Latest

สิ่งที่ดีที่สุดที่คนยุคนี้จะให้กับลูกได้ก็คือ..การอย่ามีลูก

หนูอายุ 28 ปี แต่งงานแล้ว 1 ปี เราสองคนยังตรองไม่ตกเรื่องการมีลูก แฟนเขาเฉยๆ มีก็ได้ไม่มีก็ได้ บางมู้ดเขาพูดว่าหาหมามาเลี้ยงสักตัวดีกว่ามั้ง แต่หนูมีความรู้สึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่เกิดมา มันเป็นการทำหน้าที่ ที่เราจะต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้กับลูก เตี่ยแม่อากงอาม่าก็อยากเห็นหลานเหลน เพราะหนูเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ได้แต่งงาน อีกอย่างหนึ่งหนูคิดว่าหนูกับแฟนมียีนที่ดี เราคงจะให้ลูกที่มาสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้โลกได้ และเขาจะช่วยทำในสิ่งที่เราเคยคิดจะทำแล้วไม่ได้ทำ คุณหมอสันต์คะ ถ้าเราคิดจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก สิ่งนั้นคืออะไร กรณีไหนบ้างที่หนูกับสามีไม่ควรมีลูก และหนูควรจะสรุปกับแฟนในเรื่องนี้อย่างไรดี
หนูเป็นแฟนประจำมาเกินห้าปีแล้ว ขอสิทธิพิิิิเศษด้วยนะคะ

…………………………………………..

ตอบครับ

     1. ถามว่าถ้าเราคิดจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก สิ่งนั้นคืออะไร ตอบว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่คนยุคนี้จะให้กับลูกได้ก็คือการอย่ามีลูกครับ

     หิ..หิ หมอสันต์เพี้ยนไปเสียแล้วหรือเปล่านี่ ทำไมถึงตอบคำถามแบบนี้ ไม่ได้เพี้ยนหรอกครับ นี่เป็นสิ่งที่ผมพร่ำสอนลูกสาวของผมเองอยู่แทบทุกวัน ว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะให้กับลูกได้ คือการอย่ามีลูก

     ความจริงทางวิทยาศาสตร์ก็คือโลกนี้มีมนุษย์มากเกินไปจนถึงจุดที่จะอยู่กันต่อไปไม่ได้แล้ว เมื่อประมาณ 110 ปีที่แล้ว การสำรวจประชากรโลกเรามี 1.5 พันล้านคน ตอนนี้เรามี 7 พันล้านคน องค์การอนามัยโลกคาดว่าในปี 2050 เราจะมี 9.6 พันล้านคน หรือเกือบหมื่นล้านคน ด้วยคนที่มากขนาดนั้นแต่ละคนต้องกินต้องอยู่ด้วยทรัพยากรจำเป็นพื้นฐาน (อากาศ น้ำ ผืนดินที่ใช้ผลิตอาหาร) เพียง 40% ของที่แต่ละคนกินใช้อยู่ทุกวันนี้ ผมไม่พูดถึงทรัพยากรไร้สาระอย่างรถยนต์ บ้าน คอนโดนะ ผมพูดถึงทรัพยากรพื้นฐานอย่างอากาศ น้ำ ดิน มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะอยู่กันอย่างสุขสงบด้วยประชากรโลกมากขนาดนั้น เอาแค่น้ำที่จะหามาดื่มก็มีปัญหาเสียแล้ว ในชนบทบางแห่งของอินเดียที่เคยเจาะบ่อตื้นลงไปไม่กี่ฟุตก็ได้น้ำมาทุกวันนี้ต้องเจาะลงไปถึง 400 ฟุตจึงจะได้น้ำ แล้วต้นไม้ชนิดไหนจะมีรากหยั่งลงไปได้ถึงขนาดนั้น ผลก็คือเมื่อน้ำใต้ดินงวดลง ต้นไม้ที่เคยอยู่ข้ามฤดูแล้งได้ก็แห้งตายหมด เมื่อต้นไม้ตาย คนก็ต้องดิ้นรนหนีตาย เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศที่เคยกั้นคนไม่ให้ข้ามเขตได้จะไม่มีความหมายอีกต่อไป คนจะท่วมไปทุกหนทุกแห่งไม่ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่ง การจะหยุดย้้งการเพิ่มประชากรมนุษย์โลกอย่างเป็นบ้าเป็นหลังนี้หากจะทำได้มันต้องอาศัยยุทธศาสตร์ร่วมกันของประชาคมนานาชาติ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าบรรดาผู้นำประเทศใหญ่เขาจะมีกึ๋นทำได้หรือเปล่า หากทำไม่ได้ภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า ผมหมายถึงในชั่วอายุของลูกคุณนี่แหละ ไม่นานเกินนี้แน่นอน ธรรมชาติจะเข้ามายุติการเพิ่มประชากรโลกด้วยวิธีของธรรมชาติเอง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นวิธีที่โหด..ด สุด สุด แบบธรรมชาติ แล้วมันเรื่องอะไรคุณจะทำลูกให้ไปผจญกับชีวิตแบบนั้นละครับ
 
     2. ถามว่าเมื่อสังคมรอบตัวและครอบครัวต่างก็พร้อมและยินดีที่เราจะมีลูก นี่ก็เป็นความพร้อมในอีกด้านหนึ่งใช่ไหม ตอบว่าไม่ใช่ครับ เพราะชีวิตนี้เป็นชีวิตของคุณกับแฟนคุณ ไม่ใช่ชีวิตของเตี่ย แม่ อากง อาม่า กว่าลูกของคุณจะออกมาคนรุ่นนั้นอาจจะไปอยู่ไหนก็ไม่รู้แล้ว แต่คุณกับแฟนคุณต้องเลี้ยงดูลูกของคุณไปอีกจนตลอดชีวิตของคุณนะ ดังนั้นเมื่อคุณจะตัดสินใจเรื่องจะมีหรือไม่มีลูก ขอให้เป็นการตัดสินใจของคุณกับแฟน ไม่ใช่ของเตี่ย แม่ อากง อาม่า

     3. ถามว่าเมื่อเราสองคนต่างมียีนที่ดีก็สมควรช่วยผลิตลูกดีๆมาช่วยสร้างสรรค์โลกไม่ใช่หรือ ตอบว่า อ้าว ถ้ามียีนที่ดีจริง ทำไมไม่ใช้ยีนที่ดีนั้ันสร้างสรรค์โลกด้วยตนเองเสียเดี๋ยวนี้เลยละ จะไปรอไหว้วานให้ลูกทำแทนทำไม

     4. ถามว่าลูกจะเป็นผู้ที่สานต่อสิ่งที่เราคิดจะทำแล้วไม่ได้ทำไม่ใช่หรือ ตอบว่าตัวเองไม่มีปัญญาทำแล้วจะไปคาดหวังให้ลูกทำให้มันเข้าท่าแมะ แล้วคุณคิดหรือว่าลูกสมัยนี้เขาจะยอมหลวมตัวตามคุณ เหมือนอย่างโจ๊กฝรั่งที่เล่าว่าคุณพ่อเคี่ยวเข็นให้ลูกบรรลุความสำเร็จสูงสุดของชีวิต โดยชอบอ้างความสำเร็จของประธานาธิบดีลินคอล์นเป็นตัวอย่าง วันหนึ่งพ่อเห็นลูกขี้เกียจอ่านหนังสือ พ่อจึงสอนลูกว่า

     “…สมัยที่ลินคอล์นอายุเท่าแก เขาต้องเดินไกลเป็นสิบไมล์เพื่อไปหาหนังสืออ่านนะ”

     ข้างลูกชายบังเกิดเกล้าคงรู้สึกเต็มกลืนแล้ว จึงตอบคุณพ่อว่า

     “สมัยที่ลินคอล์นอายุเท่าพ่อ เขาเป็นประธานาธิบดีประเทศสหรัฐนะครับ”

     ฮะ ฮะ ฮ่า ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น

     5. ถามว่ากรณีไหนบ้างที่คุณกับสามีไม่ควรจะมีลูก ตอบว่ากรณีที่

5.1 ถ้าคุณกับสามีชอบการนอนหลับที่สนิท
5.2 ถ้าคุณกับสามีชอบการมีเซ็กซ์
5.3 ถ้าคุณกับสามีชอบที่จะมีเงินพอใช้
5.4 ถ้าคุณกับสามีชอบที่จะมีชีวิตที่อิสระเสรี
5.5 ถ้าคุณกับสามีอยากมีความสุขกับการได้นั่งกินอะไรอย่างสุนทรีย์
5.6 ถ้าคุณกับสามีอยากนั่งดูหนังได้ตลอดรอดฝั่งจบม้วนในการนั่งครั้งเดียว
5.7 ถ้าคุณกับสามีไม่ชอบกลิ่นอึ ฉี่ อาเจียน
5.8 ถ้าคุณกับสามีชอบพากันไปจู๋จี๋นอกบ้าน
5.9 ถ้าคุณอยากให้อะไรๆระหว่างคุณกับสามีเป็นอย่างที่มันเคยเป็นไปนานๆโดยไม่เปลี่ยนแปลง
5.10 ถ้าคุณกับสามีชอบสุนทรียะของการอาบน้ำฝักบัว
5.11 ถ้าคุณกับสามีเป็นคนไม่มีความอดทน
5.12 ถ้าคุณกับสามีชอบบ้านสะอาดเรียบร้อย
5.13 ถ้าคุณกับสามีไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่ใช้ฝาบ้านเดียวกัน
5.14 ถ้าคุณกับสามีไม่อยากอ่านหนังสือเล่มเดียวซ้ำซาก
5.15 ถ้าคุณกับสามีเชื่อว่าการติดสินบนเป็นสิ่งไม่ดี

     ทั้งสิบห้ากรณีนี้ คือกรณีที่คุณกับสามีไม่ควรจะมีลูกครับ

     6. ถามว่าคุณกับแฟนควรจะสรุปเรื่องนี้อย่างไรดี จะมีลูก หรือจะหาลูกหมามาเลี้ยงสักตัวดี ผมตอบว่า

     “..มันเป็นเวลาที่คุณจะต้องตัดสินใจเลือกเสียสละ ระหว่างการเสียสละพรมดีๆในห้องรับแขกไปผืนหนึ่ง กับการเสียสละชีวิตดีๆของคุณและสามีไปทั้งชีวิต”

     ฮะ ฮ่า ฮ่า ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น

นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์