Latest

Hoarding Disorder โรคสะสมสมบัติบ้ารกบ้าน

คุณหมอสันต์ครับ

ผมแต่งงานมาสิบห้าปี ไม่มีลูก ผมมีปัญหาปรึกษาคุณหมอเรื่องภรรยาเธอซื้อเสื้อผ้ามากจนห้องนอนห้องหนึ่งใช้ไม่ได้เลยเพราะต้องใช้เก็บเสื้อผ้าแน่นขนัดและรกรุงรังจนเดินเข้าไปไม่ได้ต้องย้ายไปนอนห้องเล็กๆอีกห้องหนึ่ง ห้องครัวก็เหมือนกัน แค่ผมจะเดินเข้าครัวไปหยิบมีดปอกผลไม้ผมก็ลำบากแล้วเพราะข้าวของเครื่องใช้ในห้องครัวมันรกแบบรกรุงรังจนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน จนผมต้องมีมีดปอกผลไม้ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของผมเอง ผมเห็นคุณหมอทำโต๊ะห้องครัวเองถ่ายรูปมาให้ดูแล้วมันใช้งานได้หลากหลายแต่เป็นระเบียบเรียบร้อยน่าเอาอย่าง แต่ครัวบ้านผมมันตรงกันข้ามเลยครับ ของบางควรทิ้งเห็นๆเช่นปากกาลูกลื่นหมึกหมดแล้ว ตั๋วรถไฟเก่า ตั๋วเครื่องบินเก่า โบรชัวร์โฆษณาและจั้งค์เมล์ แต่อย่าไปทิ้งของเธอเข้าเชียวนะ จะเป็นเรื่อง ทำไมแฟนผมเป็นอย่างนี้ ผมจะทำอย่างไรดีครับ

เคารพนับถือครับ

…………………………………………………………………

ตอบครับ

1.. อาการที่ภรรยาคุณเป็นนี้ วงการแพทย์ถือว่าเป็นโรคๆหนึ่ง เรียกว่า hoarding disorder แปลว่า “โรคชอบเก็บสมบัติบ้ารกบ้าน” คนละอย่างกับพวกนักสะสมของเก่านะ พวกนั้นเก็บแต่ไม่รก คือจัดเรียงแบบเล่าเรื่องราวเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่โรคแบบภรรยาคุณนี้ต้องรกจึงจะเป็นของแท้ มนุษย์เราเป็นโรคนี้กันทุกคนมากบ้างน้อยบ้าง แต่หากมันมากจนรบกวนคุณภาพชีวิตและการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองหรือของคนใกล้เคียงก็สมควรต้องลงมือแก้ไข

2.. ถามว่าทำไม ม. ของคุณจึงเป็นโรคนี้ ตอบว่าเออ แล้วผมจะรู้ไหมเนี่ย แม้วงการแพทย์เองก็ยังไม่ทราบคือไม่ทราบสาเหตุ ไม่ทราบกลไกการเกิด และไม่ทราบวิธีรักษาโรคนี้ ทราบแต่ว่าโรคนี้มักพบร่วมกับอาการทางจิตเวชอื่นๆเช่น ซึมเศร้า (depression) ย้ำคิดย้ำทำ (OCD) สมาธิสั้น (ASD) ขี้กังวล (GAD) หรือเป็นโรคบ้าแบบชัดๆเหน่งๆ (schizophrenia) แต่บางครั้งก็มีเหตุชักนำเชิงสิ่งแวดล้อมเช่น รกมาแต่กำเนิด หมายความว่าเติบโตมาในบ้านที่ต้องรกจึงจะหาของเจอ หากไม่รกแล้วจะมีปัญหาหาของไม่เจอ บ้างก็เพราะร่างกายพิการทำให้เก็บข้าวของลำบาก บ้างก็สมองเสื่อมทำให้ไม่มีปัญญาจะจัดหมวดหมู่ข้าวของ บ้างก็อยู่คนเดียวจึงไม่ยี่หระอะไรมาก บ้างก็โสดถาวรไม่แต่งงาน บ้างตอนเด็กอยากมีแล้วไม่มี (เช่นตุ๊กตา) พอโตขึ้นมีเงินซื้อก็มีซะเต็มบ้านเพื่อประชดอดีต บ้างชอบผูกเรื่องราวชีวิตสัมพันธ์กับของที่เก็บ บ้างเป็นพันธ์สุนทรียะเว่อร์วังคือเห็นอะไรก็สวยไปหมดทิ้งไม่ได้จึงเก็บไว้หมด บ้างเป็นโรคเก็บสมบัติบ้าชนิดพันธุกรรม คือพ่อหรือแม่เป็นก่อนแล้วลูกจึงเป็น

พูดถึงพันธุกรรม มันอาจฝังแฝงมานานในสายวิวัฒนาการอันไกลโพ้นแล้วก็ได้ เพราะสัตว์ก็เป็นโรคนี้ นานมาแล้วมีหมาจรจัดมาอาศัยผมอยู่ตัวหนึ่ง ผมตั้งชื่อว่าเจ้าโมเช่ เพราะขนรอบตาข้างหนึ่งของมันเป็นสีดำเหมือนเอาผ้าปิดตาปิดไว้ข้างเดียวแบบนายพลโมเช่ ดายัน ผู้นำอิสารเอลสมัยก่อน เจ้าโมเช่นี้เป็นโรคบ้าเก็บสมบัติ ให้อะไรอร่อยๆมันกินมันจะกินครึ่งเดียวแล้วเอาอีกครึ่งไปฝังดินกลบไว้แล้วเอาตีนหน้าปั๊มดินเป็นตราอายัดห้ามเปิดไว้ ผมแอบสังเกตดูพบว่ามีน้อยครั้งมากที่มันจะนึกขึ้นได้แล้วมาขุดของที่ฝังไว้ไปใช้ ทั้งชีวิตมันจึงมีแต่เก็บ เก็บ และเก็บ

3.. ถามว่าจะรักษาโรคชอบเก็บสมบัติบ้าอย่างไร ตอบว่าไม่ทราบครับ เพราะวิชาแพทย์ยังไม่พบวิธีรักษา ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือการทำจิตบำบัดแบบ CBT (cognitive behavior therapy) ซึ่งต้องพบกับนักบำบัดบ่อยๆนานหลายเดือนหรือหลายปี รักษากันไปด้วยการพูดคุย ภาพใหญ่คือพูดให้คิดใหม่ทำใหม่ ของจริงมีรายละเอียดแยะ รู้สึกผมจะเคยเขียนถึง CBT ในบล็อกนี้ไปแล้ว วันนี้ขอไม่เจาะลึกดีกว่า อีกอย่างหนึ่งเมืองไทยยังมีนักจิดบำบัดแนวนี้อยู่น้อยมาก ถ้าไปหาจิตแพทย์โดยตรงเขาก็มักจะให้กินยาควบกับการพูดคุยไปด้วย การรักษาทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง อย่างที่ผมบอกแล้ว วิธีรักษามาตรฐานยังไม่มีใครค้นพบ

วิธีของหมอสันต์คือให้ตั้งใจฝึกสติสมาธิวางความคิดลูกเดียว เพราะความอยากซื้ออยากสะสมเป็นความคิด หากวางความคิดเป็น ความอยากซื้ออยากสะสมก็จะถูกวางลงไปเอง วิธีของหมอสันต์นี้มีข้อจำกัดตรงที่ว่าต้องใช้โดยเจ้าตัวเท่านั้น จะให้คนอื่นใช้แทนตัวเองมันไม่ได้ ในกรณีของคุณนี้ ตัวคุณไม่ได้บ้าซื้อบ้าเก็บ แต่ภรรยาบ้าซื้อบ้าเก็บ ดังนั้นถ้าคุณแนะนำชักชวนให้เธอฝึกสติสมาธิแล้วเธอไม่เอาด้วยก็..จบข่าว หิ..หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์