Latest

จากจุดนี้ไป จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

สวัสดีค่ะ คุณหมอ
หนู … นะคะ หนูมีคำถามค่ะ  คิดไปคิดมาว่าจะถามดีหรือไม่ดี เดี๋ยวหมอคิดว่าหนูไม่วางความคิด  วางไม่ได้ค่ะ แล้วก็มันคิดไม่ออกอ่ะค่ะ   คือว่าตอนนี้หนูว่า แรงหนูมันตกลง สาเหตุเดาว่าเป็นเพราะเลือดจางเพราะไปตรวจที่ … ค่าความเข้มขันเลือดตกจาก 50 % เป็น 35 %  แล้วหนูก็ไปตะลอนเที่ยวอีกหนึ่งอาทิตย์  คราวนี้ พอกลับมามันก็เพลีย  แต่มันไม่หายเพลียสักกะทีค่ะ ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ปกติ เลยจิตตก แล้วก็หัวใจก็เต้นแรงแค่ขึ้นบันไดเองค่ะ  คราวนี้ เกิดโรคจิตว่าจะทำยังไง  เพราะหนูคิดว่าต้องฉีดยากระตุ้นไขกระดูก  แต่อาจารย์ … บอกว่าให้ดูไปก่อนว่าเซลมันจะฟื้นยังไงได้บ้างค่ะ อ้อ ลืมบอกไปค่ะ สรุปว่า หนูก็ยังไม่ได้เริ่มฟอกเลือดนะคะ 

คำถาม  ถ้าหนูไม่ทำอะไร  ปล่อยไปเรื่อยๆ  มันจะมี trigger point ให้เราไปหาหมอไม๊คะ  แบบว่าช๊อค ไรงี้อ่ะค่ะ    อยากรู้ว่ามันจะสุดที่ตรงไหนค่ะ

ตอนนี้ หนูตั้งใจว่า จะไม่ไปหาหมอใดๆ เหมือนที่หมอพยายามบอกให้ทำมาตลอดค่ะ  นี่มาถึงจุดไม่อยากหาหมอละค่ะ จะดูแลเซลด้วยเม็ดองุ่นอย่างเดียวละ เพราะว่าหาหมอมะเร็งมา หนึ่งปีไม่เห็นเค้าจะทำอะไร  นี่หมอให้ไปทำ CT เดือนหน้า ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร  ถ้าใหญ่ขึ้น ก็ไม่ได้ทำอะไร แถมเครียด  ถ้าเล็กลง ก็ไม่ทำอะไร  จะดีใจก็ไม่มากเพราะตราบใดที่เค้ายังอยู่  มันก็มีมะเร็งอยู่ดีค่ะ

ตอนนี้กำลังหาวิธี  หนูเลยกลับมากินเหล็ก  แต่ก็รู้สึกว่า เรามี ferritin สูง จากครั้งที่แล้ว  ยังไงดีล่ะนี่  เพื่อนเลยบอกว่าให้ต้มน้ำซุบปลาช่อนบวกยาจีนกินค่ะ  ความคิดมันก็ลอยไปถึงตอนเราไปซื้อปลาช่อนไปปล่อยค่ะ โรคจิตอ่อนๆเลยค่ะ คิดไปคิดมาเลยคิดว่าถามหมอดีกว่าค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

………………………………………………….

ตอบครับ

     1. ถามว่าโรคของคุณ ถ้าไม่ทำอะไร อะไรจะเป็นจุดจบให้ถูกพาไปหาหมอ ตอบว่ามันจะจบได้สามแบบ ขึ้นกับว่าแบบไหนจะมาถึงก่อนกัน

     1.1 เกิดการคั่งของโปตัสเซียมสูงปรี๊ดเนื่องจากไตขับโปตัสเซียมไม่ออก แล้วมีผลให้หัวใจเต้นผิดปกติ จนหยุดเต้น ถ้าหวยออกทางนี้น่าจะไปหาหมอไม่ทัน

     1.2 เกิดภาวะโลหิตจางลงต่ำรุนแรงถึงจุดที่หัวใจล้มเหลว มีน้ำท่วมปอด เหนื่อยหอบ

     1.3 เกิดมะเร็งที่แพร่กระจายแย่งอาหารร่างกายไปหมดจนร่างกายอยู่ในภาวะขาดอาหารรุนแรง ขณะที่ความอยากอาหารก็ลดลง ร่างกายไปต่อไม่ได้ เพราะไม่มีอาหารที่จะพอหล่อเลี้ยงร่างกาย แปลว่าตาย..เด๊ดสะมอเร่

     2. เรื่องที่คุณจะเลิกไปหาแพทย์มะเร็งผมเห็นด้วย เพราะเขาจบกิจของเขาแล้ว

     3. เรื่องจะกินเหล็กหรือไม่กิน คุณจะเอาแบบไหนก็ได้ ปกติคนไข้โรคไตเรื้อรังที่มีโลหิตจางหมอก็ให้กินหรือฉีดเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาควบกับการฉีดยากระตุ้นไขกระดูก ยกเว้นกรณีได้รับการถ่ายเลือดมากก็จะงดเหล็กเพราะกลัวมีเหล็กคั่งจากที่ได้รับมาทางการถ่ายเลือด

     ผมตอบคำถามของคุณหมดแล้วนะ คราวนี้ให้ผมพูดอะไรของผมบ้าง

     1. ที่ผ่านมาสองปีหลังนี้ก็น่าจะสรุปได้แล้วไม่ใช่หรือว่าการอยู่กับ “ความคิด” ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น

     2. ทำไมไม่ลองใช้ชีวิตแนวใหม่ดูบ้าง คือเก็บความคิดลงลังเสีย เหมือนเก็บเครื่องมือที่เราไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้วลงลัง แล้วฝึกสมาธิทุกวันเช้าเย็นเพื่อให้สามารถอยู่กับเดี๋ยวนี้ได้โดยไม่มีความคิดอะไร อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เดี๋ยวนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข เกิดขึ้นแล้วค่อยรับมือกับมันไปทีละช็อต ทีละช็อต แต่ไม่คาดการณ์อะไรทั้งสิ้น

     ผมเองก็เผอิญไม่มีหูตาทิพย์ที่จะสามารถนั่งทางในจนเห็นอะไรเป็นตุเป็นตุได้ ผมจึงไม่รู้หรอกว่านอกเหนือไปจากสิ่งที่อายตนะของมนุษย์เรารับรู้ได้นี้ ยังมีชีวิตส่วนอื่นนอกจากนี้อีกหรือเปล่า ตรงนั้นผมไม่อาจรู้ได้จริงๆ จึงบอกอะไรคุณไม่ได้ ขี้ปากของคนอื่นที่ว่าชีวิตยังมีต่อไปอีก มีชาติหน้ามีสวรรค์มีนรกอย่างโน้นอย่างนี้นั้น ผมเองไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านั้นเลยจริงๆ จึงบอกได้แต่ว่าผมไม่รู้

     แต่สิ่งที่ผมรู้และผมยืนยันกับคุณได้จากประสบการณ์ในชีวิตของผมเองก็คือ เมื่อวางความคิดที่ไม่ประสงค์จะคิดลงไปให้ได้สักมากๆหน่อย สัก 99% คุณภาพชีวิตจะดีขึ้นทันที ความทุกข์ทางใจที่เคยมีจะหายไปทันที ความเบิกบานอย่างอัตโนมัติจะมีมาเอง ไม่ว่าสถานะการณ์ในชีวิตจะถูกโยนขี้หรือโยนขยะอะไรเข้ามาใส่ก็จะไม่มีผลให้ทุกข์ ชีวิตจะเป็นการปักหลักอยู่ที่เดี๋ยวนี้แล้วสนองตอบหรือรับมือกับสิ่งที่ถูกโยนเข้ามาใส่ชีวิตไปทีละช็อต ทีละช็อต มันเป็นชีวิตที่มหัศจรรย์ ตื่นเต้น เร้าใจ เพราะใครจะไปรู้ว่าช็อตต่อไปอะไรจะถูกโยนเข้ามา แต่เราก็พร้อมอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้แล้ว แม้ความตายก็มีความหมายเป็นเพียงอีกช็อตหนึ่งที่จะถูกโยนเข้ามาใส่ที่ที่นี่เดี๋ยวนี้ ซึ่งเราก็พร้อมรอแต่ละช็อตอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร

     3. ในแง่ของการเสาะหาแนวทางการรักษามะเร็ง ผมไม่อาจตอบคำถามที่คุณถามมาได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปลาช่อนตุ๋นยาจีนหรือเม็ดองุ่น เพราะผมไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านั้นเลย

     แต่หากคุณถามผมว่าเมื่อจบถ้วนกระบวนความวิธีของการแพทย์แผนปัจจุบันคือผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัดแล้วมะเร็งยังไม่หาย หากยังอยากจะเสาะหาการรักษาอยู่ควรใช้วิธีไหน ผมสนับสนุนให้ใช้วิธีเดียว (นี่ผมเดาเอานะ ไม่มีหลักฐานอะไรประกอบหรอก) ว่าให้คุณเลือกรักษาตัวเองด้วยการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง เปลี่ยนอาหารจากกินเนื้อสัตว์ไปกินอาหารแบบมังสวิรัติเข้มงวด คุณจะกินพืชสมุนไพรไทยที่คนอื่นเขานิยมกินกันแถมไปด้วยก็ได้ ออกกำลังกายให้ได้มากที่สุดเท่าที่กำลังตัวเองจะอำนวย ฝึกสมาธิทุกวันเพื่อมุ่งวางความคิดที่ไม่ประสงค์จะคิดให้ได้หมดเกลี้ยง แล้วใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติดินหญ้าแสงแดด ให้ชีวิตที่ได้เพิ่มมาในแต่ละวันเป็นไปอย่างเบิกบานและอย่างได้ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีเต็มที่ ให้คุณทำอย่างนี้ จากจุดนี้ไป จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ในระหว่างบนเส้นทางนี้ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์