Latest

ไวรัสตับอักเสบบี.ติดต่อผ่านน้ำลายและช้อนซ่อมถ้วยชามของใช้ได้ไหม

สวัสดีค่ะคุณหมอ
ตอนนี้หนูอายุ 27 ปี กำลังเรียนสาขาคหกรรมศาสตร์ด้านอาหารและโภชนาการ
เรื่องแรกที่อยากสอบถามคืออาจารย์เล่าเรื่องของรุ่นพี่ที่ได้รับโอกาศให้ไปทำงานต่างประเทศ แต่ไม่ได้ไปเพราะตรวจร่างกายแล้วพบว่าเป็นไวรัสตับอีกเสบบี. ตัวหนูเองไม่เคยได้รับการตรวจหรือฉีดวัคซีนมาก่อนเลยอยากทราบว่า ควรตรวจไวรัสตับอักเสบชนิดไหนบ้างคะ
    เรื่องที่สองคือ การติดต่อของไวรัสตับอีกเสบบีว่าติดต่อทางไหนบ้างเพราะเข้าไปหาข้อมูลบางเว็บไซต์บอกติดต่อทางน้ำลาย บางเว็บไซต์ก็บอกว่าติดเฉพาะทางเลือด สารคัดหลั่ง ทางเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ติดต่อทางน้ำลาย พอดีญาติของเพื่อนป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีแล้วคุณหมอให้คำแนะนำการใช้ชีวิตโดยบอกว่า ห้ามใช้ช้อนส้อม แก้วน้ำ ของใช้ต่างๆรวมกัน ขณะที่หมออีกคนว่าไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องแยก (คุณแม่ตอนสาวๆได้บริจาคเลือดแล้วมีจดหมายแจ้งว่าพบไวรัสตับอักเสบบีในเลือดแต่คุณแม่ไม่ได้ไปรับการรักษาใดๆ เมื่อปลายปีที่แล้วพี่ชายไปตรวจเลือดพบว่าเป็นไรรัสตับอักเสบบีแบบเรื้อรังตอนนี้กำลังรักษาอยู่)
                                                                                                                                ขอบคุณค่ะ

………………………………………………………….

ตอบครับ

     ผมทิ้งบล็อกไปสิบวัน เพราะมีแค้มป์สุขภาพติดต่อกันทุกวัน แค้มป์ทำอาหาร แล้วก็มาแค้มป์ปลีกวิเวกทางจิตวิญญาณ (Spiritual Retreat) ติดต่อกันอีกห้าวัน แล้วตบท้ายด้วยแค้มป์พลิกผันโรคด้วยตนเองอีกสองวัน อุตลุตมาก ไม่เหนื่อย สนุกดี คือได้ทำอะไรให้คนอื่นแล้วรู้สึกดี เสียแต่ว่าไม่มีเวลาตอบคำถามทางบล็อก เพิ่งเสร็จวันนี้เอง ตั้งใจจะนอนเอาแรง ดังนั้นผมขอตอบคุณเพียงประเด็นเดียวนะ คือประเด็นที่ว่าไวรัสตับอักเสบบี.นี้ติดต่อทางน้ำลายได้จริงหรือไม่จริง

     ประเด็นที่ 1. ในน้ำลายคนป่วยนั้นมีเชื้อไวรัสบี.อยู่ไหม ตอบว่ามีอยู่แน่นอน อันนี้มีหลักฐานจากการเอาน้ำลายผู้ป่วยมาตรวจวิเคราะห์ในแล็บ ทั้งน้ำลายคนป่วย น้ำลายลิงป่วย ก็ได้ผลบวกเช่นกัน

     ประเด็นที่ 2. เชื้อไวรัสบี.ในน้ำลายนี้ีมีอิทธิฤทธิ์ติดต่อไปยังผู้อื่นได้ไหม ตอบว่ามีอิทธิฤทธิ์ที่จะติดต่อไปยังผู้อื่นได้แน่นอนอย่างน้อยก็ในลิง เพราะมีงานวิจัยทำให้ลิงป่วยเป็นตับอักเสบไวรัสบี. แล้วเอาน้ำลายของลิงนั้นไปฉีดเข้าใต้ผิวหนังของลิงตัวอื่น พบว่าลิ่งตัวอื่นๆก็ป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบี.ตามไปด้วย ส่วนในคนไม่เคยมีการวิจัยแบบนี้

     แต่มีข้อสังเกตอีกประการหนึ่งในงานวิจัยลิงนี้ คือเมื่อเอาน้ำลายลิงป่วยไปยัดเยียดใส่ในปากของลิงอีกตัวหนึ่ง พบว่าลิงตัวที่สองไม่ได้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีตามไปด้วย

     ประเด็นที่ 3. ในคนมีหลักฐานว่าเชื้อไวรัสบี.แพร่ไปทางน้ำลายได้ไหม ตอบว่าหลักฐานเหน่งๆที่พิสูจน์ได้จะๆยังไม่มี มีรายงานผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ตอนลูกเกิดออกมาใหม่ๆไม่ได้เป็นไวรัสตับอักเสบบี. ภายหลังเมื่อแม่ซึ่งเป็นตับอักเสบไวรัสบี.เคี้ยวอาหารแล้วเอาอาหารที่เคี้ยวแล้วนั้นไปป้อนให้ลูก ต่อมาลูกนั้นก็ป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบี. แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าติดจากทางการเคี้ยวอาหารแล้วป้อนลูกหรือติดผ่านวิธีอื่น (เช่นการสัมผัสแลกเปลี่ยนน้ำเหลืองโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น)

     ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งความพยายามจะวิจัยว่ามีการติดเชื้อผ่านกินอาหารในภาชนะเดียวกัน หรือใช้ข้าวของเครืื่องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ช้อน ซ่อม แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งการจูบ ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าเคยมีใครตัวเป็นๆติดเชื้อผ่านวิธีเหล่านี้เกิดขึ้น (ย้ำว่าจูบเฉยๆนะ ไม่ใช่กัด เพราะมีรายงานว่าผู้ป่วยตับอักเสบไวรัสบี.กัดแล้วทำให้ผู้ถูกกัดติดเชื้อได้)

     นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหมอสองคนพูดไม่เหมือนกัน หมอคนที่บอกว่าไวรัสบี.ติดเชื้อทางน้ำลายได้ เขาคงใช้ข้อมูลงานวิจัยพบเชื้อในน้ำลาย และงานวิจัยฉีดน้ำลายเข้าใต้ผิวหนังในลิงแล้วลิงติดเชื้อ ส่วนหมอคนที่พูดว่าไวรัสบี.ติดเชื้อทางน้ำลายไม่ได้ เขาคงใช้ข้อมูลจากการวิจัยหาผู้ติดเชื้อผ่านการจูบและการใช้ข้าวของเครื่องใช้ร่วมกันที่สรุปว่าไม่พบว่ามีการติดเชื้อผ่่านวิธีเหล่านี้

    ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเราไปมองสถิติการติดเชื้อในภาพใหญ่จะพบว่าคนที่อยู่ในบ้านซึ่งมีคนมีเชื้อไวรัสบี.อยู่ด้วยมีอุบัติการณ์เป็นโรคตับอักเสบจากไวรัสบี.สูงขึ้้น 14-60% ทั้งนี้จากการคลุกคลีตีโมงกันทุกรูปแบบไม่เฉพาะการมีเซ็กซ์เท่านั้น เช่นเด็กที่อยู่ในบ้านที่มีผู้ใหญ่เป็นโรคนี้ก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าเด็กทั่วไปด้วย ผู้ใหญ่ที่ไปรับเด็กป่วยโรคนี้มาเป็นบุตรบุญธรรมก็มีโอกาสเป็นโรคมากขึ้นด้วย ส่วนจะผ่านทางน้ำลายบ้างหรือเปล่านั้น..ไม่ทราบ

       ประเด็นที่ 4. เชื้อไวรัสบี.มันสิงสู่อยู่ตามของใช้เช่นแก้วน้ำหรือแปรงสีฟันได้นานแค่ไหน ตอบว่าเชื้อไวรัสบี.อยู่นอกร่างกายในสภาพแห้งๆตามข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 7 วัน

     กล่าวโดยสรุป ในน้ำลายของผู้ป่วยมีเชื่อไวรัสบี.อยู่ และเชื้อนี้หัวแข็งทดแดดทนฝนอยู่ข้างนอกได้ถึง 7 วัน แต่งานวิจัยการจูบก็ดี การใช้ข้าวของเครื่องใช้เช่น ช้อน ซ่อม จาน แก้วน้ำ ร่วมกันก็ดี กลับไม่พบว่ามีการแพร่เชื้อผ่านทางนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผมแนะนำในมุมการป้องกันโรคว่าจะไปเสี่ยงมันทำไมละครับ ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกันก็ฉีดวัคซีนเสีย และการใช้ช้อนกลางเวลาทานอาหารร่วมกันก็ตัดกังวลว่าเชื้อมันจะมาทางน้ำลายได้หรือไม่ได้ไปอย่างเด็ดขาดแบบง่ายๆเลย

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
   
บรรณานุกรม
1. Scott RM, Snitbhan R, Bancroft WH, Alter HJ, Tingpalapong M. Experimental transmission of hepatitis B virus by semen and saliva. J Infect Dis. 1980 Jul;142(1):67-71.
2. MacQuarrie MB, Forghani B, Wolochow DA. Hepatitis B transmitted by a human bite. JAMA 1974;230:723–4.
3. Bond WW, Favero MS, Petersen NJ, Gravelle CR, Ebert JW, Maynard JE. S Bernier RH, Sampliner R, Gerety R, Tabor E, Hamilton F, Nathanson N. Hepatitis B infection in households of chronic carriers of hepatitis B surface antigen: factors associated with prevalence of infection. Am J Epidemiol 1982;116:199–211.
4. Survival of hepatitis B virus after drying and storage for one week. Lancet 1981;1(8219):550–1.
5. Nordenfelt E, Dahlquist E. HBsAg positive adopted children as a cause of intrafamilial spread of hepatitis B. Scand J Infect Dis 1978;10:161–3.
6. Franks AL, Berg CJ, Kane MA, et al. Hepatitis B virus infection among children born in the United States to Southeast Asian refugees. N Engl J Med 1989;321:1301–5.