Latest

เรื่องไร้สาระ (28) สะแกนดิเนเวียน โฮม

ต้นกำเนิดเริ่มจากห้องสุขา

ป่าปลูก เห็นหลุมขนมครก (ล่างซ้าย) กับคลองไส้ไก่เป็นแถวๆ

เมื่อมาเริ่มทำการปลูกป่าที่เขาใหญ่เมื่อสองเดือนก่อน ด้านหนึ่งชีวิตสาละวนอยู่กับการปลูกต้นกล้า ขุดหลุมขนมครก ขุดคลองไส้ไก่ แต่อีกด้านหนึ่งก็ผจญกับปัญหาพื้นฐานทุกวันคือการขาดแคลนห้องสุขา จึงนำมาสู่ความคิดที่จะทำห้องสุขาแบบแฮนดี้ คือใช้ง่ายๆไว้สักหลัง

แผนแรก ผมมีความคิดจะไปซื้อรถบ้านแบบรถพ่วงเก่ามือสองที่มีห้องอาบน้ำและห้องส้วมในตัวมาตั้งทิ้งไว้ในสวนป่านี้เลย แต่พอถามราคาไปแล้วเขาจะเอาคันละ 4 แสน นี่ขนาดของเก่ามือสองมีแต่รถพ่วงไม่มีเครื่องยนต์นะจะไปไหนต้องอาศัยรถยนต์ลากไปก็ยังแพงถึงปานนั้นเชียว ความฝันที่จะตั้งรถบ้านจึงสลาย

แผนสอง ผมมีถังน้ำไฟเบอร์กลาสสองพันลิตรเก่าแตกใช้การไม่ได้แล้ว เอามาตั้งกลางป่าแล้วเจาะช่องประตูเข้าไปทำกิจในนั้นน่าจะดี คิดได้แล้วจึงลงมือขนถังมาจากมวกเหล็ก แต่พอเอาถังมาถึงหน้างานจริงก็ปรากฎว่าพื้นที่ตั้งถังเป็นดินเหนียวหนึบแบบโคลนเดินเข้าไปแล้วติดหล่มเพราะฝนตกทุกวัน ยังไม่เห็นทีท่าว่าจะหยุด ทำให้การผสมหินปูนทรายเพื่อเทฐานรากทำไมได้ จึงต้องหันมาหา

แผนสาม คือเอาส้วมไปไว้ในห้องเก็บของเก่าซึ่งผู้เช่าที่ดินคนก่อนเขาปลูกทิ้งไว้ เพื่อประหยัดการทุบเจาะพื้นก็กะว่าจะเอาคอห่านชนิดท่อเกรอะพุ่งตรงออกไปข้างหลังวางโป๊ะเชะบนพื้นคอนกรีตเดิมแล้วต่อท่อพุ่งตรงออกไปยังหลุมชั่วคราวในพุ่มไม้ข้างนอก ต่อน้ำ แล้วทำกิจได้เลย ใช้เงินแค่สองสามหมื่น

ใครกันนะช่างทำห้องเก็บของได้ซกมกนัก

ชีวิตหนอชีวิต ยิ่งมีสมบัติมาก ยิ่งไม่สงบเย็น

คิดได้แล้วก็เดินลุยโคลนไปสำรวจห้องเก็บของโกโรโกโสชายขอบที่ที่มองเห็นอยู่แต่ไกล ไปถึงใกล้ๆแล้วก็ โห ใครกันนะช่างทำห้องเก็บของได้ซกมกนัก มีผ้าใบกันแดดเก่าๆสีน้ำเงินตัดสีขาวแก่พาดห้อยรุ่งริ่งอยู่ทุกด้าน พอเข้าไปสำรวจข้างในก็พบว่ามีของเก็บอยู่เต็มห้องสมชื่อ คือนอกจากสมบัติบ้าที่ใช้การอะไรไม่ได้เช่นโทรทัศน์เก่า เครื่องพ่นยาเก่า รถเข็นดินเก่า และตุ๊กตาหมีเก่าแล้ว ยังมีกรอบประตูหน้าต่างพีวีซี.เก่าๆที่เลาะเอาออกมาจากบ้านที่ไหนก็ไม่รู้กองระเกะระกะ บางบานก็ยังดูดีๆอยู่

ขณะสำรวจในบรรยากาศมืดๆนั้น สายตาก็พลันเหลือบเห็นกระจกเงากรอบไม้สักสีขาวมีลวดลายแบบยุโรปง่ายๆแต่ดูสูงศักดิ์เชียว เอ.. ผมเคยเห็นกรอบกระจกแบบนี้ที่ไหนน้า คิด คิด คิด.. สแกนดิเนเวีย ใช่แล้ว สแกนดิเนเวียน โฮม แบบว่า..ผนังสีน้ำเงินเข้มอุลตร้ามารีน ตัดด้วยกรอบกระจกเงาสีขาวสลักเสลาลวดลายยุโรป คิดได้แล้วความโลภก็เกิดขึ้นในใจ ได้การละ ได้อีกโปรเจ็คหนึ่งแล้ว..ว จากความคิดเดิมที่แค่จะเอาห้องสุขามาวางไว้ในนี้ก็ขยายไปเป็นทำห้องเก็บของนี้เป็นที่นั่งเล่นนอนเล่นยามเหนื่อยด้วย นี่เป็น..

แผนสี่ เอาแบบบ้านสแกนดิเนเวียนโฮมย้อนยุคกันซะเลยคราวนี้ ราคาคงไม่หนีทำห้องส้วมกลางไร่เท่าไหร่หรอก เพราะพื้น ผนัง หลังคา ประตูหน้าต่างเขามีไว้ให้ในนี้หมด แค่จับใส่ๆๆแล้วก็ทาสี เหอะน่า โหลงโจ้งงานนี้คงไม่เกินแสน ไม่เกินอำนาจดำเนินการ ไม่ต้องขออนุมัติ ม. ฮิ ฮิ ลุยเลย

จะเอาเร็วด้วยถูกด้วย..ไม่มี

การดัดแปลงโรงเก็บของเป็นห้องส้วมพร้อมที่นั่งเล่นจึงดำเนินมาพร้อมๆกับการปลูกป่า มีคนทำซึ่งเป็นช่างตัวจริงอยู่คนเดียว ลูกมือไม่มี เดิมเขาเคยมีลูกมือแต่ลาออกไปตั้งตัวเป็นช่างใหญ่เองเสียหมดแล้ว แถมช่างคนนี้ทุกวันนี้ยังเปิดรับจ๊อบทั่วราชอาณาจักร เวลามีจ๊อบจ้างเหมาที่ไหนก็จะอันตรธานไปหลายวัน หมดงานรับเหมาก็ค่อยหันมาทำงานให้หมอสันต์ซึ่งจ้างกันแบบรายวันเสียทีหนึ่ง โปรเจ็คนี้จึงเป็นโครงการหวานเย็นแต่กำเนิด แต่ผมไม่ซีเรียส เงินก็จะประหยัดด้วยจะเอาเร็วด้วยมันจะเป็นไปได้อย่างไร ใจร้อนนักเมื่อตัวเองว่างจากงานปลูกป่าหรือฝนตกทำงานกลางแจ้งไม่ได้ก็พยายามปลีกเวลาไปช่วยเขาบ้าง แต่ก็ไม่ลืมว่าตัวเองนั้นติดฑัณฑ์บนตลอดชีพ คือนับตั้งแต่ร่วงลงมาจากหลังคาเมื่อปีกลาย ม. ห้ามปีนป่ายเด็ดขาด ผมจึงช่วยได้อย่างมากแค่ผสมปูนผสมทรายอยู่บนพื้นดิน จะช่วยงานสำคัญๆเช่นฉาบปูนติดตั้งฝ้าต่อไฟฟ้านั้นไม่ได้เลย

ไปแหง็นไกลๆเลยไป๊

เวลาว่างๆ ผมยืนเล็งดูรูปทรงของห้องเก็บของเก่าแล้วจึงเห็นว่ามันเป็นเพิงหมาแหงนน่าเกลียดเชียว ทำให้นึกถึงคำพูดของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นชายเนี้ยบที่ไม่ชอบเพิงหมาแหงน ตอนที่เขาจะสร้างบ้านของตัวเองเพื่อนๆก็ช่วยกันเสนอแบบนั้นแบบนี้ พอมีคนเสนอแบบเพิงหมาแหงน เขาตอบว่า

“ไปแหง็นไกลๆเลยไป๊”

ตัวผมเองไม่ได้รังเกียจเพิงหมาแหงน แต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นบ้านแบบสะแกนดิเนเวียนโฮมทรงเพิงหมาแหงน มันไม่ใช่ แต่ไม่รํู้จะแก้ไขอย่างไรดี จะเพิ่มหลังคาให้เป็น “เพิงหมาแหงนกลาย” หรือเป็น “จั่ว” งบก็จะบานไม่หุบอีก มองไปมองมาก็.. โป๊ะเชะ ผ้าใบเก่านั่นไง เอาผ้าใบเก่าที่ห้อยรุ่งริ่งอยู่ตรงนั้นแหละขึงออกมาเป็นหลังคาถาวรในลักษณะ counter balance เพื่อลดความเป็นหมาแหงนลง พื้นที่ใต้ผ้าใบก็ทำเป็นที่นั่งเล่นเอ้าท์ ดอร์

แต่การจะทำอย่างนั้นได้ต้องทดลองล้างแล้วตรวจผ้าใบดูก่อน มีตั้งหลายผืนคงต้องมีที่ใช้ได้บ้างละน่า วิธีล้างผ้าใบของผมก็คือคลี่ผ้าใบออกพอเอียงๆ เอาไม้ค้ำ แล้วฉีดน้ำล้าง เอาผงซักฟอกเทลงในกระแป๋งน้ำ แล้วเอาแปรงด้ามยาวจุ่มน้ำผงซักฟอกขัดผ้าใบไป สลับกับฉีดน้ำไป มือหนึ่งถือแปลงด้ามยาวขัด อีกมือหนึ่งถือสายยางฉีดน้ำ เมื่อยนักก็สลับมือ ด้านในของผ้าใบต้องขัดในท่าแหงนหน้ามองท้องฟ้า บ่อยครั้งน้ำกระเด็นใส่ปากใส่จมูกได้รสเค็มๆ ไม่รู้เค็มผงซักฟอกหรือเค็มขี้ฝุ่นบนผ้าใบ ล้างไปด้วยความอดทน ในที่สุดก็เลือกได้ผ้าใบที่ถึงจะเก่าแต่ก็สะอาดเอี่ยมอ่องจนชิมความสะอาดได้มาสองผืน ปักคานค้ำยันแล้วเอาขึ้นใส่แทนหลังคา อืม..ม พอแก้ความเป็นหมาแหงนลงไปได้บ้าง

ระดมพลทั้งครอบครัวมาทาสี

ถึงเวลาทาสี เราระดมพลกันมาทาสีทั้งครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูก ทาผนังสีน้ำเงินเป็นแบ๊คกราวด์ให้กับกรอบกระจกเงาขาวแบบสะแกนดิเนเวียน ทาฝ้าเพดานขาว ทาเสร็จมองเห็นพัดลมเพดานที่อยู่มาแต่เก่าก่อนช่างเส็งเคร็งน่าเกลียดเชียว ช่างมันเถอะอย่าไปยุ่งกับเขาเลย เขาเป็นของมีประโยชน์ พื้นห้องทาสีขาวปนเทาอ่อนๆขับผนังสีน้ำเงินให้เด่น ผนังด้านที่มีกระจกเงาทาท่อนล่างเป็นสีน้ำเงินเข้มอุลตร้ามารีนขับกรอบกระจกเงาขาวให้ชัดขึ้น ข้อดีของการทาสีเองก็ตรงนี้แหละ ทาออกมาแล้วสองสามแปรงไม่ถูกใจ ผสมใหม่ ทาดูอีก เอาจนถูกใจ มีสีน้ำเงินเข้มเหลือ ผมเอาทาด้านนอก ผสมสีน้ำเงินให้เข้มยิ่งขึ้น เมื่อตั้งประกบกับหลังคาผ้าใบสีท้องฟ้าสลับขาว ดูโอเคมากเลย แต่หมอสมวงศ์ดูแล้วลงความเห็นว่าไม่โอเค เธอหาว่าสีน้ำเงินบ้านนอก เธอจะเอาสีเหลืองมัสตาร์ด โห.. ผู้ใช้แรงงานขัดแย้งกัน งานจึงไม่เดินหน้า หมอพอแนะนำว่าก็ทามันทั้งน้ำเงินทั้งเหลืองเป็นไง น้ำเงินเหลืองสีสวีเดน ตกลงก็เลยต้องทามันทั้งสองสี สมมุติในใจว่าเป็นห้องแถวสองหลังมาอยู่ชิดกัน ซีกที่เป็นห้องนอนทาสีน้ำเงินเข้ม..ม ซีกที่เป็นห้องเก็บของทาสีเหลืองแจ๊ด..ด…ด

ให้มองแบบอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม

บานประตูเปิดเข้าห้องนอน กระจกผิวเกล็ดสีครามปนน้ำเงิน

ในที่สุดก็เป็นรูปเป็นร่าง จ๊าบเชียวนะ บ้านแบบสแกนดิเนเวียนโฮม น้ำเงินตัดขาว หนึ่งนอน หนึ่งน้ำ เคียงคู่กับเหลืองแจ๊ดตัดขาวที่เป็นห้องเก็บของบวกห้องน้ำแขก ประตูหน้าต่างห้องนอนดูหรูไฮ ทั้งหมดนี้ไม่ได้เสียเงินซื้อดอก หิ หิ ของเก่าเขาทิ้งให้ไว้ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประตูเปิดเข้าห้องนอนนั้นเริ่ดสะแมนแตน เป็นกรอบพีวีซี.อย่างหนาติดกระจกเท็กซเจอร์เป็นเกล็ดสีครามปนน้ำเงินดูคลาสสิก ภายในห้องติดกระจกเงากรอบขาวลวดลายแบบสแกนดิเนเวียนบนผนังที่ทาสีน้ำเงินอุลตร้ามารีน มองเงาสะท้อนในกระจกเห็นหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทะลุออกไปเห็นป่าปลูกสีเขียวที่ข้างนอก ทั้งหมดนี้ให้มองผ่านๆลวกๆแบบมองภาพเขียนอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม อย่ามองแบบเพ่งพินิจ เพราะมันเป็นโรงเก็บของ

กรอบกระจกเงาสีขาวสลักลายนิดๆ บนผนังสีน้ำเงินอุลตร้ามารีนบลู

ต้นตะเคียนคู่ดูจุ๋มจิ๋ม

พื้นดินเละๆหน้าบ้านนี้ทำเป็นสนามหญ้าเล็กๆดีกว่า หญ้าปลอมสมัยนี้ราคาถูก บ้านนี้หันหน้าตะวันออก เช้าๆกลัวว่าสนามหญ้าเล็กๆนี้จะร้อน จะปลูกกล้าไม้ป่าตรงนี้เอาร่มก็กลัวจะไม่ทันได้ร่มเพราะผมเองก็อายุปูนนี้แล้ว น่าจะยอมลงทุนซื้อไม้ล้อมขนาดใหญ่มาสักต้นจะได้ร่มเงาทันอกทันใจ คิดได้ดังนั้นแล้วก็ยกหูโทรศัพท์หาคนขายต้นไม้ที่นครนายกซึ่งผมเคยเป็นลูกค้าอุดหนุนเขา บอกสะเป๊คไปว่าผมต้องการไม้ล้อมใหญ่หน่อยได้ร่มเงาทันที ขนมาปลูกให้ที่เขาใหญ่ด้วย เหมาโหลงโจ้งเป็นราคาเท่าใด เขาตอบมาแบบไม่ต้องคิดว่า

ต้นตะเคียนคู่ดู๋ดี๋ ช่วยบังแดดที่จะส่องมาในอนาคต

“สามหมื่นครับคุณหมอ”

โห..ฟังแล้วแทบลมใส่ รีบตอบขอบคุณเป็นอันขาดก่อนวางหูแล้วเดินจ้ำอ้าวไปหาเศษต้นกล้าไม้ป่าที่เหลือจากการปลูกเมื่อเดือนที่แล้ว เจอกล้าตะเคียนเหลือรอดไอแดดอยู่สองต้น เอาตะเคียนนี่ละวะ ตะเคียนคู่ดูดีออก โตช้าแต่ว่าศักดิ์สิทธิ์นะทำเป็นเล่นไป ถึงสองตายายไม่ทันได้ใช้ร่มเงารุ่นหมอพอก็คงจะได้ใช้หรอกน่า สรุปว่าบ้านหลังนี้มีต้นตะเคียนคู่ขนาดจุ๋มจิ๋มทำหน้าที่กันแดดตอนเช้าที่จะส่องมาในอนาคตอยู่ที่หน้าบ้าน

นิสัยไม่ชอบทิ้งของ

ประตูไม้สักสีขาวเปิดไม่ได้ แค่แปะไว้แก้เลี่ยน

สร้างเสร็จแล้วยังเหลือบานประตูทรงแคบสูงมีเกล็ดทำด้วยไม้สักทั้งบานอีกหนึ่งบาน และบานกระจกสูงเดินลายโลหะทองเหลืองแบบบ้านฝรั่งอีกหนึ่งบาน ไม่รู้จะเอาไว้ตรงไหน จะไม่เอาก็เสียดาย บานเกล็ดไม้สักแท้ๆเก่าๆอย่างนี้จะหาไม่ได้อีกแล้ว

สมัยหมอพอยังเด็กผมเคยอ่านหนังสือเด็กให้เขาฟังเล่มหนึ่งเล่าว่าสามีออกจากงานมาเลี้ยงลูกให้เมียไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแทน สามีว่างงานนอนฟังเสียงลูกพลัมหล่นใส่หลังคาดังต๊องแต๊ง ต๊องแต๊ง จึงตั้งมิชชั่นในชีวิตว่าจะเอาลูกพลัมทุกลูกมาทำแยมไม่ให้เหลือทิ้งแม้แต่ลูกเดียว ผลก็คือปีนั้นทั้งปีทั้งลูกและเมียกินแยมลูกพลัมกัน.. อ๊วก ตอนนี้ผมก็มีอารมณ์เดียวกัน คืออยากใช้ประโยชน์จากของเก่าทุกชิ้นที่มีอยู่ให้หมดเกลี้ยง

“ประตูไม้สักนี้เอาแหมะเข้าไปบนผนังโล้นๆตรงข้างบ้านนี่แหละ” ช่างถามว่า

“แปะไว้ทำไมครับ เปิดก็ไม่ได้” ผมตอบว่า

“แปะไว้แก้เลี่ยน”

บานกระจกฝังลายดอกทองเหลือง แปะไว้ข้างประตูจริง

ส่วนบานกระจกประดับทรงสูงเดินลายทองเหลืองนั้นลองเอาทาบไว้ข้างหน้าต่างหน้าบ้านดูซิ..ไม่เอาดีกว่า ดูไม่ดี จะหน้าต่างก็ไม่ใช่ จะประตูก็ไม่เชิง ลองย้ายไปชิดกับประตูดูหน่อย อ้า ตรงนี้แหละ แปะไว้ตรงนี้เลย จ๊าบ..หลาย

เป็นอันว่าได้ใช้ประโยชน์จากสมบัติเก่าที่ผู้เช่าเดิมเขาทิ้งไว้ให้ครบหมดทุกชิ้นแล้ว

Creativity แท้จริงแล้วก็คือการสังเกต

โปรเจ็คสะแกนดิเนเวียนโฮมจบลงแล้ว หมอสันต์ทำโปรเจ็คนี้แล้วมีความสุขดี คงเป็นเพราะนอกจากจะได้ออกแรงอาบเหงื่อแล้วยังได้ใช้ creativity ในยามแก่ด้วย

เออ..แล้วมันคืออะไรหรือ creativity เนี่ย อยู่มาจนแก่ปูนนี้ผมสรุปเองเออเองว่า creativity มันไม่ใช่ความสามารถคิดอะไรใหม่เอี่ยมอ่องชนิดที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อนในจักรวาลนี้ดอก เพราะหัวเชื้อความพิศดารพันลึกในทุกมิติของชีวิตมันมีของมันอยู่ก่อนแล้วทั้งสิ้น creativity แท้จริงแล้วมันเป็นความสามารถในการสังเกตแง่มุมที่ละเอียดลึกซึ้งของสิ่งรอบตัวหรือสิ่งที่เคยเห็นแล้วจำได้บ้างไม่ได้บ้าง บางคนอาจสังเกตพบแง่มุมที่คนอื่นไม่ได้สังเกตพบ อาจจะมีการต่อยอดหรือ “โม่” เข้ากับประสบการณ์หรือวิธีคำนวณบวกลบคูณหารที่จดจำมาจากอดีตที่บ้างก็โผล่มาในรูปของความฝัน บ้างก็ในรูปของการปิ๊งไอเดียราวกับว่ามันเป็นของใหม่ แต่แท้จริงแล้วมันมีของมันอยู่แล้ว ใครจะช่างสังเกตมากกว่าใครเท่านั้นแหละ ดังนั้นการจะเป็นคนสร้างสรรค์หรือ creative นี้พื้นฐานสำคัญก็คือการช่างสังเกตอย่างเดียว แล้วก็ช่างบังเอิญ การสังเกต หรือ observation เป็นเครื่องมือหลักในการวางความคิดเดิมๆซ้ำซากวกวนนั่นเอง หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่ง creativity จะไม่เกิดขึ้นในหัวของคนที่มีแต่ความคิดเดิมๆคอนเซ็พท์เดิมๆซ้ำๆซากๆ เพราะเวลาจะสังเกตอะไรเราต้องทิ้งความคิดทั้งหมดไปอยู่ในความรู้ตัวที่ว่างๆเสียก่อน เส้นทางการวางความคิดและการเปิดรับ creativity จึงเป็นเส้นทางเดียวกัน

อ้าว ปลูกบ้านสะแกนดิเนเวียนโฮมอยู่ดีๆ ไหงมาไกลถึงการวางความคิดได้เนี่ย จบดีก่า หิ หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์