Latest

จะส่งเพื่อนเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมาหา..เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าเพิ่งมา

สวัสดีครับ คณหมอสันต์

ผมมีเพื่อนเป็นมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย(เพิ่งตรวจเจอ) ทราบมาว่าคุณหมอมีวิธีการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด อยากให้เพื่อนไปรักษากับคุณหมอ
ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
…………………………………………………
ตอบครับ
     เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าเพิ่งมา ปัจจุบันนี้ผมยังไม่มีโปรแกรมสอนการดูแลตัวเองให้ผู้ป่วยมะเร็ง อย่าเพิ่งมาเลยครับ
     ผมมีแต่โปรแกรมสอนชื่อ Reverse Disease By Yourself (RDBY) สำหรับผู้ป่วยเรื้อรังที่มีโรคหลอดเลือดเป็นปัญหาพื้นฐาน หกโรค (โรคหัวใจ อัมพาต ความดัน ไขมัน เบาหวาน อ้วน) ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง 
     อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผมกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมโปรแกรมสอนการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็งอยู่ ซึ่งจะเป็นโปรแกรมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งทั้งที่ผ่านการรักษาหลักเช่นผ่าตัด เคมีบำบัด รังสี มาครบแล้ว ทั้งสำหรับผู้ที่ไม่ยอมรับการรักษาแบบรุกล้ำใดๆ โดยผมตั้งธงว่าโปรแกรมดังกล่าวไม่ได้มีเป้าหมายจะรักษาโรคมะเร็งให้หาย แต่มีเป้าหมายที่จะให้ผู้ป่วยมะเร็งมีความพร้อมมากที่สุดที่จะมีชีวิตอยู่กับโรคนี้อย่างมีคุณภาพชีวิตมากที่สุดและให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบภูมิคุ้มกันของตนเอง จากอาหาร จากสิ่งแวดล้อม จากวิธีการจัดการความเครียด และมุ่งให้ผู้ป่วยนำทักษะปฏิบัติเอาไปทำต่อได้ด้วยตนเอง ส่วนการบำบัดที่จำเป็นต้องอาศัยผู้อื่นทำให้นั้น จะมีไว้แค่เป็น gimmick หรือเป็นแค่กระสายแก้เซ็งในชีวิตก็พอ โดยจะคัดเลือกเอาแต่วิธีบำบัดที่มีความปลอดภัยและคุ้มค่าการเสียเงินเสียเวลากับมัน
     So far (แปลว่าตราบถึงบัดนี้) ทั้งหมดนี้ผมหมดเวลาไปหนึ่งปีเต็มๆแล้วนะ แต่ยังไปไม่ถึงไหนเลย หิ หิ โดยหนึ่งปีที่ผ่านมาผมเริ่มจากสามเส้าก่อน คือ
     (1) การแพทย์แผนปัจจุบันที่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์จากการวิจัยแบ่งกลุ่มสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบรองรับ 
     (2) Ayurveda ซึ่งเป็นการแพทย์แผนพื้นบ้านของอินเดีย เพราะวิชาของเขาอายุ 6,000 ปี เก๋าและรู้มากพอควร
     (3) การแพทย์แผนไทย (สมุนไพรไทย) 
     โดยผมได้ระดมแพทย์ Ayurveda doctor จากอินเดียมาเป็นที่ปรึกษา 1 คน เข้ามาทำงานร่วมกับแพทย์แผนไทยอีก 4 คน บวกกับผมซึ่งเป็นแพทย์แผนปัจจุบันอีก 1 คน ทั้งหกคนมากินมานอนอยู่ประจำทำงานด้วยกันที่ Wellness We Care Center ที่มวกเหล็กได้นานหนึ่งปีแล้วนะเนี่ย และได้ทำสัญญากับสถาบัน The Arya Vaidya Sala Kottakal ซึ่งเป็นสถาบันอายุรเวดะเก่าแก่ที่สุดของอินเดียเพื่อถ่ายทอด know how จากเขาแบบต่อท่อตรง เป้าหมายสุดท้ายก็คือให้ได้โปรแกรมการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ลงตัวที่สุด ที่ผสมผสานทั้ง (1) อาหารและสมุนไพร (2) การออกกำลังกาย (3) วิธีการจัดการความเครียด (4) การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อ (5) การบำบัดหรือช่วยเหลือจากผู้บำบัด (therapist) โน่นนิดนี่หน่อยเช่น บีบ นวด อบ ประคบ หยอด ที่จะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยทั้งหมดนี้ไม่ให้มีเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง
     ผ่านมาแล้วหนึ่งปี ยังไม่ถึงไหนเลย แหะ แหะ แบบว่าฟุตเวิร์คจนวอร์มแล้ววอร์มอีก จะว่าไม่ถึงไหนก็ไม่เชิง อย่างน้อยก็
     (1) ได้ผสมผสานโยคะของอินเดียเข้ากับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตามหลักวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน 
     (2) ได้ผสานการบำบัดหัตถเวช (นวด) ของไทยเข้ากับของ Ayurveda 
     (3) ในส่วนของสมุนไพรนั้นก็ได้เดินทางท่องเที่ยวดู ชม ดม เด็ด และสะสมสมุนไพรและผักพื้นบ้านทั้งของไทย อินเดีย จีน และฝรั่งไว้มากพอควรแล้ว เหลือแต่ยังไม่รู้ว่าจะเอาพืชชนิดไหนไปทำอะไรกินเท่านั้นแหละ บ้างก็ปลูกแล้วยังไม่ทันถอนมาใช้ก็ตายไปเสียแล้ว เรียบร้อย หิ หิ พืชตายนะ ไม่ใช่คนปลูกตาย นั่นเป็นการบ้านที่ต้องทำกันต่อไป
     พูดมาถึงตอนนี้ต้องขอขอบพระคุณบุคคล และหน่วยงาน เยอะแยะมากมายที่ได้ให้ความช่วยเหลือหมอสันต์ในเรื่องเหล่านี้ นับตั้งแต่ผู้ป่วยและผู้มาเข้าคอร์สของหมอสันต์เองหลายท่าน บุคคลในแวดวงหมอพื้นบ้านเช่นคุณ “หมอบุญเลิศ” แห่ง อ. แสวงหา จ.อ่างทอง ที่ได้เปิดวิสัยทัศน์ของหมอสันต์ในเรื่องศักยภาพของการแพทย์พื้นบ้านไทยให้กว้างไกลไพศาลไปจากเดิมอีกมาก รวมถึงขอขอบคุณสถาบันต่างๆ เช่น Vegetable Park (อุทยานผักพื้นบ้านเฉลิมพระเกียรติ) ของรัฐบาลไทย ที่ อ.บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเอื้อเฟื้อทั้งความรู้และพันธุ์พืชที่ได้รวบรวมมาจากทั่วประเทศ โดยท่านผอ.ได้พูดเป็นเชิงติดตลกแต่จริงจังกับผมว่า
     “เผื่อน้ำท่วมภาคกลางจนสวนนี้จมมิดน้ำ ผมจะไปเอาพันธ์พืชที่เวลเนสวีแคร์กลับมาปลูกใหม่นะ”
      ทำงานกันมานานครบหนึ่งปีแล้ว หมดเบี้ยไปก็หลาย แต่งานก็ยังดำเนินมาไม่ถึงครึ่ง พอมีจดหมายจากท่านผู้อ่านแบบของคุณนี้มาทีหนึ่ง ก็มีผลกระตุ้นทีหนึ่งว่าเฮ้..เร่งมือหน่อยดิ ดังนั้นในโอกาสที่มีจดหมายฉบับนี้เร่งมา ผมขอปักธงเป็นการบังคับตัวเองกลายๆว่าภายในหน้าหนาวนี้ เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์จะต้องเปิดโปรแกรมการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเป็นปฐมฤกษ์ก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง แน่นอน ฟันธง ส่วนวันเวลาชัดๆนั้นจะบอกกล่าวเมื่อใกล้จะถึงอีกทีนะครับ
ปล. รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง ครั้งแรกจะเปิด 22-25 กย. 61 ดูรายละเอียดข้างล่างนี้ได้ครับ

http://visitdrsant.blogspot.com/2018/07/cancer-retreat-4-3.html

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์