Latest

(เรื่องไร้สาระ20) สวนครัวประหยัดขา

วันนี้ขอหยุดตอบปัญหาเพื่อเขียนอะไรเล่น ก่อนอื่นขอรายงานติดตามผลโครงการป่ามอสที่ทำไว้ตั้งแต่ก่อนป่วย ว่า..เจ๊งไปแล้วเรียบร้อย เพราะหมอสันต์ป่วยต้องไปนอนฟื้นฟูอยู่สองเดือนไม่ได้อยู่บ้าน หัวพ่นหมอกถูกหินปูนอุดตัน ต้นมอสแห้งตาย..จบข่าว

ผมจึงตัดสินใจปรับปรุงแก้ไขโครงการ คือเลิกทำป่ามอสแบบพ่นหมอกด้วยตนเองเสียเพื่อไปหาที่ทำป่ามอสใหม่ชนิดเข้าหุ้นกับเทวดาเอาดีกว่า วันหนึ่งกำลังเอาเก้าอี้ผู้กำกับมากางนั่งเล็งโขดหินผาที่หลังบ้านข้างนอกห้องครัวซึ่งมีมอสธรรมชาติขึ้นอยู่บ้างแล้วว่าจะเป็นที่ตั้งโครงการใหม่ได้ไหม แต่ก็คิดไปไม่ตลอดเพราะมันยังมีช่วงขาดน้ำทำให้มอสแห้ง การจะต้องขยันออกมาหลังบ้านเพื่อฉีดน้ำรดมอสมันก็ไม่คุ้ม กำลังคิดสะระตะก็ได้ยิน ม. ซึ่งกำลังทำอาหารเย็นอยู่ร้องสั่งการว่า

เอาปูนกับหินมาก่อเป็นคันลดหลั่นลงมาตามหน้าผา

“พ่อ..มีพริกสดไหม”

ผมตอบว่า

“มี ..แต่ไม่มีปัญญาไปเอา”

สาบเสือ(บนซ้าย) และสวนมอสแบบเข้าหุ้นกับเทวดา

เธอฟังแล้วก็เงียบไปโดยดุษฏี พริกสดในโครงการป่าอาหารที่ผมปลูกไว้ที่ตีนเขามีอยู่แน่นอนทั้งพริกแดงพริกเขียว แต่สภาพร่างกายของหมอสันต์ขณะนั้นการจะเดินลงไปตีนเขาแล้วเดินกลับขึ้นมามันจะเป็นการทำร้ายขาและสะโพกมากเกินไป แม้จะมีกายอุปกรณ์ช่วยแต่ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำยี่สิบนาทีถ้าไม่พลิกคว่ำพลิกหงายไปเสียก่อน จึงบอก ม. ว่าโทรศัพท์สั่งมอไซค์แกร๊บมวกเหล็กเอาพริกมาส่งให้ง่ายกว่าแยะ หิ หิ

ฉับพลันผมก็นึกขึ้นได้ว่าวันหนึ่งเคยไปนั่งกินอะไรเล่นที่บ้านเพื่อนที่ในมวกเหล็กวาลเลย์นี้ ที่ระเบียงรับแขกของเขาปลูกผักสวนครัวใส่กระถางไว้ จะกินก็เด็ดกินกันตรงนั้นได้เลย เออ อย่ากระนั้นเลย ถ้าผมทำสวนครัวขึ้นที่นอกห้องครัวนี่ก็จะเป็นการเซฟแก่ขาและสะโพกซึ่งยังไม่หายดี นอกจากจะได้ผักสวนครัวกินได้ทันทีแล้วการรดน้ำผักสวนครัวบ่อยๆยังจะทำให้เกิดสวนมอสบนหินบริเวณนี้ได้ด้วย อะฮ้า ได้การแล้ว โปรเจ็คใหม่ “สวนครัวประหยัดขา” ตรองตกแล้วจึงอาศัยไหว้วานให้ช่างที่กำลังซ่อมห้องน้ำอยู่เอาปูนและหินมาก่อเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมาบนหน้าผาหินเพื่อใส่ดินเป็นแปลงผัก พื้นที่แคบๆหลังบ้านตรงไหนมีซอกพอตั้งกระถางได้ก็ตั้งเข้าไป เพื่อจะได้ไม่ต้องรดน้ำบ่อยก็ใส่จานรองก้นกระถางไว้ด้วย ยักแย่ยักยันเอากล้าผักสลัดหลายๆชนิดปลูกประเดิมไปก่อน ปลูกต้นสะเดาหนึ่งกระถางไว้กินใบ กระถางที่เหลือก็ปลูกเคล พริก ผักแพว สะระแหน่ แมงลัก กะเพรา เป็นต้น

ผักแพว มอสบนหน้าผา แพงพวย และเถาย่านาง

เชิงหน้าผาหินนี้มีพืชดั้งเดิมหลายอย่างอยู่ก่อนแล้ว เช่นเถาย่านางนั่นทิ้งไว้ก่อน วันหน้าอาจหาวิธีใช้ประโยชน์จากมันได้ แม้กระทั่งต้นสาบเสือผมก็ยังไม่ถอนทิ้ง เผื่อวันหนึ่งบาดเจ็บเลือดออกจะได้อาศัยใบมันขยี้ห้ามเลือด อีกอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้มีแต่สีเขียวผมปลูกดอกไม้ง่ายๆเช่นแพงพวยสลับฉากแก้เลี่ยนด้วย สวนผักหลังบ้านของผมจึงออกแนวรกรุงรัง นี่ยังไม่นับถังขยะ ถุงขยะ และเครื่องซักผ้า ที่ถูก ม. อัปเปหิออกมาจากในบ้านเพราะความอัปลักษณ์ ต่างก็ล้วนมาร่วมสร้างความรกอยู่ในสวนหลังบ้านนี้ด้วย เหอะน่า รกหน่อยก็ไม่เป็นไร แลกกับการก็ได้ผักกินแบบอินสะแต้นท์

ใส่จานรองกระถางเพื่อไม่ต้องรดน้ำบ่อย

ผ่านไปได้ไม่กี่สัปดาห์ผักก็งามพอที่จะเก็บกินได้แล้ว เวลาเพื่อนมากินข้าวที่บ้านก็มีผักสดชนิดเปิดประตูหลังบ้านออกไปก้าวเดียวก็เก็บผักมาเลี้ยงดูกันได้เลยเป็นที่อะเมซซิ่งทิงนองนอยแก่ผู้พบเห็น

มีที่ว่างตรงไหนก็วางกระถางเบียดลงไป

แต่ไม่กี่วันต่อมาเรื่องแอนตี้โรแมนติกที่ชอบตามความโรแมนติกมาก็เริ่มโผล่หน้าให้เห็น คือหมอสมวงศ์ร้องเอะอะขึ้นว่าเธอเห็นหนูอยู่ในครัว เรื่องใหญ่ละสิคราวนี้ สงสัยสวนหลังบ้านจะเรียกแขกเสียแล้ว เผอิญวันนั้นหมอพอมาอยู่ด้วยที่มวกเหล็ก ทั้งสามพ่อแม่ลูกจึงช่วยกันต้อนหนูแล้วเอาตะกร้าครอบและลากมันออกไปทางประตูหลัง พอมาสำรวจละเอียดจึงเห็นว่ามันกัดมุ้งลวดเข้ามาตอนที่เราเผลอ ต้องจ้างสาระพัดช่างเจ้าประจำมาเปลี่ยนมุ้งลวดให้ใหม่ แต่ใหม่ก็ใหม่เหอะ อีกไม่กี่วันมันกัดอีกแล้ว ผมหารือช่างว่าเอาไงดี ช่างบอกว่าก็ทำแบบที่ชาวบ้านเขาทำสิครับ คือเอาแผ่นอลูมิเนียมกรุแทนมุ้งลวดไปเลย โห..เอางั้นเลยหรือ ไม่ค่อยเห็นด้วยแต่ก็ต้องทำตามเพราะไม่รู้วิธีอื่นที่ดีกว่านี้

ดังนั้นใครมาบ้านหมอสันต์เห็นประตูมุ้งลวดหลังบ้านท่อนล่างกรุอลูมิเนียมมันว้าบดูบ้านน๊อก..ก บ้านนอก ก็อย่าว่านะ ถึงมันจะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่มันก็เวอร์คนะ หิ หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์