Latest

ความในใจของผู้สูงวัยคนหนึ่ง

(ภาพวันนี้: โป๊ยเซียนแคระ)

(คุณโอ๋ พยาบาลของเวลเนสวีแคร์ซึ่งมีหน้าที่ติดตามช่วยแก้ปัญหาให้ผู้มาเข้าคอร์สสุขภาพ RDBY ที่จบคอร์สกลับบ้านไปแล้ว ได้ส่งจดหมายความในใจสมาชิกแค้มป์ท่านหนึ่งเขียนมาให้ ผมเห็นว่าอ่านสนุกดีและมีประโยชน์มาก จึงขออนุญาตเอามาให้แฟนบล็อกได้อ่าน)

…………………………………………………..

ชื่อ:

อายุ: 69ปี

สภานะภาพทางสังคม_เศษฐกิจ : สมควรแก่อัตภาพ

การนำสารพิษเข้าตัว : ใจร้อน , too active, ตรงต่อเวลา กินของมันๆทอดๆแต่ใม่มากนัก _ ไม่สูบบุหรี่ แอลกอฮอล์บ้างเล็กน้อย ไม่เล่นกีฬาทุกชนิด 

สถานภาพสมรส : แต่งงาน (ภรรยาอายุ 69ปี)

ส่วนสูง(ปัจจุบัน) : 173ซม น้ำหนัก 60 กก 

สุขภาพ : (ก่อนพบว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ) แข็งแรงว่าคนที่อายุเท่ากัน

สุขภาพ : (หลังจากเข้าอบรมกับคุณหมอสันต์) ก็คิดว่าแข็งแรงกว่าคนอายุเท่ากัน

เป้าหมายอนาคต : (ก่อนป่วย) อยากจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ80ปี

เป้าหมายขณะนี้ : ถ้าเป็นไปใด้ขอมีอายุถึง75ปีโดยเบียดเบียน_เป็นภาระคนรอบข้าง ให้น้อยที่สุด และเป็นคนแก่ที่ไม่เรื่องมาก 

คติประจำใจ : รักตัวเองมากกว่าทุกคนในโลกนี้ (แบบที่ประกาศเรื่องหน้ากากอ๊อกซิเจนในเครื่องบิน) 

โรคประจำตัวก่อนตรวจพบ : เส้นเลือดหัวใจตีบ, ใขมันสูง, HDLต่ำ(ใม่เคยเกิน40) , ความดันสูง 

เข้าเรื่องละ :

1).. อายุ62ปี เป็น fast stroke ตอนเช้าเป็นอัมพาตซีกขวาประมาณครึ่งนาที หายเอง ไปรพ … ตรวจ CT SCAN , MRI ใม่พบความเสียหายอย่างมีนัยยะสำคัญ 

ครั้งนั้นถ้าใด้พิจารณาอย่างถ่องแท้ใม่ตั้งในความประมาท และถือดีว่าตัวเองแข็งแรง ก็คงจะไม่มาถึงจุดเส้นเลือดหัวใจตีบ

2) ต้นเดือนมิถุนา 65 เดินเล่นเป็นปรกติด้วยความเร็วประมาณ 6 กมต่อชั่วโมงเริ่มรู้สึกแสบร้อนไปทั่วแผ่นอก (ทั้งซ้ายเเละขวา) เหงื่อออกมากตั้งแต่หัวลงมา เดินช้าลงแสบอกหายไป เดินเร็วขึ้นเริ่มแสบอีก ทดสอบแบบนี้อยู่ 3 วัน

3).. ไปหาหมอที่ รพ. … (เชียงใหม่) หลังจากตรวจ Troponin T level ใม่พบสิ่งผิดปรกติ จึงตรวจEKG พบสิ่งผิดปรกติ ตรวจ EST ผิดปรกติอีก คุณหมอแนะนำให้ฉีดสี พบว่าเส้นเลือดทั้ง 3 เส้นตันแบบยุ่งยาก ไม่สามารถทำ balloon หรือ stent ใด้แล้ว คุณหมอแนะนำว่าควรทำ by pass 

4).. ไปขอ 2nd opinion ศัลยแพทย์หัวใจที่ รพ … (กทม) แนะนำ by pass เช่นกัน

5).. ตั้งแต่เด็กมาใม่เคยเจ็บหนัก ทำให้กลัวการผ่าตัดมากๆ เลยคิดว่าใม่ทำ by pass 

6).. ภรรยาเป็น FC คุณหมอสันต์มานานแล้ว เลยแนะนำให้ดำเนินชีวิตใหม่ตามแบบคุณหมอสันต์ โชคดีที่เดือนนั้นทาง wellness เปิดอบรมเกี่ยวกับการรักษาแบบย้อนกลับที่ปากช่อง แต่โชคร้าย course เต็มแล้ว 

7).. หลังจากใด้คุยกับคุณพยาบาลโอ๋ โชคดีกลับมามีคนยกเลิก ผมเลยใด้เข้าอบรมพร้อมกับภรรยา (ผู้พิทักษ์ ผู้มีพระคุณที่แนะนำ course นี้)

8).. หลังจากอบรมมาได้ละทิ้งอุปนิสัย การกิน_อยู่โดยสิ้นเชิง เริ่มกินอาหาร plant based whole food และทำ IF 18 ชั่วโมง พร้อมทั้งออกกำลังกายด้วยการเดินเช้า 1 ชม และเย็น 1 ชม 

9).. แรงบันดาลใจในการกิน_อยู่แบบใหม่คือ 

           ก) ไม่อยากอยู่อย่างทรมาน (ยอมตายถ้าต้องทำ by pass )

           ข) ไม่อยากเป็นภาระของครอบครัว ถ้าเกิดคนในครอบครัวต้องมาดูแลเราคนเดียวจะเป็นการเอาเปรียบพวกเค้ามากเกินไป 

10)..หลังจากทำข้อ 8 มาใด้สักสามเดือนทำให้น้ำหนักลดจาก 76 กกเหลือ 59 กก เริ่มตกใจละ (ไม่ใช่ทางสายกลางแล้ว) ก็เลยเปลี่ยนเป็นเดินแค่วันละครั้ง 1 ชม 

11)..น้ำหนักเริ่มอยู่ตัวที่ 60 กก ความทนทานของร่างกายและหัวใจเริ่มเพิ่มขึ้น สามารถเดินใด้ 1 ชั่วโมงด้วยความเร็ว 7 กมต่อชมติดต่อกัน 1 ชมโดยไม่หยุดพักและไม่เหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด ชีพจรเต้นอยู่ที่115_120 bpm ,O2 ใด้ 97-98% และทำงานในสวนได้สามสี่ชั่วโมงโดยไม่เหน็ดเหนื่อย สามารถยกของหนัก_ลากของหนักใด้เต็มศักยภาพโดยไม่มีอาการ

12).. ตอนนี้คุณภาพชีวิตดีกว่าก่อนจะตรวจพบโรค ผลเลือดทุกค่าดีหมด HDLครั้งสุดท้ายคือ 54 ครั้งแรกในรอบ 68 ปี อีกทั้งผลรายงานตรวจด้วยเครื่อง biofeedback วิเคราะห์หลอดเลือดแดงและการไหลเวียนก็ออกมาดี_ดีมาก 

13).. การเปลี่ยนวิถีชีวิตต้องมีความศรัทธาในคุณหมอสันต์และองค์ความรู้เรื่อง PBWF ต้องเชื่อว่าถ้าทำแบบนี้แล้วชีวิตสามารถย้อนกลับใด้ 

14).. ผลย่อมเกิดจากเหตุ _ กลัวเป็นภาระแก่คนรอบข้างจึงทำให้ต้องมีวินัยเคร่งครัดในการกินอยู่ 

ทั้งหมดนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังลังเลว่าจะไปห้องผ่าตัดดีหรือจะไปตลาดผักผลไม้ดี 

ขอบคุณ

  1. ภรรยาและครอบครัว
  2. คุณหมอสันต์และคณะทุกท่าน
  3. ผู้ที่ผลิต ถั่ว_งา_นัท_พืชผักผลไม้ทั้งหลาย 
  4. ยมบาล..ที่ยังให้โอกาส

___________________

      ด้วยความเคารพ ….