Latest

ความตายคือการสิ้นสุดของทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นความคิด

(ภาพวันนี้ / ไปบูรณะป่าปลูกมิยาวากิที่เขาใหญ่ ก่อนจะเข้าฝนที่สาม)

เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ

หนูยังอยู่ในไอซียูที่ … ยังดูคลิปคุณหมออยู่ แต่คงอยู่ดูได้อีกไม่นาน

อยากให้คุณหมอสอนหนูถึงการตายหน่อยค่ะ

……………………………….

ตอบครับ

จดหมายที่เขียนมาตอนกำลังพะงาบอยู่ในไอซียู.ทำนองลาตายผมได้รับมาหลายฉบับแล้ว แต่ท้ายที่สุดคนเขียนก็มักไม่ตาย ส่วนคนที่ตายไปจริงๆนั้น ไปโดยไม่มีโอกาสได้เขียนมาร่ำลา บางรายก็สั่งเสียคนใกล้ชิดว่าฝากลาหมอสันต์ด้วย คุณเขียนมาก็ดีแล้ว ผมจะถือโอกาสนี้คุยเรื่องการตายกับคุณอย่างเต็มปากเต็มคำ

ความตายคือการสิ้นสุดของทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นจากความคิด หรือที่เราเรียกว่า “ตัวตน” หรือ “อีโก้” ไม่ว่าจะเป็นร่างกายนี้ ชื่อ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ ความยึดถือเกี่ยวพันธ์ใดๆทั้งกับบุคคล ลูก สามี สิ่งของ และสิ่งที่คนสมมุติขึ้นร่วมกันเช่นปริญญา หนังสือแต่งตั้ง โฉนดที่ดิน บัญชีธนาคาร เป็นต้น สิ้นสุดไปหมด จบแบบไม่เหลืออะไรเลย ข้อสรุปทั้งหมดนี้ไม่ต้องอาศัยประสบการณ์พิศดารอะไรถึงจะรู้ได้ ใครๆก็สามารถคิดอนุมาณเอาตามตรรกะของเหตุผลและมาถึงข้อสรุปนี้ได้โดยไม่ยาก

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือความตายคือการจบสิ้นไปอย่างเด็ดขาดของความคิดยึดถือในตัวตน

ถามว่า..แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเมื่อเราตายแล้วจะมีชิ้นส่วนหรือเศษซากอะไรของชีวิตนี้ยังคงเหลืออยู่ไหม

ตอบว่า..ถ้าเราทำให้ความคิดยึดถือในตัวตนของเราจบสิ้นไปอย่างเด็ดขาดเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่ใช่รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน ให้ความคิดยึดถือมันจบไปทันทีเดี๋ยวนี้เลยแม้ในขณะที่ร่างกายนี้ยังหายใจได้อยู่ เราก็พอจะรู้ได้ว่าเมื่อเราตายไปจริงๆแล้ว ส่วนใดของชีวิตจะเหลืออยู่ หากใครอยากรู้ก็ต้องทำให้ความคิดยึดถือในตัวตนจบสิ้นไปอย่างเด็ดขาดด้วยตัวเองก่อน แล้วก็จะรู้ได้ การจะทำตรงนี้ไม่มีใครทำแทนใครได้ จึงไม่มีใครจะเนรมิตรให้ใครรู้จักความตายได้นอกจากตัวของเขาเอง แต่ข้อที่น่ายินดีก็คือการจะทิ้งความคิดยึดถือในตัวตนไปเสียในทันทีเดี๋ยวนี้เลยนั้นมันทำได้ ทำได้แบบไม่ยากด้วย ถ้ายากนักก็ใช้เครื่องมือวางความคิดต่างๆที่ผมพูดถึงบ่อยมากเข้ามาช่วย

ถามว่า..บอกล่วงหน้าหน่อยได้ไหมว่าตายไปแล้วจะมีอะไรเหลืออยู่ ตอบว่าผมอาจจะบอกคุณได้ด้วยภาษา ซึ่งก็เป็นแค่ “ขี้ปาก” ของผมไม่ใช่ประสบการณ์จริงของคุณ ว่าเมื่อหมดความคิดยึดถือในอัตตาแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่คือความรู้ตัว (consciousness) แต่คุณต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่ความรู้ตัวของคุณคนเดียวนะ ตรงนี้สำคัญ เมื่อหมดความคิด แปลว่าคุณคนเดียว (individual) ไม่มีอีกต่อไปแล้ว มันเป็นความรู้ตัวร่วมกันหรือพูดอีกอย่างว่าแก่นกลางของทุกชีวิตมันเป็นสิ่งเดียวกัน ผมไม่สามารถอธิบายให้คุณเห็นคล้อยตามได้ดอก ดังนั้นผมจึงบอกว่ามันเป็นแค่ “ขี้ปาก” ของผม

แต่ผมอาจอธิบายได้ข้างๆคูๆว่าเมื่อความคิดยึดถือหรือแบ่งแยกตัวตน (identity) ของเราหมดไปแล้ว สิ่งที่จะเหลืออยู่คือ (1) ความตื่นที่ยังสามารถรับรู้อะไรได้ (alertness) (2) ความสงบ (peace) ที่ปลอดการคิดดิ้นรนไขว่คว้าหรือขยับหนี (3) ความเมตตาที่ไร้ขอบเขต (compassion) และ (4) ความเบิกบาน (joyful) จากการได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตอื่น ซึ่งตรงนี้คนทั่วไปทุกคนก็อาจรับรู้สัมผัสได้ยามใดก็ตามที่อัตตาของเขาหายไปแม้จะเพียงชั่วคราว

เพียงชั่วคราวนี่แหละที่ผมอยากให้คุณซึ่งใกล้จะตายอยู่แล้วให้ความสำคัญ และขยันวางความคิดยึดถือในตัวตนเพื่อเข้าไปอยู่ในนั้นให้ได้เนืองๆ เพราะแค่แว้บเดียวที่คุณได้สัมผัสกับภาวะที่ความคิดยึดถือถูกทิ้งไปหมด ได้สัมผัสกับความตื่นและสามารถรับรู้ที่สงบ เมตตาธรรม และเบิกบานนี้ คุณจะเก็ทได้เองทันทีว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะคงเหลืออยู่ในโมเมนต์ที่คุณตายจริงๆคือหยุดหายใจ และการเก็ทด้วยตัวเองแบบนี้มันจะทำให้คุณมองความตายว่าเป็นอีกแค่ประสบการณ์หนึ่งที่จะผ่านการรับรู้และสังเกตของคุณในฐานะความรู้ตัวที่ไม่มีความยึดถือในอัตตามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมันจะเป็นการตายที่น่ารื่นรมย์

การตายก็เหมือนการออกเดินทาง (trip) งานวิจัยที่มหาลัยจอห์น ฮอพคินส์ พบว่าเมื่อให้ยากดสมองชื่อ psilocybin แบบเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆกับพวกนักปฏิบัติธรรม ขณะที่ขนาดยาสูงขึ้นๆ คลื่นสมองก็แผ่วลงๆ แต่ความรู้ตัวกลับแจ่มชัดขึ้น และประสบการณ์ออกทริปของแต่ละคนก็แตกต่างกัน คือ 33 %เป็นพวกที่ออกทริปโดยยังมีความคิดกลัว กังวล ระแวง พันแข้งพันขาอยู่ ก็จะได้ไปทัวร์แบบ bad trip มีประสบการณ์ที่น่าเข็ดขยาด ส่วนอีก 67% เป็นพวกที่ออกทริปโดยวางความคิดได้เกลี้ยงเกลาก็จะได้ไปทัวร์แบบ good trip และได้รับประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับการฝึกฝนปฏิบัติธรรมของตนเองต่อไป

ดังนั้นคุณต้องเตรียมตัวออกทริปโดยวางความคิดยึดถือในตัวตนไปให้หมดเสียเดี๋ยวนี้ แล้วคุณจะได้ไป good trip

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

  1. Griffiths RR, Richards WA. et al. Psilocybin can occasion mystical-type experiences
    having substantial and sustained personal meaning and spiritual significance. Psychopharmacology. DOI 10.1007/s00213-006-0457-5
  2. Griffiths RR, Johnson MW, Richards WA, Richards BD, McCann U, Jesse R. Psilocybin occasioned mystical-type experiences: immediate and persisting dose-related effects. Psychopharmacology (Berl). 2011 Dec;218(4):649-65. doi: 10.1007/s00213-011-2358-5. Epub 2011 Jun 15. PMID: 21674151; PMCID: PMC3308357.