Latest

เป็นมะเร็งชนิด SNUC แล้วข้องใจเรื่องการกินปลา กินนม กินไข่

เรียนหมอสันต์ที่นับถือ

ผมเป็นนักเรียน GHBY รุ่นปี 2018 ในตอนนั้นไปเข้าแคมป์เนื่องจากต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง อันเนื่องมาจากออฟฟิศ ซินโดรม คือนั่งนาน พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลัง หลังจากเข้าแคมป์ ก็ปรับตารางการใช้ชีวิต มีการออกกำลังกายทุกเย็น นอนให้ตรงเวลา แต่ยังไม่ได้ปรับอาหารการกิน ยังคงกินเนื้อสัตว์ปกติ อาการของต่อมลูกหมากก็ค่อยๆดีขึ้น และหายไปหลายปี

ปีนี้เนื่องจากมีโปรเจคที่ทำงานเยอะ ทำให้ไม่ได้ทำตามตารางการออกกำลังกาย นับครั้งสุดท้ายที่ออกวิ่งคือ เดือนมีนาคม 2565 ประมาณเดือน พค 2565 มีอาการ ภูมิแพ้ขึ้น จากที่ไม่เคยต้องกินยาแก้แพ้ กลายมาต้องกินทุกๆ 4-5 วัน หากไม่กิน จะมีอาการเป็น ผื่นลมพิษ ทั่วตัวขึ้น ทายาไม่หาย แต่ถ้ากินยาจะค่อยหายอย่างรวดเร็วภายในเวลา 30 นาที ประมาณ ต้นเดือน มิย มีอาการแน่นจมูก หายใจติดขัด เหมือนมีน้ำมูกคั่งในโพรงจมูกข้างซ้าย ถ้านอนคว่ำ เหมือนมีถุงน้ำพริ้วในจมูก ลุกมาสั่งน้ำมูกไม่ออก ล้างจมูกดันน้ำเกลือเข้าข้างขวา แต่โพรงตัน น้ำไม่ไหลออก จวบจนเช้าวันที่ 23 มิย 2565 มีเลือดกำเดา ไหลออกทางจมูกข้างซ้าย ความรู้สึกเหมือน ถุงซี้ดแตก น้ำที่ไหลออกมาเป็นสีแดงหยดเร็วๆ ไม่ใช่การไหลแบบซึมๆ จากนั้นจมูกโล่ง หายใจได้ปกติ แต่มีติดขัดที่คราบเลือดค้างในจมูก จึงไปพบแพทย์ ENT ในวันที่ 23 มิย 2565 บ่ายวันนั้น คุณหมอ …ส่องกล้องดูแล้ว เหมือนมีก้อนเนื้อค้างในจมูก จึงทำการนัด Biopsy ในวันถัดไป บ่าย วันที่ 24 มิย 2565 คุณหมอ … แจ้งก่อนจะหนีบเนื้อเพื่อเก็บตัวอย่างว่าจะมีเลือดไหลเยอะ แต่ตอนที่เก็บตัวอย่างจริง คุณหมอ … แจ้งว่าเหมือนหนีบโดนก้อนเลือดแห้ง ได้ตัวอย่างประมาณ 0.5 cm ไม่มีเลือดไหลเพราะไม่โดนเนื้อเยื่อจมูก แต่ในจังหวะที่หนีบออกมา ผมได้รู้สึกว่ามีก้อนในจมูกค่อยๆ ไหลย้อนลงคอ สัมผัสจากคอ วัดขนาดคร่าวๆประมาณ 1-2 นิ้ว คุณหมอ…ให้คายออกมา แต่ผมทำหลุดลงคอไป เอาออกมาไม่ได้ จากนั้นคุณหมอรุ้งได้ทำการส่องกล้องเพื่อดูว่า อะไรหลุดออกไป พบว่าก้อนเลือดที่ค้างเมื่อกี้ หลุดหายไปแล้ว ในโพรงจมูกไม่มีก้อนเนื้อเหลือ ผนังโพรงจมูกเรียบปกติ แต่มีลักษณะบวมนิดหน่อย ให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน+ยาพ่น อวามิส

วันที่ 1 กค 2565 ผลชิ้นเนื้อออก ทางแลป แจ้งว่าเป็นเนื้องอกเส้นเลือด ขอทำการย้อมสีเพื่อตรวจเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเก็บชิ้นเนื้อใหม่ วันที่ 10 กค 2565 ผลการทำ อิมมูโนฮิสโตเคมี แจ้งว่า AE1/AE3 เป็น positive สรุปผลเป็น SNUC ผมติดงานที่ต่างประเทศ กลับมาฟังผลวันที่ 29 กค 2565 คุณหมอ … ทำเรื่องส่งเคสต่อ

ผมเข้าตรวจเพิ่มเติม พร้อมกับทำ CT scan ในเย็นวันนั้น 29 กค 2565 ผล CT คือไม่พบก้อนเนื้อที่โพรงจมูกหรือไซนัส แต่พบว่ามีอาการบวมน้ำนิดหน่อย คุณหมอ … แนะนำว่าเคสนี้ควรเข้า โรงเรียนแพทย์ เพื่อเอาเข้าที่ประชุมแพทย์ต่อไป จากนั้นจึงทำเรื่องส่งเคสต่อให้กับ คุณหมอ … รพ. … นัดตรวจกับคุณหมอ … ได้ในวันที่ 13 สค 2565 สำหรับกรณีจมูกเลือดออก มีทั้งหมด 1 ครั้ง ตั้งแต่ไหลในวันที่ 23 มิย แล้วไม่มีอาการเลือดออกอีกเลย สำหรับแผนการรักษา เนื่องจากผล CT ยังไม่สามารถบ่งชี้ จุดเกิดเหตุได้แน่ชัด แต่ผลชิ้นเนื้อ (ที่คาดว่ามาจาก ถุงซี้ด) แจ้งว่าเป็น SNUC ทางคุณหมอ … เชื่อว่า AE1/AE3 มีความน่าเชื่อถือกว่า และอยากให้ผมทำการตรวจเพิ่มอีกสองอย่างคือ bone scan กับ PET-CT ซึ่งจะรอความเห็นเพิ่มเติม จากคุณหมอบุญ …อีกครั้งหนึ่่ง

ผมมีเรื่องรบกวนขอคำแนะนำคุณหมอสันต์ ดังนี้

เนื่องจากการที่ผมลองค้น paper อ่าน พบว่า SNUC เป็น rare cancer ที่ไม่สามารถทำ protocol การรักษาได้อย่างชัดเจน (อ้างอิงจาก รพ.มะเร็งอุดร) และ SNUC เป็นชนิด undiff ซึ่งมีโอกาสที่จะลามไปยังที่อื่นได้รวดเร็ว ผมจึงเริ่มหยุดรับประทานเนื้อสัตว์ และเริ่มทานพืชผักจริงจัง ประกอบกับเริ่มทำตารางออกกำลังการใหม่ และพยายามนอนก่อน 21.30 เพื่อตื่นไปทำงาน ตอน 05.00

1. จาก GHBY camp ผมเข้าใจว่าสำหรับคนปกติ ถ้าจะงดเนื้อสัตว์แบบเบาๆ อาหารพวกปลาเนื้อขาวไขมันต่ำ นม และไข่ ยังสามารถอนุโลม ให้รับประทานได้

แต่ถ้า อ้างอิงจากบความนี้ https://drsant.com/2018/01/blog-post_26-12.html

เมื่อผมมองเรื่อง เมไทโอนีน เป็นหลัก ผมไม่ควรทานปลา ไข่ นม  เนื่องจากเงื่อนไข การเป็นโรคต่างกัน ถูกต้องไหมครับ

2. ผมมองว่าเรื่องการรักษา ก็ดำเนินไปตาม protocol ครับ แต่เรื่องปรับตารางชีวิต เป็นสิ่งที่ผมเริ่มเองได้ 

สิ่งที่ผมอยากปรึกษาคือ ขั้นตอนการปฏิบัติและการเปลี่ยนการกินอาหาร ที่เหมาะสม ผมยังคงสามารถอ้างอิงจากบทความข้างต้นในข้อ 1 ได้ ถูกต้องไหมครับ

ทิ้งนี้ขอขอบคุณ อาจารย์หมอ มากครับที่ให้ความรู้ และคำแนะนำมาตลอดครับ

กอปรกับ ผมได้แนบเอกสารและผลการตรวจแนบมาด้วยเท่าที่ผมมีในตอนนี้

ขอแสดงความนับถือ

……………………………………………………

ตอบครับ

ก่อนตอบขอนิยามศัพท์

Immunohistochemistry แปลว่าการตรวจชนิดของเนื้องอกโดยตัดเอาชิ้นเนื้อไปย้อมสีในห้องแล็บด้วยวิธีใช้แอนตี้บอดี้หลายชนิด (มีร่วม 400 ชนิด) เข้าไปจับกับโมเลกุลโปรตีนของเนื้องอก ทำให้แยกแยะชนิดของเนื้องอกได้

anti cytokeratin AE1/AE3 เป็นแอนตี้บอดี้สองตัวควบที่จะจับกับโปรตีนที่มาจากเซลชนิดเยื่อบุผิว (epithelium) เท่านั้น ทำให้จำแนกก้อนมะเร็งได้ว่าเป็นมะเร็งชนิดเกิดจากเนื้อเยื่อบุผิว

SNUC ย่อจาก Sinonasal undifferentiated carcinoma แปลว่ามะเร็งของเนื้อเยื่อบุโพรงไซนัสและโพรงจมูกชนิดที่โตเร็วมาก

Undifferentiated เป็นการบอกกล่าวถึงสถานะความก้าวร้าวของมะเร็งจากวิธีที่มันแบ่งตัวออกลูกหลาน (differentiation) ถ้ามะเร็งแบ่งตัวช้าๆได้ลูกหลานที่สมบูรณ์มีหน้าตาเหมือนพ่อแม่และเหมือนเซลปกติของร่างกาย เรียกว่า well differentiated ก็จะเป็นมะเร็งแบบไม่ก้าวร้าว แต่ถ้าแบ่งตัวเร็วพรวดพราดลูกหลานที่ออกมาจะยังไม่ทันก่อตัวเป็นรูปร่างของเซลดีก็แบ่งตัวต่ออีกละ มองดูไม่ออกว่าเป็นเซลชนิดไหน อย่างนี้เรียกว่า poorly หรือ undifferentiated แปลว่าก้าวร้าวมาก

นิยามศัพท์เสร็จแล้วมาตอบคำถาม

1.. ถามว่าเท่าที่เรียนจากแค้มป์ GHBY มา การที่คนทั่วไปจะปรับอาหารไปกินพืชมากขึ้นแต่ยังอนุโลมให้กินเนื้อสัตว์ได้บ้างเช่นปลา นม และไข่ อย่างนี้เป็นการถูกต้องใช่ไหม ตอบว่าถูกต้องแล้วครับ หิ หิ คุณจะกินอะไรไม่กินอะไรใครจะไปบังคับคุณได้ แต่หลักของหมอสันต์คือให้ย้ายตัวเองจากการเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลักมากินพืชให้มากขึ้น คือจากสัตว์มากพืชน้อยมาเป็นพืชมากสัตว์น้อย จะเหลือสัตว์น้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ความแก่กล้าของบารมีแต่ละคน นี่เรียกว่าหลัก spectrum หมายความว่าจากซ้ายสุดคือกินแต่สัตว์ ไปจนถึงขวาสุดคือกินแต่พืช ในระหว่างนั้นคือ spectrum ท่านสาธุชนอยากอยู่ตรงไหนก็โปรดเลือกเอาตรงที่เหมาะเฉพาะสายตาของท่าน

2.. ถามว่าในงานวิจัยที่หมอสันต์เล่าถึงว่าหากกักเนื้องอกมะเร็งไม่ให้ได้รับเมไทโอนีน มะเร็งจะโตไม่ได้ และเมไทโอนีนมีมากในปลา ไข่ นม ดังนั้นการกินอาหารเพื่อป้องกันและรักษามะเร็งควรต้องงดปลา ไข่ นม ด้วยถูกไหม ตอบว่า สรุปอย่างนั้นยังไม่ถูกต้องในมุมของวิทยาศาสตร์ครับ เพราะวิทยาศาสตร์มีการจัดชั้นของหลักฐานวิจัยว่าเชื่อได้มากหรือน้อย หากจะถือเอาเฉพาะหลักฐานที่ชัดเจนแน่นอนแล้วซึ่งเป็นคำแนะนำมาตรฐานทั่วโลกในเรื่องอาหารป้องกันและรักษามะเร็ง อาหารที่สัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งมากขึ้นก็คือ

(1) เนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพราะมีโมเลกุลฮีม (heme) ที่ก่อมะเร็งได้

(2) เนื้อสัตว์ทุกชนิดที่เอาไปบ่มเป็นไส้กรอก เบคอน แฮม (processed meat) เพราะเกิดสารก่อมะเร็งขึ้นจากการบ่ม

(3) อาหารไขมันสูงเพราะไขมันในเลือดสูงและความอ้วนสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็ง

ส่วนกรณีมีหลักฐานวิจัยว่าเมื่อกักไม่ให้เซลมะเร็งได้รับเมไทโอนีนแล้วพบว่าเซลมะเร็งจะตาย ต่างจากเซลร่างกายปกติที่แม้ไม่ได้รับเมไทโอนีนก็ยังโตได้ นั่นเป็นการวิจัยเพาะเลี้ยงเซลเปรียบเทียบกันในห้องแล็บ หลักฐานจากการทดลองในห้องแล็บวงการแพทย์ถือเป็นหลักฐานระดับต่ำ ยังเอามาใช้ในคนทันทีไม่ได้ คือจะไปด่วนสรุปว่ากินปลากินไข่กินนมสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งมากขึ้นนั้นยังไม่ได้ ต้องรอการวิจัยในคนซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครทำ แต่ถ้าคนเป็นมะเร็งแล้วอยากจะทำทุกอย่างที่อาจจะทำให้มะเร็งฝ่อได้ จะอาศัยข้อมูลวิจัยจากห้องแล็บนี้ตั้งธงไม่กินปลา ไม่กินนม ไม่กินไข่ ก็ย่อมทดลองกับตัวเองได้ครับตำรวจไม่จับดอก

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

1.  Kushi LH1, Doyle C, McCullough M, Rock CL, Demark-Wahnefried W, Bandera EV, Gapstur S, Patel AV, Andrews K, Gansler T. American Cancer Society Guidelines on nutrition and physical activity for cancer prevention: reducing the risk of cancer with healthy food choices and physical activity. CA Cancer J Clin. 2012 Jan-Feb;62(1):30-67. doi: 10.3322/caac.20140.

2. Halpern BC, Clark BR et al.The effect of replacement of methionine by homocystein on survival of malignant and normal adult mammalian cells in culture. Proc Nat Acad Sci USA. 1974:74(4);1133-1136.