Latest

ของขวัญปีใหม่ จากหมอสันต์

บทความเขียนให้นิตยสาร Guitar Affection

สมัยหนุ่มๆ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนบ้าเครื่องเสียง สมัยนั้นซาวด์เบ้าท์ที่คนระดับผมฟังกันแกไม่ฟังหรอก ต้องฟังโซนี่เอ็มอาร์ดีแปดสี่แปด พวกเทปกระจอกก็ไม่เอาต้องเทปโครเมียม ในสมองของแกมีแต่มารานซ์  เจบีแอล. โบ้ส เอ็นเอดี นากามิชิ เดนอน เป็นต้น นับว่าเป็นบุญหูของผมเองที่มีโอกาสได้อาศัยเครื่องเสียงของเขาฟังเพลงอย่าง Sky Pilot จากแผ่นแล้วได้ความรู้สึกยังกับนั่งในเครื่องบินผาดโผนเลยทีเดียว

“..How high can you fly,..
You’ll never never reach the sky..
บึ่ง บึง บึ๋ง บึ๊ง บึ่ง
     เสียง บึ่ง บึง นั่นเป็นเสียงเบสนะครับ ซึ่งถ้าเครื่องเสียงดีๆก็จะทั้งแรงทั้งแน่นสะใจมาก

     แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่ง หลังจากไม่ได้เจอกันสิบกว่าปี เพื่อนคนนี้แกไม่รู้เป็นอะไรของแก กลายเป็นคนฟังเพลงแล้วไม่อินซะแระ โดยเฉพาะเพลงอกหักรักคุดที่แกเคยชื่นชอบกลับกลายเป็นฟังไม่เข้าหูเลย ยิ่งถ้าเป็นเพลงไทยอ้อยอี๋เอียง แกสาปส่งเลย บรรดาเครื่องเสียงดีๆแกก็ปล่อยให้ฝุ่นจับเขรอะไม่มีอาลัยอาวรณ์ เออหนอ เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นะคนเรา

     ผมมาคิดถึงเพื่อนคนนี้เมื่อปีสองปีมานี้ เมื่อผมตามลูกเมียไปดูหนังเรื่องลอร์ดออฟเดอะริง ในหนังเรื่องนี้มีตัวเด่นอยู่ตัวหนึ่งรูปร่างหน้าตายังกับผีเวตาล ผมจำชื่อเขาไม่ได้เสียแล้ว ขอเรียกว่าเจ้าเวตาลก็แล้วกัน เจ้าเวตาลนี้เวลาปกติก็จะเป็นคนดีมีสติคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่พอได้สวมแหวนเข้าละก็ในชั่วแว้บเดียวจะมีอันเด้งดึ๋งดี๊ด๊าจิตใจใหญ่บ้าอำนาจชนิดว่ากลายเป็นคนละคนไปเลย

อะไรเป็นเหตุให้คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบพรวดพราดได้

     ถ้าถามคนแก่รุ่นโบราณก็คงจะตอบว่าก็เพราะกรรมเก่าไง้ ซึ่งเป็นทัศนะที่ไม่แปลกอะไร เพราะคนทั่วโลกแม้กระทั่งฝรั่งมังค่าก็คิดกันแบบนั้น อย่างในหนังเรื่องเดอะ ซาวด์ ออฟ มิวสิค ตอนที่นางเองรู้สึกแฮ้ปปี้กับความรักของเธอ เธอรำพึงเป็นเพลงว่า

“nothing comes from nothing
Nothing ever could
Somewhere in my time or my childhood
I must have done something good.”

ฝรั่งสมัยใหม่ก็เชื่อเรื่องกรรมเก่านะครับ วันก่อนผมได้มีโอกาสอ่านข้อเขียนของสตีเฟ่น โคเวย์ (คนที่เขียนหนังสือนิสัยดีเจ็ดประการนั่นแหละ) เขาพูดถึงแนวคิด 90/10 ของเขา ซึ่งมีสาระว่าสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา 90% มันเกิดจากกรรมเก่าจริงๆ เป็นกรรมที่เกิดจากเราสนองตอบต่อสิ่งเร้าที่เข้ามาก่อนหน้านี้ ถ้าเราสนองตอบดี สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในวันนี้ก็จะดี

ผมจะแปลคำพูดของเขาให้ฟังนะ

            “.. หลัก 90/10 หมายความว่า 90% ของเรื่องที่เกิดขึ้นถูกกำหนดโดยวิธีที่เราสนองตอบต่อสิ่งเร้าในอดีตที่ผ่านมาไม่นาน ส่วนอีกสิบเปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นด้วยเหตุอื่นที่เราคุมไม่ได้ เช่น เราห้ามรถเสียไม่ได้ เราห้ามเครื่องบินลงจอดช้าแล้วพาลทำให้แผนงานของเราพังหมดไม่ได้ แต่อีกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เราควบคุมได้ ยกตัวอย่างเช่นคุณกินอาหารเช้าอยู่กับลูกเมีย แล้วลูกสาวตัวเล็กเผลอทำกาแฟหกรดเสื้อเน็คไท และสูทตัวเก่งของคุณเข้า นี่เป็นเรื่องที่คุณควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ต่อจากจุดนี้ไปคุณควบคุมได้ ถ้าคุณยั้วะ ด่าลูกว่าซุ่มซ่าม เธอปล่อยโฮออกมา คุณยังไม่หายขุ่น จึงพาลเอ็ดเมียอีกว่าเอาถ้วยกาแฟมาวางใกล้ขอบโต๊ะทำไม แล้วก็ทะเลาะกัน คุณกระทืบเท้าขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอลงมาก็พบว่าลูกสาวเอาแต่ร้องไห้ กินข้าวไม่เสร็จ ไปขึ้นรถบัสไม่ทัน ข้างเมียของคุณก็ต้องรีบออกรถบึ่งไปทำงาน คุณเลยต้องขับไปส่งลูกสาว ความที่คุณก็กำลังจะไปทำงานสาย ก็เลยรีบขับ โดนตำรวจจับฐานขับรถเร็ว เสียเงิน ส่งลูกที่หน้าโรงเรียน เธอปิดประตูรถโครมแล้ววิ่งหนีไปไม่กล่าวลาคุณสักคำ คุณมาถึงที่ทำงานสายไปยี่สิบนาที และเพิ่งรู้ตัวว่าลืมกระเป๋าเอกสาร วันนั้นทั้งวันมีแต่เรื่องแย่กับแย่ คุณเฝ้ารอเวลาที่จะได้กลับบ้าน แต่พอกลับถึงบ้าน กลับพบแต่ท่าทีที่เย็นชาของเมียและลูก ทำไมคุณถึงเจอแต่เรื่องร้ายๆในวันนี้ ลองเลือกข้อที่ถูกที่สุดสิครับ
ก. เพราะกาแฟหก
ข. เพราะเจ้าลูกสาวบังเกิดเกล้า
ค. เพราะตำรวจงี่เง่า
ง. หรือเป็นเพราะคุณเอง
คำตอบที่ถูกคือข้อ ง. เป็นเพราะคุณไม่ได้ตั้งใจสนองตอบให้ดีเมื่อกาแฟหก เหตุการณ์ใน 5 วินาทีต่อจากนั้นทำให้วันทั้งวันของคุณพัง
ถ้าเปลี่ยนเป็นว่ากาแฟหก ลูกสาวทำท่าจะร้องไห้ คุณพูดอย่างนุ่มนวลว่าไม่เป็นไรหรอกลูก ครั้งหน้าลูกระวังขึ้นอีกสักหน่อยก็แล้วกัน แล้วรีบขอตัวลูกเมียขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉวยกระเป๋าเอกสารลงมาชั้นล่างก็จะเห็นลูกสาวขึ้นไปนั่งบนรสบัสของโรงเรียนแล้ว เธอหันมาโบกมือผ่านหน้าต่างรถให้คุณ คุณมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาห้านาที ทักทายลูกน้องอย่างอารมณ์ดี วันนั้นจะเป็นอีกแบบ
ผมจะบอกวิธีเอาหลัก 90/10 ไปใช้ให้นะ เวลามีใครพูดอะไรไม่ถูกหู อย่ายั้วะ แค่ปล่อยให้คำพูดนั้นผ่านหูไป ไม่ต้องตอบโต้ด้วยคำพูดแก้เผ็ดหรือเอาคืน สนองตอบอย่างสร้างสรรค์ มันก็จะไม่ทำลายวันดีๆวันนั้นของคุณ หากคุณสนองตอบเชิงลบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียเพื่อน ถูกไล่ออก หรืออย่างเบาะๆก็เครียด..
“…ลองหลัก  90/10 ดูสิครับ ไม่มีอะไรจะเสีย แต่คุณจะประหลาดใจในผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ว่าอะไรที่เราคิด พูด ทำ มันเหมือนบูมเมอแรงที่จะกลับมาหาเราเสมอ ถ้าอยากได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะให้ก่อน อาจจบลงด้วยการเหลือแต่มือเปล่า แต่หัวใจจะไม่ว่างเปล่าจากความรู้สึกดีๆแน่นอน ปู่ชาวอินเดียนแดงสอนหลานว่าหลานเอ๋ย ในตัวเรามีหมาจิ้งจอกสองตัวสู้กันอยู่ตลอดเวลา หลานถามว่าแล้วในที่สุดตัวไหนชนะละครับปู่ ปู่ตอบว่าตัวที่เราเลี้ยงดูมันมากกว่าก็ย่อมจะต้องชนะ..

เห็นไหมครับ ฝรั่งก็เชื่อเรื่องกรรมเก่า ในแง่ของความเร็วของการเปลี่ยนแปลง การที่อีตาเวตาลเปลี่ยนตัวเองได้ในแว้บเดียว ก็ไม่แปลกนะ ผมเคยถามเพื่อนคนนี้ว่าเอ็งใช้เวลานานแค่ไหนที่เปลี่ยนจากคนบ้าเครื่องเสียงบ้าเพลงมาเป็นไม่เอาอะไรสักอย่าง เขาตอบว่า

“วินาทีเดียว”

คืออยู่ๆก็ปึ๊ด..ด  ไม่เอาละ เลิก ตรงนี้ก็เป็นประเด็นนะครับ คือจริงๆแล้วคนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในชั่ววินาทีเดียว แต่คนส่วนใหญ่ไปฝังหัวอีกแบบ ผมมีคนไข้หลายรายที่ผมพยายามลุ้นให้เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตเสียใหม่เพื่อให้สุขภาพดีขึ้น เช่นให้เลิกบุหรี่ ให้เริ่มออกกำลังกาย ให้ทานผักผลไม้แยะๆ เป็นต้น คนไข้จะโอดโอยว่าเขาใช้เวลาอยู่กับนิสัยเก่ามานานปีมาก ขอเวลาให้เขาสักหน่อยสิ บางรายดูแลกันมาห้าปีก็ขอเวลามาตลอดห้าปี ทั้งที่การเปลี่ยนแปลงตัวเรานี้ใช้เวลาแค่วินาทีเดียว

ปีใหม่นี้ลองดูใหม่นะ ลองหลัก 90/10  แล้วก็ ปึ๊ด..ด เปลี่ยนตัวเองไปในวินาทีเดียว นะครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์