึ้นมาก เปลี่ยนรัฐบาลแต่ละที่มีคนตายไม่กี่คน คือจากยิงกันเราเปลี่ยนมาเป็นด่ากันแทน ซึ่งผมถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ว่าการเขวี้ยงคำด่าประจานและเปิดโปงกันและกันใส่กันทุกวันวันละสามเวลาหลังอาหารก็เป็นเรื่องที่สูญเสียเวลาและพลังงานที่จะสร้างสรรค์อะไรไปหมด คุณเปิดดูในทีวีหรือโซเชียลอะไรสักอย่างก็ได้ เวลาและพลังงานของนักการเมืองเกือบทั้งหมดเสียไปกับการด่ากัน เมื่อเราบ่มเพาะความคิดลบๆแล้วโยนมันออกมาใส่กันไม่เว้นแต่ละวัน ความเป็นอารยชนของตัวเราเองก็จะค่อยๆเสื่อมถอยลงไปโดยอัตโนมัติทุกวันๆเช่นกัน แล้วเราจะเอาเวลาที่ไหนมาบ่มเพาะ integrity ซึ่งเป็นสิ่งที่เราขาดให้กับตัวเราเองและให้กับเยาวชนของเราละครับ

    3. ถามว่าไม่ทำงานการเมืองแล้วจะใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร ตอบว่าการที่คนเราจะเป็นประโยชน์ต่อโลกต่อสังคมได้เต็มๆ เขาควรจะหลุดพ้นไปจากสำนึกว่าเป็นบุคคล (อีโก้) ของเขาก่อน เพราะถ้าเขายังติดอยู่ตรงนั้น โอกาสที่เขาจะเป็นคนที่มี integrity คือมีความซื่อสัตย์และมีสำนึกผิดชอบชั่วดีที่หนักแน่นมั่นคงอย่างแท้จริงนั้น..ยากส์ เพราะเขาจะยังห่วงความเป็นบุคคลของเขา ไม่ห่วงทรัพย์ก็ห่วงชื่อเสียง ไม่ห่วงทรัพย์ไม่ห่วงชื่อเสียง ก็ยังห่วงลูกห่วงเมีย แล้วก็จะจบลงด้วยการที่เขาเองก็จะเขวี้ยงคำด่าใส่คนอื่นเพื่อปกป้องความเป็นบุคคลของเขา ดังนั้นผมเห็นว่าวิธีดีที่สุดที่คนๆหนึ่งจะทำประโยชน์ให้สังคมหรือโลกที่ตัวเองอยู่อาศัยได้ดีที่สุดก็คือเขาต้องมุ่งมั่นพาตัวเองหลุดพ้นจากอีโก้ของตัวเองไปหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตอื่นๆให้ได้ก่อน หลังจากนั้นเรื่องอื่นๆมันก็จะทำได้โดยฉลุยเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำเรื่องใหญ่ๆอย่างทำงานการเมืองหรือเป็นการทำเรื่องเล็กๆอย่างเช่นฝึกตัวเองให้ทิ้งขยะลงถัง (ซึ่งคนในประเทศเราจำนวนหนึ่งก็ยังทำไม่ได้เลย หิ หิ)

    4. ถามว่าในฐานะผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง หมอสันต์จะเลือกพรรคไหน ตอบว่า หุ หุ คำถามนี้ตอบไม่ได้ครับ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีสองทางเลือกเท่านั้นแหละ คือจะเอาลุงตู่ หรือไม่เอาลุงตู่ คนไข้ของหมอสันต์มีราว 50% ที่จะเอาลุงตู่ อีกราว 50% จะไม่เอาลุงตู่ ถ้าขืนผมพูดอะไรออกไปผมก็จะมีปัญหาทางใจกับคนไข้ของผมเองตั้งครึ่งหนึ่งอะสิครับ เรื่องอะไรผมจะเสียลูกค้าไปโดยใช่เหตุ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์