Latest

อยากจะเลิกซื้อน้ำใส่ขวดดื่ม แต่ก็กลัวน้ำประปาเพราะต้มแล้วขุ่น

เรียน คุณหมอสันต์ที่นับถือ
        ผมเป็นแฟนประจำบล็อกคุณหมอ ตอนนี้ผมมีปัญหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำที่เราใช้ดื่มในชีวิตประจำวัน ผมพยายามหาข้อมูลในเรื่องนี้ แต่หาข้อยุติมิได้ถึงผลดี ผลเสียระหว่างน้ำ  ro(reverse osmosis) น้ำแร่ และน้ำที่กรองด้วยระบบอื่นๆ(ไม่ถึงขั้น ro) ปัญหามีดังนี้ครับ
           1.น้ำ ro แทบไม่มีเกลือแร่หลงเหลืออยู่เลยคือบริสุทธ์มากๆ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปดึงแร่ธาตุต่างๆในร่างกายทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุ ระยะยาวไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจริงไหมครับ ถ้าจริงคนโบราณที่กินน้ำฝนซึงก็ไม่มีแร่ธาตุคล้ายน้ำ  ro เป็นหลักก็คงแย่ไปด้วย (เห็นคุณหมอเตรียมถังเก็บน้ำฝนเพิ่มเติมสองถังใหญ่ๆไว้ใช้ในหน้าแล้งคงเพื่อบริโภคด้วย)
           2.น้ำแร่มีส่วนประกอบหลักๆอะไรบ้าง มีคุณมีโทษต่อร่างกายอย่างไรครับ
           3. ผมดูผลวิเคราะห์น้ำประปาปะจำเดือนของการประปานครหลวง ซึ่งกปน.รับรองว่าได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของ WHO  แต่ผมเกรงว่าระหว่างทางน้ำประปาอาจมีการปนเปื้อน เนื่องจากท่อแตกรั่ว หรือการซ่อม/บำรุงท่อ  ผมจึงใช้วิธีกรอง 3 ขั้นตอน ได้แก่ ใช้เรซิ่นเพื่อลดตะกรัน ใช้ถ่านกัมมันต์ดูดซับกลิ่น และเซรามิคกรองตะกอน (ใข้ขนาดรู 3 ไมครอน) สุดท้ายต้มฆ่าเชื้อโรค  ผมยังนิยมแบบโบราณนี้เห็นจะๆว่าน้ำเดือดปุดๆ มั่นใจกว่าใช้ไฮเทคแบบ uv ซึ่งจะเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อไรไม่รู้ และต้องให้น้ำโดน uv อีกกี่วินาทีจึงจะได้ผล แต่กรรมวิธีของผมนี้จะมีปํญหาตอนเอาน้ำไปแช่แข็งมักปรากฎตะกอนเล็กๆตอนน้ำแข็งละลาย ยังหาสาเหตุเรื่องนี้ไม่ได้ สมาชิกในบ้านเห็นแล้วไม่อยากกิน ผมเลยจะหาวิธีกรองใหม่ คิอใช้แบบ ultrafiltration ซึ่งกรองได้ถึง 0.01 ไมครอน ถ้ายังมีปัญหาเรื่องตะกอนอีก คงต้องถึงขั้น ro แล้วแต่เกรงเรื่องผลกระทบครับ
            จึงขอรบกวนคุณหมอพอมีงานวิจัยเรื่องน้ำ ro น้ำแร่  กับสุขภาพมั้ยครับ โดยเฉพาะขณะนี้คนจะอยู่ติดบ้านมากขึ้นย่อมกินน้ำที่บ้านมากขึ้นด้วย  อาจจะเป็นน้ำขวด หรือน้ำกรองเอง จะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและมีทางเลือก (น้ำขวดยี่ห้อดังๆบางเจ้าไม่ใช่น้ำ ro เขาระบุใช้ smart microfilter)
             สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณ คุณหมอเป็นอย่างสูงที่ได้เสียสละเวลามาให้ความรู้เป๊นวิทยาทานแก่สาธารณชนตลอดมา

…………………………………………..

ตอบครับ

     ผมตอบจดหมายของคุณเพราะเห็นว่าในยุคโควิค19 นี้ควรเป็นยุคที่ผู้คนเลิกซื้อน้ำใส่ขวดขายหันมาดื่มน้ำฟรีหรือน้ำราคาถูกแต่ดีอย่างน้ำประปาหรือน้ำฝนได้แล้ว

     1. ถามว่าน้ำ RO เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปดึงแร่ธาตุต่างๆในร่างกายทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุ ไม่ดีต่อสุขภาพ จริงไหม ตอบว่า ไม่จริงครับ เพราะธรรมชาติของร่างกายได้รับแร่ธาตุไม่ว่าธาตุหลักหรือธาตุรองจากอาหารเป็นหลัก ไม่ใช่จากน้ำ น้ำดื่มยิ่งสะอาดบริสุทธิ์แบบน้ำกลั่นได้ยิ่งดี น้ำฝนก็คือน้ำกลั่นชนิดหนึ่ง ซึ่งคนทั่วโลกดื่มกัน อย่างไรก็ตามคนที่เคยดื่มน้ำที่มีเกลือแร่อยู่เป็นประจำหากจู่ๆเปลี่ยนไปดื่มน้ำกลั่นอาจจะพบว่ารสชาติของน้ำไม่ถูกใจเพราะมันไม่เค็ม หรือบางครั้งก็มีอาการโหวงเหวงเหมือนโซเดียมในเลือดต่ำเพราะหากดื่มน้ำบริสุทธินานๆครั้งคราวละมากๆร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน แต่หากดื่มน้ำบริสุทธิ์เป็นประจำครั้งละพอสมควรร่างกายจะปรับตัวไปดูดเกลือแร่จากอาหารได้ WHO เองก็เคยออกเอกสารแนะนำว่าการดื่มน้ำกลั่น (จากน้ำทะเล) ที่ไม่มีเกลือแร่เลยไม่มีผลเสียใดๆต่อร่างกายเพราะร่างกายได้อีเล็กโตรไลท์จากอาหารก็เพียงพอแล้ว

    2. ถามว่าน้ำแร่มีส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง ตอบว่าก็ขึ้นอยู่กับว่าจะขุดมาจากตรงไหนและจะแยกเอาอะไรออกไปบ้างสิครับ ในภาพรวมตามการแยกแยะของ WHO น้ำที่ได้จากผืนดินจะประกอบด้วย (1) จุลชีวิต เช่นไวรัส บักเตรี (2) สารเคมี ซึ่งรวมทั้งเกลือแร่ต่างๆทั้งแบบอินทรีย์และอนินทรีย์ และสารเคมีที่มนุษย์ผลิตแล้วลงไปปนเปื้อนในน้ำ (3) สารกัมมันตรังสี แต่ว่าในการผลิตน้ำแร่มาให้คนดื่มก็มีกระบวนการแยกเอาสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพออกไปจนเหลือแต่น้ำเปล่าและอิออนของแร่ธาตุจำนวนไม่มาก แค่พอให้น้ำมีรสชาติมากกว่าน้ำกลั่น

     3. ถามว่าน้ำแร่มีคุณและโทษต่อร่างกายอย่างไร ตอบว่าคุณต่อร่างกายไม่แตกต่างจากน้ำฝนหรือน้ำกลั่นหรือน้ำประปา ส่วนโทษต่อร่างกายหากกระบวนการผลิตแยกสิ่งปนเปื้อนได้ดีก็ไม่มีโทษ แต่ถ้าแยกได้ไม่ดีก็มีโทษจากสิ่งปนเปื้อนเหล่านั้นครับ

     4. ถามว่าเอาน้ำประปามาต้มแล้วเอาไปใส่ตู้เย็นแล้วทำไมน้ำมีตะกอน ตอบว่าก็พราะการต้มทำให้แคลเซียมอิออนในน้ำกลายเป็นเกลือแคลเซียมคาร์บอเนตหนะสิครับ เพราะอิออนที่เกี่ยวข้องเช่นแคลเซียม ไฮโดรเจน ออกซิเจน มันย้ายข้างสมการจับกันไปปล่อยกันมา ถ้าเงื่อนไขทำให้ปลายของสมการเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตก็เห็นเป็นตะกอนขุ่นขาวซึ่งก็เหมือนกับยาเม็ดแคลเซียมที่กินกันนั่นแหละ วิธีแก้ปัญหานี้หากคุณยังคิดจะใช้น้ำประปาอยู่และไม่ต้องการเห็นตะกอนขุ่นก็อย่าไปต้มสิครับ เพราะถ้าต้มเมื่อไหร่ก็ขุ่นเมื่อนั้น

      คุณหรือท่านผู้อ่านอาจจะกังขาว่าอ้าวแคลเซียมคาร์บอเนตกินเข้าไปก็เป็นนิ่วสิ ตอบว่าเรื่องนี้วงการแพทย์ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนดอกครับ เพราะมนุษย์เรานี้มีสองพันธุ์ คือพันธุ์ชอบสร้างนิ่ว กับพ้นธุ์ไม่ชอบสร้างนิ่ว คือดื่มน้ำจากบ่อเดียวกันแต่คนหนึ่งเป็นนิ่วอีกคนไม่เป็น ดังนั้นจะไปโทษแคลเซียมคาร์บอเนตในน้ำก็ไม่ถนัด เช่นเดียวกันจะโทษว่ายาเม็ดแคลเซียมทำให้เป็นนิ่วก็ยังพูดได้ไม่ถนัด ทั้งๆที่ยาเม็ดแคลเซียมที่กินทุกวันมีปริมาณแคลเซียมสูง (ุ600-1000 มก.ต่อเม็ด) กว่าที่คนเราได้จากการดื่มน้ำกระด้างอย่างไม่เห็นฝุ่น (ุ60 มก.ถ้าดื่มวันละ 2 ลิตรต่อวัน)

      5. ถามว่าถ้าจะดื่มน้ำเพื่อสุขภาพควรดื่มน้ำอะไรดี ตอบว่าคุณจะดื่มน้ำอะไรก็ได้ต่อไปนี้เลือกเอาตามใจชอบ
(1) น้ำประปา
(2) น้ำที่เขาใส่ขวดขายที่มีอย.
(3) น้ำที่กรองผ่านเครื่องกรองแบบไมโครฟิลเตอร์
(4) น้ำที่ผลิดโดยเครื่อง reverse osmosis
(5) น้ำฝน
(6) น้ำกลั่น

     โดยทั้งหมดนี้คุณจะต้มหรือไม่ต้มก็ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณต้ม หากไม่ใช่น้ำฝนน้ำกลั่นหรือน้ำ ROมันล้วนมีโอกาสเกิดตะกอนขุ่นได้ทั้งนั้น แต่ว่ามันไม่สำคัญต่อสุขภาพ หากลูกค้าในบ้านของคุณรังเกียจตะกอนขุ่นคุณก็รอให้มันตกตะกอนก่อนหรือกรองเอาแต่ส่วนที่ใสไปทำน้ำแข็งก็ได้ เพราะน้ำในแผ่นดินไทยทุกแห่งล้วนมีแคลเซียมมากบ้างน้อยบ้าง และอิออนทั้งหลายที่่ลอยอยู่ในน้ำใสๆมันมีขนาดเล็กมาก ยกตัวอย่างเช่นแคลเซียมซึ่งเป็นอิออนที่จัดว่าโตมากแล้วยังเล็กกว่า 1 ไมครอนตั้งแยะ อิออนจำนวนหนึ่งจึงสามารถรีดตัวผ่านรูของไม่โครฟิลเตอร์ได้ (แต่แผ่น semipermeable membrane ของเครื่อง RO นั่นเล็กระดับ 0.0005 ไมครอนสามารถดักอิออนได้) ทั้งหมดนี้นี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเชื้อโรคอย่างไวรัสและแบคทีเรียนะ พวกนี้ตัวโต (ไวรัส 0.02-0.4 ไมครอน แบคทีเรีย 0.2 – 1 ไมครอน ) จึงกรองออกได้ง่ายกว่า

    6. ถามว่าทุกวันนี้หมอสันต์ดื่มน้ำอะไร ตอบว่าดื่มน้ำโปลาก๊อกของกปน.ที่กรองผ่านเครื่องขี้กะโล้ตัวเล็กๆ ผมเคยแกะดูข้างในแล้วเห็นมีแต่ผงถ่านอยู่กระปุกเดียว โดยไม่ต้ม ไม่ฟอก ไม่ถู ไม่ขยี้ หิ หิ แต่ต่อไปเมื่ออยู่มวกเหล็กจะดื่มน้ำฝนกรองผ่านเครื่องกรองแบบทำเองแล้วต้มครับ เพราะสมัยเด็กดื่มน้ำฝนแล้วรสชาติเจ๋งดี และอีกอย่างหนึ่งผมเบื่อแบกน้ำกรุงเทพไปดื่มที่มวกเหล็กแล้ว..มันหนัก

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์