COVID-19

โลกจากนี้เป็นต้นไปจะไม่เหมือนเดิมแล้ว

Your Name :
Phone Number:
Your Question:
หนูมีคำถามที่อยากรบกวนถามคุณหมอนะคะ
(1) อยากถามเรื่อง herd community ค่ะ ร่างกาย สามารถ สร้างภูมิคุ้มกันเอง เพื่อกำจัด โควิด-19 ได้ (จริง)? หรือเรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดคะ
(2) หนูอยากขอถาม เรื่อง วัคซีน ค่ะ ตอนนี้ ยังไม่มีใคร คอนเฟิร์มว่า จะสามารถมีวัคซีน ได้ ในเร็วๆนี้ หรือ โรคนี้ จะมีวัคซีนที่รักษา ได้ชัวร์ๆ ใช่ไหมคะ
คือตอนนี้ หนูบอกคุณพ่อว่า หนูน่าจะตกงานอีกนาน อย่างน้อย จนกว่า จะมีวัคซีนรักษาโควิด หรือ จนกว่าโควิด จะหายไปเอง โดยการ social distancing ซึ่งแย่สุด อาจจะต้องรอทำงานเป็นปี
หนูทำงานเป็นทันตแพทย์ค่ะ (ทันตแพทย์เอกชน) ที่เพิ่งทำงานได้ไม่นานเท่าไหร่
ตอนที่หนูบอกคุณพ่อว่า หนูคิดว่า จะต้องทำอาชีพเสริมแล้ว คุณพ่อไม่เชื่อเรื่องที่เล่า และบอกให้รอเวลา (คือ อยู่บ้านเฉยๆ และ ห้ามทำอะไร) หนูไม่รู้ว่า หนูมองโลกแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า แต่ก็กลัวว่า จะตกงานยาวๆ และไม่อยากพึ่งพ่อแม่ เพราะทั้งสองคน ก็อายุมากแล้วค่ะ (ตอนนี้ คุณแม่กำลังรักษามะเร็งด้วยค่ะ)
เลยอยากขอความเห็นคุณหมอ เรื่อง โควิด นะค่ะ เพื่อ ประกอบการวางแผนในอนาคตค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ คุณหมอ
จดหมายของหนู อาจจะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายสักเท่าไหร่ แต่ด้วยที่ ประสบการณ์ในชีวิตยังน้อย เลยอยากขอความเห็นจากคุณหมอนะค่า
ขอบคุณอีกครั้ง ถ้าอ่านจดหมายนี้นะคะ ????
ด้วยความเคารพค่ะ
ปล. หนูชอบอ่านที่คุณหมอ ตอบ จดหมาย ของท่านอื่นมากๆค่ะ เป็นประโยชน์กับชีวิตค่ะ

……………………………………………………….

ตอบ

จดหมายของออกแนวไร้สาระ แต่ผมตอบให้เพราะคุณเป็นทันตแพทย์ ซึ่งเป็นคนทำงานในสายรพ.รุ่นหนุ่มสาวที่ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพวกเดียวกัน

     1. ถามว่า herd immunity นี้คือร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด19 ได้เองจริงหรือ ตอบว่าคุณเข้าใจชีวิตผิดไปจังเบอร์แล้ว โทษใครไม่ได้นอกจากหมอด้วยกันเองขยันอธิบายอะไรกันแบบสองแง่สองง่ามทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด เรื่องจริงคือ herd immunity แปลว่าโอกาสติดโรคของคนในฝูงชนจะลดลง ถ้าสมาชิกของฝูงชนนั้นจำนวนมากได้ติดโรคแล้วแต่ยังไม่ตาย คนที่ติดโรคแล้วนี้ซึ่งมีภูมิคุ้มกันแล้วจะช่วยเป็นเกราะบังไม่ให้โรคมาถึงตัวคนที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันให้มีโอกาสติดโรคน้อยลง สมมุติเช่นเมืองไทยมีคนติดโรคไปแล้ว 80% ส่วนใหญ่หาย ส่วนน้อยตาย แต่ตัวคุณเองไม่เคยติดโรคไม่มีภูมิคุ้มกัน พอคุณเปิดคลินิกทำฟันใหม่ คนไข้ที่มาหาคุณ 80% เขามีภูมิคุ้มกันแล้ว พวกเขาก็จึงไม่เอาโรคมาติดคุณ นี่เรียกว่าคุณได้อานิสงจาก herd immunity

      herd immunity เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในแง่ของการระบาดของโรคในฝูงชน และเป็นเหตุผลที่วงการแพทย์มุ่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดแต่ก็ยอมปล่อยคนดื้อที่ไม่เอาวัคซีนไว้โดยไม่บังคับฉีด เพราะเมื่อคนที่ไม่มีภูมิถูกแวดล้อมด้วยคนที่มีภูมิ โอกาสที่เขาจะติดโรคก็แทบไม่มี แต่การจะเอาคอนเซ็พท์นี้มาใช้ในกรณี COVID-19 ก็เท่ากับว่าเราเอาโรคมาทำหน้าที่แทนวัคซีน คือยอมให้คนตายไปส่วนหนึ่งเพื่อการนี้ก่อน คุณจึงจะได้อานิสง เข้าใจมะ

     2. ถามว่าจะมีใครคอนเฟิร์มได้ไหมว่าจะมีวัคซีนโควิด19 ในเร็วๆนี้ ตอบว่าคนที่จะคอนเฟิร์มได้ผมเห็นมีอยู่คนเดียว คือหมอหยอง น่าเสียดายที่เขาไปสวรรค์เสียแล้ว (หิ หิ ขอโทษ พูดเล่น) คำตอบที่แท้จริงคือไม่มีใครรู้หรือคอนเฟิร์มให้คุณได้หรอกว่าวัคซีนจะออกได้เมื่อไหร่ อาจไม่มีเลยก็ได้อย่างเช่นไวรัสเอดส์และไวรัสไข้เลือดออกซึ่งก็เป็นไวรัสที่มาจากสัตว์เหมือนกัน ผ่านไปหลายสิบปีก็ยังไม่มีวัคซีนใช้ คนที่พูดว่าจะได้เมื่อนั้นเมื่อนี้ล้วนเดาเอาทั้งนั้น แต่อย่ามาถามหมอสันต์นะ เรื่องเดานี่หมอสันต์ไม่ถนัด

    3. ถามว่าเรื่องงานอาชีพจะต้องทำอาชีพเสริมดีไหม เพราะไม่อยากตกงานนาน ตอบว่าโลกจากนี้เป็นต้นไปจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ในทางเศรษฐกิจอย่าไปหวังเกาะเงินหรือเกาะนายจ้างว่าจะเป็นสรณะเป็นที่พึ่ง เพราะจากนี้ไปเงินไม่ใช่ความมั่นคงของชีวิตอีกต่อไปแล้ว ในแง่ของธุรกิจการงาน จากนี้ไปมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว อะไรที่เคยยึดเป็นอาชีพได้ก็จะไม่ได้ เพราะความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นเมื่อมาเกิดขึ้นอย่างเช่นโควิด19 นี้ จะทำให้นิสัยการบริโภคและการใช้ชีวิตของผู้คนทั้งโลกนี้เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจและอาชีพการงานผลัดกันล่มสลายและผลัดกันเกิดใหม่ตลอดเวลา อาชีพบางชนิดจะกลายเป็นเพียงอดีต ดังนั้นอาชีพจะยึดเป็นสรณะไม่ได้เลย อย่าไปปักใจว่าตอนนี้มีอาชีพนี้มีนายจ้างนี้ต้องเกาะไว้ให้แน่น ไม่มีประโยชน์ เพราะทั้งอาชีพ ทั้งนายจ้าง ล้วนเปลี่ยนแปลงได้ จะไปหลงยึดเกาะไม่ได้ ให้คุณถอยไปตั้งหลักแบบตีนติดดินอยู่ที่ความจำเป็นพื้นฐานสี่อย่าง คือ (1) มีบ้านอยู่ ไม่ต้องเช่าเขา (2) มีอาหารกิน ถ้าปลูกกินเองให้ได้มากที่สุดยิ่งดี (3) มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี (4) ลงมือใช้ชีวิตไปทีละขณะในแนวที่เราชอบให้เต็มศักยภาพที่เรามีให้ชีวิตมีความสุขและมีประโยชน์ต่อโลกต่อคนอื่น ชีวิตเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต อย่าไปมัววิ่งตามหาเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง การยอมรับ หรือความมั่นคงในชีวิตจนลืมใช้ชีวิตแล้วก็ตายไปโดยที่ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิต ให้คุณหมอมีชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเอง เพิกเฉยต่อค่านิยมไร้สาระที่จะทำให้เราเป็นทุกข์ เลิกการวิ่งตามคนอื่นอย่างฝูงวัวที่วิ่งตามกันไปอย่างไม่รู้จะไปจบที่ไหนเสีย ชีวิตคนเรานี้ตราบใดที่มีพื้นฐานชีวิตที่ติดดินมั่นคงสี่ประการข้างต้น ชีวิตไม่มีล้มเหลวไม่ว่าข้างนอกจะเกิดอะไรขึ้น มีแต่ความสนุกสนานจากการเรียนรู้ในสิ่งที่คาดไม่ถึงมาก่อน นี่แหละคือการใช้ชีวิต..”

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์