Latest

ว่าเนื้อนมไข่ไม่ดีแล้วจะเอาอะไรเลี้ยงเด็ก

(ภาพวันนี้: ไม่รู้ดอกอะไร โผล่จากพุ่มไม้รกๆออกมา)

เรียน คุณหมอ

จากที่ตามอ่านและศึกษาจากคุณหมอและบุคลากรท่านอื่น เราจะพบว่าผู้ใหญ่ควรเลี่ยงบริโภคเนื้อ (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม)​ นมวัว แป้ง แต่เน้น ผัก ผลไม้ จากที่เคยเป็นนร. เราต้องบริโภคเนื้อ นม ไข่ จะได้เติบโต เราสับสนอยู่มาก เราในฐานะแม่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกให้เติบโตและแข็งแรงและยังคงแข็งแรงและแก้ไขให้น้อยในวันที่เราไม่อยู่แล้ว เราเป็นคนเลือกและสอนเค้าในวันนี้ จึงขอคำชี้แนะจากคุณหมอคะว่าเราควรจะดูแลเด็กๆ เรื่องอาหารอย่างไรคะ และเมื่อไหร่ที่เราจะให้เค้าเลี่ยงหลายสิ่งที่เค้าอาจบริโภคอยู่ รบกวนคะ

ขอบพระคุณคุณหมอเป็นอย่างสูงคะ

ด้วยความเคารพ

……………………………………………………………………………

ตอบครับ

1.. ถามว่าคำแนะนำปกติที่ให้เด็กกินเนื้อนมไข่จะได้โตเร็วนั้น ใช้ไม่ได้แล้วหรือ ตอบว่า สำหรับเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กก่อนวัยเรียน เนื้อนมไข่ไม่ได้เป็นของแสลง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นจนไม่มีอย่างอื่นทดแทน ดังนั้น อย่าไปโฟกัสที่จะว่ากินเนื้อนมไข่ได้หรือไม่ได้ นั่นแล้วแต่คุณชอบ ให้โฟกัสที่ปัญหาสำคัญทางโภชนาการในเด็กสูงสุดสามอย่างแรกในปัจจุบันนี้ คือ

(1) เด็กกินน้ำตาลมากเกินไป น้ำตาลถูกใส่เข้ามาในนมผงเลี้ยงเด็กที่ใช้แทนนมวัว (ซึ่งเอาน้ำตาลฟรุ้คโต้สเป็นตัวให้แคลอรี่) ในเครื่องดื่มของเด็กทุกชนิดรวมทั้งน้ำผลไม้ ในขนม และในอาหารเบเกอรี่ ทั้งหมดนี้เป็นน้ำตาลที่ไม่มีกากร่วมด้วย น้ำตาลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นฟรุ้ตโต้สซึ่งหากร่างกายได้รับเข้าไปมากโดยไม่มีกากช่วยชลอการดูดซึม ฟรุ้คโต้สจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันแทรกไว้ในเซลตับและเซลกล้ามเนื้อ ทำให้เด็กอ้วนและพัฒนาไปสู่การดื้อต่ออินสุลินซึ่งเป็นปฐมเหตุของโรคเบาหวานตั้งแต่อายุน้อยๆ

(2) อาหารสำเร็จรูปเป็นกล่องเป็นถุง (ultra-processed food – UPF) ทั้งเค้ก คุ้กกี้ ขนมกรุบกรอบ ซึ่งส่วนใหญ๋ไม่มีกาก (เพราะอาหารที่มีกากวางขายบนหิ้งได้ไม่นาน) และเต็มไปด้วยสารเคมีที่ไม่ใช่อาหารธรรมชาติ เช่นสารกันบูด สารแต่งรส สารทดแทนความหวาน เป็นต้น สารเหล่านี้ไปลดความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ซึ่งจะกลายเป็นปฐมเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ

(3) เด็กกินอาหารมีกากน้อยเกินไป ถามผมว่าอะไรคืออาหารที่ดีที่สุด ตอบว่าอาหารที่ดีที่สุดที่คนทุกเพศทุกวัยขาดกันมากที่สุดทั่วโลกคืออาหารกากใย (fiber) ซึ่งมีแต่ในพืช คือ ผัก ผลไม้ ถั่ว นัท ธัญพืชไม่ขัดสี ดังนั้นต้องกินอาหารกลุ่มพืชนี้ให้มากเข้าไว้

ถ้าคุณแก้ปัญหาโภชนาการทั้งสามประการนี้ได้ก็ถือว่าคุณได้ทำหน้าที่ของคุณแม่อย่างดีที่สุดแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องไม่สำคัญ จะให้เด็กกินอาหารแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ จะให้กินเนื้อนมไข่ก็ได้ หรือจะให้กินมังสวิรัติก็ได้ หรือกินปนๆกันก็ได้ อาหารทั้งสองแบบนี้งานวิจัยพบว่าให้การเจริญเติบโตที่ปกติและไม่ต่างกัน แต่อาหารแนวมังสวิรัติเมื่อโตขึ้นเด็กจะมีไขมันเลว (LDL) ในเลือดต่ำกว่าเด็กที่กินอาหารแนวเนื้อนมไข่ การมีไขมันเลวในเลือดต่ำเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการป้องกันโรคหลอดเลือดทั้งที่สมอง หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ

2.. ปัญหาทางโภชนาการอีกอย่างคือการที่เด็กผอมเกินไป ส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับอาหารให้พลังงาน (calories) ไม่เพียงพอ ซึ่งเกิดจากสาเหตุ เช่น (1) เด็กกินไม่อิ่ม คือ กินอาหารไม่เต็มกระเพาะแล้วหยุด (2) เด็กอิ่มเร็วเกินไปเพราะกินอาหารน้ำตาลสูง ซึ่งจะไปกระตุ้นการเพิ่มอินสุลินซึ่งจะเป็นตัวแจ้งสมองให้เกิดความอิ่ม (3) เด็กได้อาหารกากเส้นใยมากเกินไปทำให้อาหารเต็มกระเพาะและอิ่มก่อนที่จะได้อาหารให้พลังงานเพียงพอ

วิธีแก้คือ (1) ต้องฝึกเด็กไม่ให้ทำกิจกรรมอื่นขณะกินอาหารเพราะจะหันเหความสนใจจนกินไม่อิ่ม (2) ไม่ให้เด็กกินน้ำหวาน ของหวาน หรือกินน้ำตาลมาก (3) กรณีเด็กกินมังสวิรัติแล้วผอมต้องลดอาหารกากใยลงเช่นเปลี่ยนข้าวกล้องเป็นข้าวผสมหรือข้าวขาว ลดปริมาณผักลง เพิ่มอาหารแป้งและอาหารไขมันสูงเช่น อะโวกาโด ถั่วต่างๆ งา นัทต่างๆ น้ำมันมะกอก (4) ให้เด็กได้ออกกำลังกายมากนอนหลับมากซึ่งนอกจากจะเพิ่มมวลกล้ามเนื้อแล้วยังจะเพิ่มความอยากอาหารด้วย

3.. ปัญหาในเรื่องโภชนาการของเด็กอีกประเด็นหนึ่งที่คุณไม่ได้ถาม คือความจริงที่ว่าพ่อแม่ไม่ได้มีอิทธิพลต่ออาหารของเด็กมากเท่าสังคมและโรงเรียนซึ่งตะลุมบอนให้อาหารขยะแก่เด็กเพื่อประโยชน์ทางการค้า พอพ่อแม่จะให้เด็กได้กินของดีๆที่มีกากเส้นใยเช่นผักผลไม้ถั่วนัทเพิ่มขึ้นบ้าง เด็กไม่กินเพราะมันไม่อร่อยเท่าอาหารขยะ ครั้นพ่อแม่บังคับก็ยิ่งไม่กิน ตรงนี้เป็นปัญหาของพ่อแม่จำนวนมาก วิธีแก้ผมแนะนำว่าให้แบ่งหน้าที่กันระหว่างพ่อแม่ข้างหนึ่ง กับลูกอีกข้างหนึ่ง

พ่อแม่มีหน้าที่หาอาหารดีๆมาไว้ในบ้าน และเอาอาหารขยะหรืออาหารที่ก่อปัญหาทางโภชนาการสามอย่างข้างต้นออกไปเสียจากบ้าน นี่เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ เปิดตู้เย็นต้องมีแต่อาหารดีๆ มีพืชผักผลไม้ถั่วนัทแยะ ไม่มีอาหารใส่น้ำตาลหรือใส่แต่น้อย และไม่มีอาหารกล่องอาหารถุงที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบ UPF อยู่ในบ้าน นี่เป็นหน้าที่ของพ่อแม่

ส่วนลูกหน้าที่ของเขาคือกินหรือไม่กิน ตรงนี้เป็นเขตอำนาจของเขา พ่อแม่ไม่ต้องไปบังคับ วางของดีไว้ให้แล้วหากเขาไม่กินก็ช่างเขา จริงอยู่เมื่ออยู่นอกบ้านเขาอาจกินแต่อาหารขยะ เมื่ออยู่ในบ้านหากไม่หิวมากเขาอาจไม่กินอาหารที่พ่อแม่เตรียมไว้ให้ก็ช่างเขา แต่หากหิวมากเขาจะกินเอง การเลี้ยงลูกสมัยนี้อย่าโลภมาก เอาแค่มีอาหารดีๆไว้ในบ้านให้เขาได้กินหากเขายอมกิน แต่นี้ก็พอแล้ว

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม
1. O’Connell JM, Dibley MJ, Sierra J, Wallace B, Marks JS, Yip R. Growth of vegetarian children: The Farm Study. Pediatrics. 1989 Sep; 84(3):475-81.
2. Nathan I, Hackett AF, Kirby S. A longitudinal study of the growth of matched pairs of vegetarian and omnivorous children, aged 7-11 years, in the north-west of England. Eur J Clin Nutr. 1997 Jan; 51(1):20-5.
3. Sabaté J1, Lindsted KD, Harris RD, Sanchez A. Attained height of lacto-ovo vegetarian children and adolescents. Eur J Clin Nutr. 1991 Jan;45(1):51-8.
4. Yen CE1, Yen CH, Huang MC, Cheng CH, Huang YC. Dietary intake and nutritional status of vegetarian and omnivorous preschool children and their parents in Taiwan. Nutr Res. 2008 Jul;28(7):430-6. doi: 10.1016/j.nutres.2008.03.012.