Latest

ชายแก่เลี้ยงแกะที่สามแยก

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

หนูรบกวนปรึกษาคุณหมอค่ะ คือ หลังจากหนูกลับจากแคมป์ sr 17 หนูก็นั่งสมาธิทุกวันค่ะ วันละประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งตั้งแต่ช่วงไปแคมป์ หนูก็ป่วยหลายอย่าง คือ เจ็บตาขวา เพราะตาไม่มีน้ำตา เป็นผลจากที่หนูไปผ่าสมองมา , กระเพาะ กรดไหลย้อน , เจ็บช่องคลอด เพราะไปใช้สบู่ขมิ้นโดยไม่รู้ว่าคือสบู่ขมิ้น คือป่วยสามอย่างนี้อยู่เดือนกว่า  ..หนูจึงตัดสินใจไป ct scan ตามที่หมอนัด follow มะเร็ง ทั้งๆที่ได้รับฟังคำปรึกษาคุณหมอสันต์ที่แคมป์แล้วว่าไม่ควรไป ct ถ้าไม่มีอาการ แต่ด้วยความที่ป่วยหลายอย่างไม่หาย จึงได้ตัดสินใจไป ct แต่หลังจาก ct วันที่ 16 ตค 64 พอวันที่ 25 ตค หนูก็ปวดกระดูกอุ้งเชิงกราน ปวดคล้ายๆตอนที่เป็นมะเร็งกระดูกอุ้งเชิงกราน กับตอนที่พังผืดขึ้นเลยค่ะ แต่พอวันที่ 28 ตค ฟังผล ct ปรากฎว่า ผลปกติหมด ทั้งช่วงอก ช่องท้องช่วงล่าง รวมถึงอุ้งเชิงกราน แรกๆหนูเอาเบาะรองนั่งมารอง หนูก็ปวดน้อยลง แต่ก็ไม่หายค่ะ ยังคงปวดมาก หนูจึงไปพบหมอระงับปวดเพราะคิดว่า พังผืดอาจจะขึ้นอีก แต่คุณหมอไม่คิดว่า เป็นพังผืด คุณหมอว่า เส้นประสาทหนูอาจจะทำงานผิดเพี้ยนไป จากการที่ช่องคลอดอักเสบแบบไม่มีสาเหตุ หรือมะเร็งอาจจะกลับมาในระดับเซลส์ คุณหมอจึงฉีดยาชาให้หนูที่ก้นทั้งสองข้าง แต่ไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ หนูจึงไปพบคุณหมอกระดูก คุณหมอกระดูกสันนิษฐานว่า เส้นประสาทหนูอาจจะทำงานผิดปกติ เพราะหนูเคยฉายแสงบริเวณนี้ และเพราะหนูนั่งสมาธินาน กอปรกับหนูผอมลงมาก ทำให้ไปนั่งกดทับเส้นประสาท และคุณหมอจะส่งหนู mri ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ใช่มะเร็ง รวมถึงดูพังผืดด้วย หนูก็ปวดอยู่หลายวันเลยค่ะ ตอนปวด หนูก็ดูความปวด อยู่กับการใช้ชีวิต ไม่อยู่กับสถานการณ์ในชีวิตที่ได้เรียนจากคุณหมอ และหนูก็จะไปคาดิโอเบาๆ พอได้ขยับขา อาการก็จะทุเลาลงค่ะ ล่าสุด วันที่ 12 พย คุณหมอจ่ายยา brillior(pregabalin)cap 50 mg มาทานก่อนนอนวันละ 1 เม็ด ทีแรกหนูจะไม่รับยา กลัวผลข้างเคียง เพราะหนูมักจะแพ้ยาแก้ปวด แต่คุณหมอบอกว่า ยาช่วยรักษาด้วย และถ้าหนูทนปวด สมองหนูจะจำความปวดไว้ ถึงหนูหายปวด หนูก็ยังจะรู้สึกปวด หลังจากทานยา อาการปวดก็ลดลงเยอะค่ะ จากระดับ 7-8 ก็เหลือ 2-3 ความถี่ในความปวดก็น้อยลงด้วยค่ะ ตอนนี้หนูได้คิว mri ที่จุฬา 29 เมษา ปีหน้าเลยค่ะ คุณหมอกระดูกบอกให้ลองทานยาดูวีค นึง วันที่ 19 พย นัดอีกที ให้เอาใบนัด mri ไปให้คุณหมอ คุณหมอจะเร่งคิวให้ หรือไม่ก็คงต้องไป mri ที่อื่น นอกจากนี้ หนูยังมีอาการกรดไหลย้อนหนัก คุณหมอก็ให้ลองทานยา GASMoton 5 MG(LASA) (20TA) ก่อนอาหาร เช้า กลางวันเย็น กับ DEXILANT 60 MG(Dexiansoprazole)(7 CA) ทานครบสัปดาห์ ถ้าไม่หาย จะส่องกล้องค่ะ ส่วนคุณหมอกระเพาะปัสสาวะ ก็บอกให้หนูไปตรวจมะเร็งปากมดลูก คือหนูก็เลยยิ่งรู้สึกว่า ที่หนู ct ไปทั้งช่วงบน ช่วงล่าง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ตอนนี้ หนูไม่ได้อยากหาย รอวันหายเหมือนช่วงแรกๆที่ป่วยแล้วนะคะ ก็คิดว่า ทำไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่อยากจะทำอะไรกับร่างกายมาก เลยตั้งใจว่า จะทานยารักษากรดไหลย้อน พร้อมกับระวังการทานอาหารตามที่คุณหมอบอก โดยจะหยุดการทานพวกสารพัดถั่ว อัลมอนด์ พิททาชิโอ แมคคาเดเมีย ที่หนูชอบทาน ส่วนเรื่องปวดกระดูกก็คงไปพบคุณหมอตามนัด แต่ยังไม่รู้จะยังไงกับการ mri นะคะ และสำหรับเรื่องตรวจมะเร็งปากมดลูก หนูคิดว่าจะไม่ตรวจค่ะ เพราะหนูเพิ่งหายจากอาการเจ็บช่องคลอด และก็จะทำตามที่คุณหมอสันต์บอกว่า ไม่ต้องไปตรวจจนกว่าจะมีอาการ จึงอยากจะเรียนสอบถามคุณหมอว่า หนูควรจะส่องกล้องกระเพาะ, mri อุ้งเชิงกราน หรือตรวจมะเร็งปากมดลูกมั้ยคะ และอาการเส้นประสาททำงานผิดปกติ เราควรจะรักษาอย่างไรดีคะ เพราะฟังจากแนวทางการรักษา ก็เริ่มจากทานยา กระตุ้นไฟฟ้า จนถึงน็อคเส้นประสาทให้ไม่รับรู้ความรู้สึกไปเลย คือหนูไม่รู้ว่า ถ้าหนูหยุดทานยา อาการปวดจะกลับมามั้ย จริงๆหนูลงแคมป์ sr 18 ที่จะจัดในเดือนธันวาไว้นะคะ แต่เพิ่งแจ้งเลื่อนไปก่อน ด้วยความป่วยที่เล่ามาอ่ะค่ะ แล้วช่วงนี้หนูก็หยุดนั่งสมาธิ นอนดูลมหายใจแทน แต่ไม่นานหนูก็หลับ เพราะฤทธิ์ยา แล้วหนูก็เพลีย เพราะนั่งนานไม่ค่อยได้ค่ะ ต้องคอยลุกเดิน 

ถ้าทุกอย่างคลี่คลาย sr19 หนูคงไปแคมป์ของคุณหมอนะคะ

กราบขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ

…..

ส่งจาก iPhone ของฉัน

……………………………………………………………………………………..

ตอบครับ

1.. ถามว่าควรไปส่องตรวจกระเพาะ ตรวจเอ็มอาร์ไออุ้งเชิงกราน หรือตรวจมะเร็งปากมดลูกไหม ตอบว่า คุณกำลังว่ายวนอยู่ในทะเลของการอยู่ให้รอด (survival mode) พยายามทำทุกอย่างที่เขตอำนาจของคุณจะทำได้เพื่อให้ร่างกายนี้ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของความเป็นบุคคลคนนี้ คงอยู่ได้

แต่ผมจะบอกคุณนะ ว่าโดยวิธีจัดตั้งของ medical industry อย่างทุกวันนี้ มีแผนกต่างๆ มีสาขาความชำนาญต่างๆ มีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มันจะเป็นกับดักให้คุณว่ายวนอยู่ในนั้นได้จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นี่แหละที่ผมเรียกว่าสถานะการณ์ของชีวิต ซึ่งจะดูดไม่ให้คุณมีโอกาสใช้ชีวิต ผมหมายถึงการอยู่ที่นี่ ยอมรับทุกอย่างตามที่มันเป็น หายใจเข้าลึกๆ ยิ้ม หายใจออก ผ่อนคลาย ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเข้ามา และผ่านออกไป อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด แค่ปล่อยวาง ยอมรับ ยอมแพ้ ไม่ต่อสู้ ไม่พยายาม มันจะดีขึ้น มันจะแย่ลง ช่างแม่..ม โอเค.หมด นี่คือการใช้ชีวิต

อีกอย่างหนึ่งที่ผมจะบอกคุณคือตัวคุณหรือตัวผมก็ตามเป็นเพียงเม็ดฝุ่นเม็ดเล็กๆในท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ อย่าไปคิดว่าเราจะดลบันดาลอะไรให้เกิดขึ้นในชีวิตเราได้มากมาย นั่นเป็นความหลอนหรือคอนเซ็พท์ที่ความคิดของเราสร้างขึ้น ความเป็นจริงคือชีวิตนี้ดำรงอยู่ได้เพราะการสนับสนุนจากจักรวาลนี้ทุกๆแต่ละลมหายใจ แค่ไม่มีอากาศหายใจห้านาทีเราก็ตายแล้ว ไม่ใช่ว่าเราอยู่ได้เพราะเราพยายามทำนั่นทำนี่ แต่เพราะจักรวาลนี้สนับสนุนเราต่างหาก เราจึงอยู่ได้ ให้คุณเรียนรู้ที่จะไว้ใจ (trust) ในจักรวาลนี้ ว่าเรื่องทุกเรื่องมันจะมีความลงตัวของมันอยู่เสมอ ขอแค่คุณนิ่งๆ วางความคิดยึดมั่นถือมั่นในอัตตาหรือความพยายามอยากทำนั่นทำนี่ลงไปให้เกลี้ยง เหลือแต่ความรู้ตัวที่อยู่ร่มๆเย็นๆในความว่างๆ ที่เหลือปล่อยให้จักรวาลนี้ดำเนินกิจการไปตามแบบของมันเอง แล้วทุกอย่างมันจะลงตัวเอง

ผมเคยพูดกับใครก็ไม่รู้ไม่นานมานี้เองซึ่งป่วยมากอย่างคุณนี่แหละ ว่าอุปมาอุปไมย เหมือนคุณอาศัยอยู่ในบ้านที่มืดสนิทตอนกลางดึก มองอะไรไม่เห็น ไม่มีอุปกรณ์ใดๆที่จะช่วยส่องสว่าง สิ่งที่คุณพึงทำก็คือแค่เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ รอดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วสาดแสงเข้าหน้าต่างมา ถ้าคุณไม่เปิดหน้าต่าง คุณก็จะอยู่ในความมืดอย่างนั้นต่อไป และเมื่อคุณเปิดหน้าต่างแล้ว หน้าที่ของคุณหมดแล้ว ไม่ต้องคะยั้นคะยอว่าเมื่อไหร่แสงจะเข้ามา เวลาจะพาแสงสว่างผ่านหน้าต่างน้้นเข้ามาเอง

2.. ถามว่าไป SR17 มาแล้ว จอง SR18 แต่ไม่ทัน จะไป SR19 จะดีไหม ตอบว่า อุปมาอุปไมย ถ้าคุณไปเดินป่าในต่างประเทศ สมมุติว่าคุณไปเดินป่าที่นิวซีแลนด์ก็แล้วกัน ซึ่งป่าของเขาปลอดภัยจนผู้หญิงตัวคนเดียวก็ไปเดินได้ คุณเดินไปตั้งใจจะไปกระท่อมที่พักนักท่องเที่ยว แต่เดินตามทางเดินในป่าแคบๆลัดเลาะไปตามพุ่มไม้ พอมาโผล่ตรงที่โล่งหน่อยก็กลายเป็นสามแยก คุณไม่แน่ใจว่าคุณจะไปทางซ้ายหรือไปทางขวาดี พอดีมีชายแก่เลี้ยงแกะอยู่แถวนั้นคนหนึ่ง คุณตะโกนถามเขาว่าไปกระท่อมที่พักนักท่องเที่ยวไปทางซ้ายหรือทางขวา เขาชี้พลางบอกว่าไปทางขวา แต่คุณมองทางไปแล้วช่างรกชัฏน่ากลัว อย่ากระนั้นเลย ไปทางซ้ายซึ่งโล่งโถงดูปลอดภัยกว่าก็แล้วกัน ว่าแล้วคุณก็เลี้ยวซ้าย ตาแก่คนนั้นได้แต่มองดูคุณตาปริบๆ แน่นอนคุณไปผิดทางเสียแล้ว ทางนั้นมันพาคุณกลับไปวนอยู่ในป่าเกือบชั่วโมงแล้วก็พาคุณมาที่สามแยกเดิมอีก ตาแก่ชายเลี้ยงแกะคนนั้นก็ยังอยู่ที่นั่น คุณจะตะโกนถามเขาอีกครั้งไหมว่า “ไปกระท่อมที่พักนักท่องเที่ยวไปทางไหน”

ฉันใดก็ฉันเพล SR ทำได้แค่บอกทางแก่คุณเท่านั้น ถ้าบอกแล้วคุณไม่เดินไปตามทางที่เขาบอก ถึงคุณจะไป SR สักสิบครั้ง แล้วคุณจะไปถึงเป้าหมายไหมเนี่ย คิดเอาเองนะ หิ..หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์